บาลีวันละคำ

ประสูติการ – ประสูติกาล (บาลีวันละคำ 1,080)

ประสูติการ – ประสูติกาล

ประกอบด้วย ประสูติ + การ, หรือ + กาล

หลักการอ่าน :

ประสูติ อยู่เดี่ยวหรืออยู่ท้ายคำ อ่านว่า ปฺระ-สูด

ประสูติ– มีคำอื่นมาสมาสข้างท้าย อ่านว่า ปฺระ-สู-ติ-

เช่นในคำว่า “ประสูติการ” หรือ “ประสูติกาล” ก็อ่านว่า ปฺระ-สู-ติ-กาน

(๑) “ประสูติ

บาลีเป็น “ปสูติ” (ปะ-สู-ติ) รากศัพท์มาจาก (ทั่วไป, ปกติ) + สู (ธาตุ = คลอดลูก) + ติ ปัจจัย

: + สู + ติ = ปสูติ แปลตามศัพท์ว่า “การคลอดลูก” คือ การให้กำเนิด, การเกิด (bringing forth, birth)

(๒) “การ

บาลีอ่านว่า กา-ระ รากศัพท์มาจาก กรฺ (ธาตุ = ทำ) + ปัจจัย, ลบ , ยืดเสียง อะ ที่ -(รฺ) เป็น อา

: กรฺ + = กรณ > กร > การ แปลตามศัพท์ว่า “การทำ

การ” มีความหมายว่า การกระทำ, กิริยาอาการ, วิธีทำ, การบริการ, การกระทำที่แสดงความเมตตา ความเคารพ หรือความนับถือ; ผู้ทำ ผู้จัดการ หรือผู้ค้า

ความหมายของ “การ” ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

(1) การ ๑ : (คำนาม) งาน, สิ่งหรือเรื่องที่ทํา, มักใช้เข้าคู่กับคํา งาน เช่น การงาน เป็นการเป็นงาน ได้การได้งาน, ถ้าอยู่หน้านาม หมายความว่า เรื่อง, ธุระ, หน้าที่, เช่น การบ้าน การครัว การคลัง การเมือง, ถ้าอยู่หน้ากริยา ทํากริยาให้เป็นนาม เช่น การกิน การเดิน.

(2) –การ ๒ : (คำนาม) ผู้ทํา, มักใช้เป็นส่วนท้ายสมาสคําบาลีและสันสกฤต เช่น กรรมการ ตุลาการ, ถ้าอยู่หลังคําอื่นที่ไม่ใช่คําศัพท์ มีความหมายเป็นเฉพาะก็มี เช่น กงการ เจ้าการ นักการ ผู้บังคับการ ผู้กำกับการ.

(3) –การ ๓ : คําประกอบท้ายสมาสคําบาลีและสันสกฤต มีความหมายเหมือน การ ๑ เช่น ราชการ พาณิชยการ.

ในที่นี้ “การ” ใช้ตาม –การ

(๓) “กาล

บาลีอ่านว่า กา-ละ รากศัพท์มาจาก กลฺ (ธาตุ = นับ, คำนวณ, สิ้นไป) + ปัจจัย, ลบ , ยืดเสียง อะ ที่ -(ลฺ) เป็น อา

: กลฺ + = กลณ > กล > กาล แปลตามศัพท์ว่า “เครื่องนับประมาณอายุเป็นต้น” “ถูกนับว่าล่วงไปเท่านี้แล้ว” “ยังอายุของเหล่าสัตว์ให้สิ้นไป” หมายถึง เวลา, คราว, ครั้ง, หน

กาล” ที่หมายถึง “เวลา” (time) ในภาษาบาลียังใช้ในความหมายที่ชี้ชัดอีกด้วย คือ :

1 เวลาที่กำหนดไว้, เวลานัดหมาย, เวลาตายตัว (appointed time, date, fixed time)

2 เวลาที่เหมาะสม, เวลาที่สมควร, เวลาที่ดี, โอกาส (suitable time, proper time, good time, opportunity)

ประสูติ + การ = ประสูติการ

ประสูติ + กาล = ประสูติกาล

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

(1) ประสูติ, ประสูติ– : (ราชาศัพท์) (คำนาม) การเกิด; การคลอด. (คำกริยา) เกิด; คลอด. (ส. ปฺรสูติ; ป. ปสูติ).

(2) ประสูติการ : (คำนาม) การเกิด, ราชาศัพท์ใช้ว่า พระประสูติการ.

(3) ประสูติกาล : (คำนาม) เวลาเกิด, ราชาศัพท์ใช้ว่า พระประสูติกาล.

ปัญหา :

เมื่อมีทั้ง “ประสูติการ” และ “ประสูติกาล” ทำให้มีผู้ใช้ปนเปกันไปทั้งสองคำ จึงเกิดปัญหาว่า

ประสูติการ : ใช้ในกรณีไหน

ประสูติกาล : ใช้ในกรณีไหน

หรือว่า ไม่ว่าจะกรณีไหนๆ ก็ใช้ได้ทั้งสองคำ ?

ข้อเสนอ :

เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ขอเสนอให้กำหนดวิธีใช้ดังนี้ :

ประสูติการ (-การ- ร เรือ) ใช้เมื่อพูดถึงเจ้านายผู้หญิงคลอดลูก

จะคลอดเมื่อไร คลอดที่ไหน ก็พูดต่อไปได้ แต่คงใช้ ประสูติการ เพราะเป็นการพูดถึง “การคลอด” = ประสูติการ

ประสูติกาล : (-กาล ล ลิง) ใช้เมื่อพูดถึงเจ้านาย (ทั้งชายและหญิง) ว่าเกิดเมื่อไร

ประสูติการ : การคลอด (ของแม่)

ประสูติกาล : เวลาเกิด (ของลูก)

เมื่อพูดถึงการคลอด (ของแม่) ใช้ “ประสูติการ” (-การ ร เรือ)

เมื่อพูดถึงเวลาเกิด (ของลูก) ใช้ “ประสูติกาล” (-กาล ล ลิง)

เปรียบเทียบความแตกต่าง :

เหตุการณ์ : เจ้าหญิง เอ คลอดลูกเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2558 เป็นหญิง ชื่อ เจ้าหญิง บี

(๑) พูดถึงเจ้าหญิง เอ (แม่):

เจ้าหญิง เอ ทรงมีพระประสูติการ เป็นพระธิดา เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2558 เวลา 14:34 นาฬิกา

ใช้ “ประสูติการ” (-การ ร เรือ) เพราะประธานคือ “เจ้าหญิง เอ” (แม่) ทำกริยา “มีพระประสูติการ” คือ “การคลอดลูก

จะใช้ “ประสูติกาล” (-กาล ล ลิง) ไม่ได้ เพราะไม่ได้พูดถึง “เวลาเกิด” หรือ “เวลาคลอด” (ประสูติกาล) ของประธานในประโยค ( = ประธานในประโยคเกิดเมื่อไร)

(๒) พูดถึงเจ้าหญิง บี (ลูก):

เจ้าหญิง บี ทรงมีพระประสูติกาล เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2558 เวลา 14:34 นาฬิกา

กรณีนี้เป็นการพูดถึงเจ้าหญิง บี (ประธานในประโยค) ว่าเกิดเมื่อไร จึงต้องใช้ “ประสูติกาล” (-กาล ล ลิง) = เวลาเกิด

จะใช้ “ประสูติการ” (-การ ร เรือ) ไม่ได้ เพราะไม่ได้พูดถึง “การคลอดลูก” (ประสูติการ) ของเจ้าหญิง บี ซึ่งเป็นประธานในประโยค

วิธีพิสูจน์ความเหมาะสมกลมกลืนหรือความสมเหตุสมผลที่แน่นอนวิธีหนึ่งก็คือ เอาความหมายธรรมดาใส่แทนคำราชาศัพท์

ประสูติการ : การคลอดลูก (ของแม่)

ประสูติกาล : เวลาเกิด (ของลูก) หรือจะให้หมายถึง “เวลาคลอด” (ของแม่) ก็ได้

พิสูจน์ :

(๑) ใช้ “ประสูติการ” = การคลอดลูก

: เจ้าหญิง เอ ทรงมี “การคลอดลูก” เป็นพระธิดา เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2558 เวลา 14:34 นาฬิกา

(๒) ใช้ “ประสูติกาล” = เวลาคลอด

: เจ้าหญิง เอ ทรงมี “เวลาคลอด” เป็นพระธิดา เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2558 เวลา 14:34 นาฬิกา

จะเห็นได้แล้วว่า “ประสูติการ” (การคลอดลูก) เหมาะสมกลมกลืนสมเหตุสมผลกว่า “ประสูติกาล” (เวลาคลอด)

อภิปราย :

๑ เข้าใจว่าคำเดิมแท้ที่ใช้ คือ “ประสูติการ” (-การ ร เรือ) ซึ่งแปลตามศัพท์ว่า “การคลอดลูก

๒ ต่อมา มีคนเขียนคำนี้เป็น “ประสูติกาล” (-กาล ล ลิง) ด้วยความเข้าใจผิด แบบเดียวกับ “ดนตรีการ” มีคนเขียนผิดเป็น “ดนตรีกาล” นั่นเอง

๓ เมื่อเขียนผิดแล้ว แทนที่จะแก้ไขให้ถูก กลับอธิบายผิดให้กลายเป็นถูก คือพากันแปล “ประสูติกาล” (-กาล ล ลิง) ว่า “เวลาคลอด” แล้วอธิบายลากเข้าหาความต่อไปว่า “ประสูติกาล” หมายความว่า “คลอดเมื่อไร” คือพูดถึงว่าเจ้านายผู้หญิงพระองค์นั้นทรงคลอดลูกเมื่อไร ซึ่งฟังเผินๆ ก็ดูคล้ายกับจะสมเหตุสมผล คือเมื่อพูดถึงผู้หญิงคลอดลูก เราก็มักจะพูดกันว่า “คลอดเมื่อไร” คำว่า “คลอดเมื่อไร” มีนัยหมายถึง “เวลาที่คลอด” ซึ่งก็สอดรับกับคำแปลของ “ประสูติกาล” (-กาล ล ลิง) ที่แปลว่า “เวลาคลอด” พอดี

เวลาพูดถึงเจ้านายผู้หญิงคลอดลูก จึงมีผู้ใช้คำว่า “ทรงมีพระประสูติกาล” และเข้าใจกันว่าถูกต้องสืบต่อมา

๔ อันที่จริงเวลาพูดถึงผู้หญิงคลอดลูก สาระไม่ได้มีเพียงแค่ “คลอดเมื่อไร” (ประสูติกาล) อย่างเดียว ยังมีคลอดที่ไหน คลอดอย่างไร คลอดแล้วเป็นอย่างไรเป็นต้น ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับ “ประสูติกาล” เลย หากแต่เป็นเรื่องของ “ประสูติการ” โดยตรงแท้ๆ แต่กลับพากันไปใช้ “ประสูติกาล” กันอย่างเพลิดเพลิน

๕ ข่าวเจ้าหญิงแคเธอริน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ (Catherine, Duchess of Cambridge) แห่งราชวงศ์อังกฤษ ประสูติพระธิดาเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2558 ตรวจดูตามสื่อต่างๆ พบว่า ใช้ “ประสูติกาล” (-กาล ล ลิง) กันเกร่อไปหมด เข้าขั้น “ผิดจนถูก” ไปแล้วโดยสมบูรณ์

: แม้ทั้งโลกจะมีแต่คนทำผิด

: แต่วิสัยบัณฑิตย่อมไม่พลอยทำผิดไปกับโลก

5-5-58

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย