ปทปรมะ [2] (บาลีวันละคำ 4,761)

ปทปรมะ [2]
ไม่ได้แปลว่า “ส้นตีน”
พูดเล่นได้ แต่อย่าเข้าใจว่าจริง
“ปทปรมะ” อ่านว่า ปะ-ทะ-ปะ-ระ-มะ ประกอบด้วยคำว่า ปท + ปรมะ
(๑) “ปท”
บาลีอ่านว่า ปะ-ทะ รากศัพท์มาจาก ปทฺ (ธาตุ = ไป, ถึง, เป็นไป) + อ (อะ) ปัจจัย
: ปทฺ + อ = ปท แปลตามศัพท์ว่า (1) “สภาวะอันพระอริยะบรรลุ” = นิพพาน (2) “สิ่งเป็นเหตุเป็นไปแห่งผล” = เหตุ, เค้ามูล, ปัจจัย (3) “อวัยวะเป็นเครื่องเดินไป” = เท้า
“ปท” ในบาลีใช้ในความหมายอะไรบ้าง :
(1) เท้า (foot)
(2) การก้าว, รอยเท้า, ทาง (step, footstep, track)
(3) หนทาง, ช่องทาง (way, path)
(4) ตำแหน่ง, สถานที่ (position, place)
(5) กรณี, โชคชะตา, หลักการ, ส่วน, องค์ประกอบ, ลักษณะ, ส่วนประกอบ, รายการ, สิ่งของ, มูลฐาน (case, lot, principle, part, constituent, characteristic, ingredient, item, thing, element)
(6) ในบทร้อยกรองหมายถึง คำ, ฉันท์ [หรือหนึ่งในสี่ของฉันท์], โศลก, บท, ประโยค (a word, verse [or a quarter of a verse], stanza, line, sentence)
“ปท” ในภาษาไทยมักใช้ทับศัพท์ว่า “บท”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายของ “บท” ในภาษาไทยไว้ดังนี้ –
(1) ข้อความเรื่องหนึ่ง ๆ หรือตอนหนึ่ง ๆ เช่น บทที่ ๑ บทที่ ๒.
(2) กำหนดคำประพันธ์ที่ลงความตอนหนึ่ง ๆ เช่น โคลง ๔ สุภาพ ๔ บาท เป็น ๑ บท
(3) คำที่ตัวละครพูด เช่น บอกบท.
(4) คำประพันธ์ที่เขียนขึ้นสำหรับเล่นละคร มีทั้งบทร้องและบทเจรจา เช่น บอกบท เขียนบท.
(5) คราว, ตอน, ในคำเช่น บทจะทำก็ทำกันใหญ่ บทจะไปก็ไปเฉย ๆ บทจะตายก็ตายง่ายเหลือเกิน.
(๒) “ปรมะ”
เขียนแบบบาลีเป็น “ปรม” อ่านว่า ปะ-ระ-มะ รากศัพท์มาจากหลายทาง แสดงในที่นี้พอเป็นตัวอย่าง :
(1) ปร (ข้าศึก) + มรฺ (ธาตุ = ตาย) + กฺวิ ปัจจัย ลบที่สุดธาตุ และลบปัจจัย
: ปร + มรฺ = ปรมร + กฺวิ = ปรมรกฺวิ > ปรม แปลตามศัพท์ว่า “ยังธรรมอันเป็นข้าศึกให้ตาย”
(2) ป (ทั่วไป) + รมฺ (ธาตุ = ยินดี) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ
: ป + รมฺ = ปรม + ณ = ปรมณ > ปรม แปลตามศัพท์ว่า “ยินดีในความยิ่งใหญ่”
(3) ปรฺ (ธาตุ = รักษา) + ม ปัจจัย
: ปร + ม = ปรม แปลตามศัพท์ว่า “รักษาความสูงสุดของตนไว้”
“ปรม” หมายถึง สูงสุด, พิเศษสุด, เป็นเลิศ, ดีที่สุด (highest, most excellent, superior, best)
“ปรม” ที่ใช้ภาษาไทยว่า “บรม” (บอ-รม) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“บรม, บรม– : (คำวิเศษณ์) อย่างยิ่ง, ที่สุด, (มักใช้นำหน้าคำที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า พระเจ้าแผ่นดิน และพระอัครมเหสี เป็นต้น เพื่อแสดงพระเกียรติยศยิ่งใหญ่) เช่น บรมศาสดา บรมบพิตร บรมราชินี บรมมหาราชวัง. (ป., ส. ปรม); (ภาษาปาก) อย่างที่สุด เช่น โง่บรม บรมขี้เกียจ”
ปท + ปรม = ปทปรม (ปะ-ทะ-ปะ-ระ-มะ) แปลตามศัพท์ว่า “ผู้มีตัวบทคือพยัญชนะเป็นอย่างยิ่ง”
มีสูตรกระบวนการกระจายคำเพื่อหาความหมาย (รูปวิเคราะห์) ว่า –
พฺยญฺชนปทเมว ปรมํ อสฺสาติ ปทปรโม
พฺยญฺชนปทเมว = บทคือพยัญชนะเท่านั้น
ปรมํ = เป็นอย่างยิ่ง
อสฺส (ปุคฺคลสฺส) = ของบุคคลผู้นั้น
อิติ = เพราะเหตุนั้น
(โส ปุคฺคโล = อันว่าบุคคลนั้น)
ปทปรโม = ชื่อว่า ปทปรโม
ปทปรโม = ผู้มีตัวบทคือพยัญชนะเป็นอย่างยิ่ง > ผู้รู้แต่เพียงหัวข้อ
“ปทปรม” ใช้ในภาษาไทยเป็น “ปทปรมะ”
ขยายความ :

พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต บอกไว้ดังนี้ –
…………..
ปทปรมะ : “ผู้มีบท (คือถ้อยคำ) เป็นอย่างยิ่ง”, บุคคลผู้ด้อยปัญญาเล่าเรียนได้อย่างมากที่สุดก็เพียงถ้อยคำ หรือข้อความ ไม่อาจเข้าใจความหมาย ไม่อาจเข้าใจธรรม.
…………..
“ปทปรมะ” เป็นชื่อเรียกบุคคลประเภทหนึ่งในจำนวน 4 ประเภท ที่เปรียบกับบัว 4 เหล่า คือ –
1 อุคฆฏิตัญญู (อุก-คะ-ติ-ตัน-ยู) ผู้รู้เข้าใจได้ฉับพลันเพียงแต่ยกหัวข้อขึ้นแสดง เหมือนดอกบัวที่โผล่พ้นน้ำ พอสัมผัสแสงอาทิตย์ก็บานทันที
2 วิปจิตัญญู (วิ-ปะ-จิ-ตัน-ยู) ผู้รู้เข้าใจต่อเมื่อได้ฟังคำขยายความ เหมือนดอกบัวที่ปริ่มน้ำ จักบานในวันพรุ่งนี้
3 เนยยะ (เน็ย-ยะ) ผู้ที่พอจะแนะนำต่อไปได้ เหมือนดอกบัวที่ยังไม่โผล่พ้นน้ำ แต่จักโผล่ขึ้นและบานในวันต่อๆ ไป
4 ปทปรมะ (ปะ-ทะ-ปะ-ระ-มะ) ผู้ได้แค่ตัวบทคือถ้อยคำเป็นอย่างยิ่ง ไม่อาจเข้าใจความหมาย เหมือนดอกบัวจมอยู่ใต้น้ำที่จะกลายเป็นภักษาแห่งปลาและเต่า
“ปทปรมะ” อาจตีความได้ ๒ นัย คือ –
(1) หมายความว่า เอาดีได้ (= บรม) แค่ถ้อยคำ (= บท) รู้หลักธรรมมาก พูดได้ อธิบายได้ แต่ไม่ปฏิบัติ ดีแต่พูด
(2) หมายความว่า แม้จะใช้คำ (= บท) อบรม แนะนำ สั่งสอนไปมากมาย (= บรม) สักเท่าไร ก็ไม่เกิดผล คือไม่รับรู้ ไม่เชื่อฟัง ไม่ทำตาม ว่ากล่าวตักเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ยังไม่ได้ผลตามที่มุ่งหมาย
อุปมาอีกนัยหนึ่งอาจช่วยให้เข้าใจความหมายของ “ปทปรมะ” ได้ชัดเจนขึ้น
– อุคฆฏิตัญญู เหมือนคนที่พอบอกว่า “ไปแกงส้มมา” ก็สามารถไปทำแกงส้มมาได้โดยไม่ต้องอธิบายอะไรอีก
– วิปจิตัญญู เหมือนคนที่บอกว่า “ไปแกงส้มมา” ยังต้องอธิบายว่าแกงส้มต้องใส่อะไรบ้าง ต้องปรุงอย่างไร จึงจะแกงส้มได้
– เนยยะ เหมือนคนที่บอกว่า “ไปแกงส้มมา” ก็ยังไม่เข้าใจ บอกว่าต้องใช้เครื่องปรุงอะไรบ้าง ก็ยังไม่รู้จัก ต้องพาไปชี้ให้ดูว่า นี่หอม นี่กระเทียม ฯลฯ บอกว่าต้องตำเครื่องแกงอย่างนี้ ต้องปรุงอย่างนี้ ก็ยังทำไม่เป็นทันที ต่อเมื่อได้ฝึกสอนให้ทำไปเรื่อย ๆ จึงพอจะแกงส้มกินได้
– ปทปรมะ เป็นประเภทไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น แกงส้มคืออะไรก็ไม่รู้ เครื่องแกงส้มมีอะไรบ้างก็ไม่รู้ หอมกระเทียมหน้าตาเป็นอย่างไรก็ไม่รู้จัก ทั้งไม่ประสงค์จะรู้ด้วย บอกว่า “แกงส้ม” ก็จำได้คำเดียวแค่นี้ นอกเหนือไปจากนี้ไม่รับรู้อะไรหมด นี่คือ ปทปรมะ = เอาดีได้คำเดียว
แถม :
บางท่านช่างคิด แปล “ปท” ว่า เท้า แปล “ปรมะ” ว่า “หนาที่สุด” ใส่จินตนาการเข้าไปว่า ส่วนที่หนาที่สุดของเท้าก็คือ ส้นเท้า แล้วแปล “ปทปรมะ” ว่า ส้นเท้า หรือ “ส้นตีน” ลากเข้าหาธรรมะว่า พวกกิเลสหนาปัญญาทึบ เข็นไม่ขึ้น พัฒนาไม่ได้
โปรดทราบว่า คำว่า “ปทปรมะ” ไม่ว่าจะโดยอรรถะหรือโดยพยัญชนะ ไม่ได้แปลว่า ส้นเท้าหรือส้นตีน พูดเล่นสนุก ๆ ได้ แต่อย่าเข้าใจว่าเป็นจริง
…………..
ดูก่อนภราดา!
: คนโง่ ไม่กล้าทำความดีเพราะขี้ขลาด
: ดีกว่าคนฉลาดที่กล้าทำความชั่ว
#บาลีวันละคำ (4,761)
25-6-68
…………………………….
…………………………….