บาลีวันละคำ

เปสัล (บาลีวันละคำ 4,880)

เปสัล

ฝากไว้ในวงวรรณอีกคำหนึ่ง

อ่านว่า เป-สัน

เปสัล” รูปคำบาลีเป็น “เปสล” อ่านว่า เป-สะ-ละ รากศัพท์มาจาก ปิยสีล + ปัจจัย, ลบ , แปลง ปิย เป็น เป (ปิย > เป), แปลง อี ที่ สี– เป็น อะ (สีล > สล

: ปิยสีล + = ปิยสีลณ > ปิยสีล > เปสีล > เปสล แปลตามศัพท์ว่า “ผู้มีศีลเป็นที่รัก” 

ขยายความแทรก :

(ก) “ปิย” (ปิ-ยะ) รากศัพท์มาจาก ปี (ธาตุ = รักใคร่, ชอบใจ) + ณฺย ปัจจัย, ลบ , รัสสะ อี ที่ ปี เป็น อิ (ปี > ปิ)  

: ปี + ณฺย = ปีณฺย > ปีย > ปิย แปลตามศัพท์ว่า “ผู้อันบุคคลพึงรักใคร่” “สิ่งที่ควรรักชอบ

ปิย” ในบาลีมีความหมายว่า –

(1) ที่รัก, ผู้เป็นที่รัก (dear, beloved)

(2) น่าพึงพอใจ, คบได้, เป็นที่ชอบ (pleasant, agreeable, liked)

(ข) “สีล” (สี-ละ) รากศัพท์มาจาก –

(๑) สีลฺ (ธาตุ = สงบ, ทรงไว้) + (อะ) ปัจจัย

: สีลฺ + = สีล แปลตามศัพท์ว่า “เหตุสงบแห่งจิต” “เหตุให้ธำรงกุศลธรรมไว้ได้” “ธรรมที่ธำรงผู้ปฏิบัติไว้มิให้เกิดในอบาย” 

(๒) สิ (ธาตุ = ผูก) + ปัจจัย, ทีฆะ อิ ที่ สิ เป็น อี

: สิ + = สิล > สีล แปลตามศัพท์ว่า “เครื่องผูกจิตไว้

นัยหนึ่งนิยมแปลกันว่า “เย็น” หรือ “ปกติ” โดยความหมายว่า เมื่อไม่ละเมิดข้อห้ามก็จะทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นปกติเรียบร้อย

สีล” หมายถึง :

(1) ข้อปฏิบัติทางศีลธรรม, นิสัยที่ดี, จริยธรรมในพุทธศาสนา, หลักศีลธรรม (moral practice, good character, Buddhist ethics, code of morality)

(2) ธรรมชาติ, นิสัย, ความเคยชิน, ความประพฤติ (nature, character, habit, behavior)

สีล” ในบาลี เป็น “ศีล” ในสันสกฤต

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า –

(สะกดตามต้นฉบับ)

(1) ศีล : (คำคุณศัพท์) มี; มีความชำนาญ; มีมรรยาทหรือจรรยาดี, มีอารมณ์ดี; endowed with, or possessed of; versed in; well-behaved, well-disposed.

(2) ศีล : (คำนาม) ชาติหรือปรกฤติ, คุณหรือลักษณะ; ภาวะหรืออารมณ์; สุศีล, จรรยา– มรรยาท– หรืออารมณ์ดี; การรักษาหรือประติบัทธรรมและจรรยาไว้มั่นและเปนระเบียบ; โศภา, ความงาม; งูใหญ่; nature, quality; disposition or inclination; good conduct or disposition; steady or uniform observance of law and morals; beauty; a large snake.

ในภาษาไทยนิยมใช้ตามรูปสันสกฤตเป็น “ศีล

พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต ขยายความคำว่า “ศีล” ไว้ว่า –

ศีล : ความประพฤติดีทางกายและวาจา, การรักษากายและวาจาให้เรียบร้อย, ข้อปฏิบัติสำหรับควบคุมกายและวาจาให้ตั้งอยู่ในความดีงาม, การรักษาปกติตามระเบียบวินัย, ปกติมารยาทที่ปราศจากโทษ, ข้อปฏิบัติในการฝึกหัดกายวาจาให้ดียิ่งขึ้น, ความสุจริตทางกายวาจาและอาชีพ; มักใช้เป็นคำเรียกอย่างง่ายสำหรับคำว่า อธิศีลสิกขา (ข้อ ๑ ในไตรสิกขา, ข้อ ๒ ในบารมี ๑๐, ข้อ ๒ ในอริยทรัพย์ ๗, ข้อ ๒ ในอริยวัฑฒิ ๕)

……………

พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต ข้อ [326] ขยายความคำว่า “ศีล” ไว้ว่า –

……………

ศีล (ความประพฤติดีงาม คือ สำรวมกายและวจีทวาร ประกอบแต่การสุจริต รักษากิตติคุณให้ควรเป็นตัวอย่าง และเป็นที่เคารพนับถือของประชาราษฎร์ มิให้มีข้อที่ใครจะดูแคลน — Sīla: high moral character).

……………

เปสล” แปลตามศัพท์ว่า “ผู้มีศีลเป็นที่รัก” หมายความว่า เป็นผู้มีใจรักในศีล พูดตามสำนวน “ตั้งวิเคราะห์” ในทางไวยากรณ์ก็พูดว่า –

ศีลเป็นที่รักของผู้นั้น เหตุนั้น ผู้นั้นจึงชื่อว่า เปสล = ผู้มีศีลเป็นที่รัก  

ผู้มีใจรักในศีล ก็ทำนองเดียวกับผู้มีใจรักในเรื่องอื่น ๆ เช่น :

– ผู้มีใจรักในกล้วยไม้ = ผู้มีกล้วยไม้เป็นที่รัก 

– ผู้มีใจรักในการอ่าน = ผู้มีการอ่านเป็นที่รัก 

– ผู้มีใจรักในการร้องเพลง = ผู้มีการร้องเพลงเป็นที่รัก 

– ผู้มีใจรักในการท่องเที่ยว = ผู้มีการท่องเที่ยวเป็นที่รัก 

ดังนั้น ผู้มีใจรักในศีล = ผู้มีศีลเป็นที่รัก

เปสล = ผู้มีศีลเป็นที่รัก” ในบาลีมักใช้เป็นคำเรียกภิกษุผู้รักษาศีลได้บริสุทธิ์ ไม่ล่วงละเมิดศีล เช่น วัตถุประสงค์แห่งการบัญญัติพระวินัย 10 ประการ ข้อที่ 4 บอกไว้ว่า –

เปสลานํ  ภิกฺขูนํ  ผาสุวิหาราย

แปลตามสำนวนบาลีว่า “เพื่อความอยู่ผาสุกแห่งภิกษุทั้งหลายผู้มีศีลเป็นที่รัก

พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต ข้อ [327] วัตถุประสงค์ในการบัญญัติพระวินัย 10 แปลเป็นไทยว่า “เพื่อความอยู่ผาสุกแห่งเหล่าภิกษุผู้มีศีลดีงาม” และแปลเป็นอังกฤษว่า for the living in comfort of well-behaved monks.

…………..

ผู้เขียนบาลีวันละคำได้เห็นคำกล่าวที่ออกมาจากสำนักศาสนาแห่งหนึ่ง พูดถึง “ผู้มีศีลเป็นที่รัก” แต่มีสำนวนแปลกออกไป คือพูดว่า “ผู้มีศีลอันเป็นที่รักของเพื่อนผู้ประพฤติพรหมจรรย์ด้วยกัน” 

ที่พูดอย่างนี้ก็คือ แยก “ผู้มีศีล” เป็นคำหนึ่ง “เป็นที่รักของเพื่อนผู้ประพฤติพรหมจรรย์ด้วยกัน” เป็นอีกคำหนึ่ง

โปรดทราบว่า สำนวน “ผู้มีศีลเป็นที่รัก” ที่แปลมาจากคำบาลีว่า “เปสล” มีความหมายคำเดียว คือคำว่า “ผู้มีศีลเป็นที่รัก” หมายถึงเป็นผู้รักศีล คือตั้งใจรักษาศีลไม่ให้บกพร่อง เท่านี้ ไม่มีคำที่บอกว่า ภิกษุผู้มีศีลจะเป็นที่รักของใครบ้าง 

คำท่อนที่ว่า “เป็นที่รักของเพื่อนผู้ประพฤติพรหมจรรย์ด้วยกัน” จึงเป็นคำที่เติมเข้ามาตามจินตนาการของผู้เติม เรียกว่า “เป็นคำแต่งใหม่” ก็ได้

ไม่น่าเชื่อว่า คำว่า “เปสล” มีเก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ด้วย แต่เก็บเป็นคำไทยว่า “เปสละ” บอกคำอ่านว่า เป-สะ-ละ (ถ้าไม่บอกคำอ่านแบบนี้ คงมีคนอ่านว่า เป-สะ-หฺละ) บอกไว้ดังนี้ – 

เปสละ : (คำวิเศษณ์) ที่มีศีลเป็นที่รัก. (ป.).”

ผู้เขียนบาลีวันละคำขอแปลง “เปสล” เป็น “เปสัล” อ่านว่า เป-สัน นักตั้งชื่อ ถ้าไม่รังเกียจ จะเอาไปตั้งเป็นชื่อผู้ชายก็น่าจะขำดี สุ้มเสียงเอียงไปข้างฝรั่งนิด ๆ แบบเดียวกับ เจสัน ปีเตอร์สัน-ประมาณนั้น

ผู้เขียนบาลีวันละคำไม่สงวนลิขสิทธิ์แต่ประการใด ขอฝากไว้ในวงวรรณอีกคำหนึ่ง

…………..

ดูก่อนภราดา!

: เรารักษาศีล

: ศีลก็รักษาเรา

#บาลีวันละคำ (4,880)

22-10-68

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้