รูปนาม (บาลีวันละคำ 4,872)

รูปนาม
นึกลามไปถึงคำไทย-ทุกผู้ทุกนาม
อ่านตามหลักคำสมาสว่า รู-ปะ-นาม หรือ รูบ-ปะ-นาม
อ่านตามสะดวกปากว่า รูบ-นาม
ประกอบด้วยคำว่า รูป + นาม
(๑) “รูป”
บาลีอ่านว่า รู-ปะ รากศัพท์มาจาก –
(1) รูปฺ (ธาตุ = ประกาศ) + อ (อะ) ปัจจัย
: รูปฺ + อ = รูป แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่ประกาศสภาพของตน”
(2) รุปฺ (ธาตุ = เสื่อม, ทรุดโทรม) + อ (อะ) ปัจจัย, ทีฆะ อุ ที่ รุ-(ปฺ) เป็น อู (รุปฺ > รูป)
: รุปฺ + อ = รุป > รูป แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่ต้องเสื่อมไป”
“รูป” (นปุงสกลิงค์) ในบาลีหมายถึง รูป, ทรวดทรง, รูปร่างหรือรูปพรรณสัณฐาน, หลักการเกี่ยวกับรูป ฯลฯ (form, figure, appearance, principle of form, etc.)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายของ “รูป”ในภาษาไทยไว้ดังนี้ –
(1) : (คำนาม) สิ่งที่รับรู้ได้ด้วยตา เป็นขันธ์ ๑ ในขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ, ร่าง เช่น โครงรูป, ร่างกาย เช่น รูปตัวคน รูปตัวสัตว์, เค้าโครง เช่น ขึ้นรูป, แบบ เช่น รูปสามเหลี่ยม รูปรี รูปไข่ (ป., ส.).
(2) : (คำนาม) ลักษณนามใช้เรียกพระภิกษุสามเณร เช่น พระรูปหนึ่ง สามเณร ๒ รูป.
(3) : (คำสรรพนาม) คำใช้แทนตัวผู้พูด สำหรับพระภิกษุสามเณรพูดกับคฤหัสถ์, เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๑.
(๒) “นาม”
บาลีอ่านว่า นา-มะ รากศัพท์มาจาก นมฺ (ธาตุ = น้อม) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, ทีฆะ อะ ที่ น-(มฺ) เป็น อา (นมฺ > นาม)
: นมฺ + ณ = นมณ > นม > นาม (นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “คำเป็นที่น้อมวัตถุเข้ามา” “คำที่น้อมไปหาวัตถุ” “คำที่ชาวโลกใช้เป็นเครื่องน้อมไปสู่ความหมายนั้นๆ” หมายถึง นาม, ชื่อ (name)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“นาม, นาม– : (คำนาม) ชื่อ, ราชาศัพท์ใช้ว่า พระนาม; คําชนิดหนึ่งในไวยากรณ์ สําหรับเรียกคน สัตว์ และสิ่งของต่าง ๆ; สิ่งที่ไม่ใช่รูป คือ จิตใจ, คู่กับ รูป. (ป.).”
รูป + นาม = รูปนาม แปลแบบทับศัพท์ว่า “รูปและนาม”
ขยายความ :
คำว่า “รูปนาม” เป็นคำที่มักใช้ในภาษาธรรม นักเรียนธรรมมักพูดควบกับคำว่า “ขันธ์ห้า” เป็น “รูปนามขันธ์ห้า” หรือ “ขันธ์ห้ารูปนาม” และเรียกเป็นคำศัพท์ว่า “รูปธรรมนามธรรม” แยกศัพท์เป็น “รูปธรรม” และ“นามธรรม”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
(1) รูปธรรม : (คำนาม) สิ่งที่รู้ได้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย อันได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส และสิ่งที่สามารถสัมผัสได้ด้วยกาย, คู่กับ นามธรรม คือสิ่งที่รู้ได้เฉพาะทางใจเท่านั้น; สิ่งที่สามารถแสดงออกมาให้ปรากฏเป็นจริงเป็นจังมิใช่เป็นเพียงทฤษฎีเท่านั้น, สิ่งที่สามารถปฏิบัติได้, เช่น ต้องทำโครงการพัฒนาชนบทให้เป็นรูปธรรมด้วยการจัดให้มีน้ำกินน้ำใช้เป็นต้น. (ป.).
(2) นามธรรม : (คำนาม) สิ่งที่ไม่มีรูป คือ รู้ไม่ได้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย รู้ได้เฉพาะทางใจเท่านั้น, คู่กับ รูปธรรม. (ส.; ป. นามธมฺม).
(3) รูปธรรมนามธรรม : (คำนาม) ลักษณะที่เป็นเองอย่างนั้นตามธรรมชาติ (ใช้แก่รูปร่างหน้าตาของคน) เช่น หน้าตาสวยหรือไม่สวยก็เป็นเรื่องของรูปธรรมนามธรรม.
เพราะฝังใจว่า “รูป” ต้องคู่กับ “นาม” หรือ “นาม” ต้องคู่กับ “รูป” จึงสงสัยว่า คำไทยที่ว่า “ทุก-ทุกนาม” คำที่ – เว้นไว้นั้น จะเป็นคำอะไร
…………..
และเพราะฝังใจว่า เมื่อ “นาม” ต้องคู่กับ “รูป” ในที่นี้ท่อนหลังใช้คำว่า “ทุกนาม” คำที่เว้นไว้นั้นก็ควรจะต้องเป็น “ทุกรูป” คือคำเต็มว่า “ทุกรูปทุกนาม”
ดูที่คำว่า ทุก, รูป, นาม ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ก็ไม่มีกล่าวถึงคำว่า “ทุกรูปทุกนาม”
ทำอย่างไรดี?
ก็ต้องใช้วิธีคาดเดา คำที่มีเสียงสระใกล้เคียงหรือไปในทางเดียวกับ “รูป” น่าจะเป็นคำอะไร คาดเดาไปมา หูได้ยินคำว่า “ทุกผู้” คำว่า “ทุก” ดูแล้ว ไม่มีลูกคำเป็น “ทุกผู้” “ทุกรูป” ก็ไม่มี “ทุกนาม” ก็ไม่มี ก็เหลือคำว่า “ผู้” ตามไปดูที่คำว่า “ผู้” พจนานุกรมฯ บอกไว้ดังนี้ –
(1) : (คำนาม) คำใช้แทนบุคคล เช่น นายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ หรือใช้แทนคำว่า คน เช่น ผู้นั้น ผู้นี้ ทุกผู้ทุกนาม หรือใช้แทนสิ่งที่ถือเสมือนคน เช่น ศาลเป็นผู้ตัดสิน
(2) : (คำนาม) คำใช้ประกอบคำกริยาหรือประกอบคำวิเศษณ์ให้เป็นนามขึ้น เช่น ผู้กิน ผู้ดี.
(3) : (คำวิเศษณ์) คำบอกเพศ หมายความว่า ตัวผู้ เช่น ม้าผู้ วัวผู้.
(4) : (คำสรรพนาม) ที่, ซึ่ง, เช่น บุคคลผู้กระทำความดีย่อมได้รับความสุข.
เป็นอันได้คำตอบที่ข้อ (1) พจนานุกรมฯ ยกตัวอย่างว่า “ทุกผู้ทุกนาม” ไม่ใช่ “ทุกรูปทุกนาม” อย่างที่นึก
…………..
ถ้าเป็นเมื่อ 50-60 ปีที่แล้ว สมัยที่แรกจับคลำพจนานุกรมฯ ก็คงยอมรับโดยสงบเสงี่ยม แต่ตอนนี้นึกแย้งพจนานุกรมฯ อย่างเต็มที่
คำนี้ ควรจะเป็น “ทุกรูปทุกนาม” ด้วยเหตุผลข้อเดียว คือ “รูป” คู่กับ “นาม” – “นาม” คู่กับ “รูป” ในเมื่อท่อนหลังของคำนี้ใช้ว่า “-ทุกนาม” ท่อนแรกก็ควรเป็น “ทุกรูป-”
ในสังคมที่เจริญแล้วต้องเคารพกติกา แม้จะไม่เห็นด้วยกับพจนานุกรมฯ แต่เมื่อจะเขียนคำนี้ ผู้เขียนบาลีวันละคำก็ขอยืนยันว่า ต้องเขียนว่า “ทุกผู้ทุกนาม” ตามกฎกติกา
ถ้าต้องการให้เป็นไปตามเหตุผลของเรา ก็ต้องเสนอแนะไปที่ราชบัณฑิตยสภาผู้รับผิดชอบพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ขอให้ปรับแก้คำในตัวอย่างเป็น “ทุกรูปทุกนาม” ถ้าราชบัณฑิตยสภาเห็นด้วยและประกาศแก้ไขแล้ว ตอนนั้นแหละจึงจะเขียนเป็น “ทุกรูปทุกนาม” ได้อย่างสบายใจ-ตามกฎกติกา
…………..
ดูก่อนภราดา!
: เคารพกฎกติกา
: เป็นความงามสง่าของอารยชน
#บาลีวันละคำ (4,872)
14-10-68
…………………………….
…………………………….
