อับหายาคีรี (บาลีวันละคำ 1,127)
อับหายาคีรี
จาก “อภัยคีรี” ถึง “อภัยมณี”
มีคำที่เขียนเป็นอักษรโรมันคำหนึ่งว่า Abhayagiri
มีผู้ถอดคำนี้เป็นอักษรไทยว่า “อับหายาคีรี” คือแยกเป็น Ab-ha-ya-giri
ความจริงคำ Abhayagiri นี้ มีชื่อเรียกในคัมภีร์บาลีอยู่แล้วว่า “อภยคิริ” คือต้องแยกเป็น A-bha-ya-giri ที่แยกเป็น Ab-ha-ya-giri เข้าใจว่าเกิดจากผู้ถอดคำไม่คุ้นหรือไม่รู้จักชื่อนี้
อภยคิริ เขียนแบบไทยเป็น “อภัยคีรี” ประกอบด้วย อภัย + คีรี
(๑) “อภัย”
บาลีเป็น “อภย” (อะ-พะ-ยะ) ประกอบด้วย น (= ไม่, ไม่ใช่, ไม่มี) + ภย
(1) “ภย” รากศัพท์มาจาก ภี (ธาตุ = กลัว) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, แผลง อี (ที่ ภี) เป็น เอ, แปลง เอ เป็น อย
: ภี + ณ = ภีณ > ภี > เภ > ภย แปลตามศัพท์ว่า “ความกลัว” หมายถึง ความกลัว, ความตกใจกลัว, ความหวาดหวั่น (fear, fright, dread)
(2) น + ภย
กฎการประสมของ น + :
– ถ้าคำหลังขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ แปลง น เป็น อ-
– ถ้าคำหลังขึ้นต้นด้วยสระ แปลง น เป็น อน-
ในที่นี้ “ภย” ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ จึงแปลง น เป็น อ
: น > อ + ภย = อภย
“อภย” ใช้เป็นคุณศัพท์ มีความหมายว่า ปลอดจากความกลัวหรืออันตราย, ไม่มีความกลัว, ปลอดภัย (free from fear or danger, fearless, safe) ใช้เป็นคำนาม มีความหมายว่า ความไว้วางใจ, ความปลอดภัย (confidence, safety)
(๒) “คีรี”
บาลีเป็น “คิริ” (คิ-ริ) รากศัพท์มาจาก คิรฺ (ธาตุ = ไหลออก, คาย) + อิ ปัจจัย
: คิรฺ + อิ = คิริ แปลตามศัพท์ว่า “สถานที่คายสมุนไพรออกมา” “สถานที่คายน้ำและตัวยาออกมา” หมายถึง ภูเขา (a mountain)
“คิริ” ในภาษาไทยใช้เป็น “คีรี” (โปรดสังเกต บาลีเป็น คิริ -สระ อิ, ไทยเป็น คีรี -สระ อี)
อภย + คิริ = อภยคิริ > อภัยคีรี
“อภัยคีรี” ชื่อเดิมคำเต็มคือ “อภยคิริวิหาร” หรือ “อภัยคีรีวิหาร”
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต บอกไว้ว่า –
(1) อภยคิริวิหาร : ชื่อวัดที่พระเจ้าวัฏฏคามณีอภัย ได้สร้างถวายพระติสสเถระในเกาะลังกา ซึ่งได้กลายเป็นเหตุให้สงฆ์ลังกาแตกแยกกัน แบ่งเป็นคณะมหาวิหารเดิมฝ่ายหนึ่ง คณะอภยคิริวิหารฝ่ายหนึ่ง; มักเรียก อภัยคีรี
(2) วัฏฏคามณีอภัย : ชื่อพระเจ้าแผ่นดินแห่งเกาะลังกาพระองค์หนึ่ง ครองราชย์ประมาณ พ.ศ. 505–527 ถูกพวกทมิฬแย่งชิงราชสมบัติ เสด็จไปซ่อนพระองค์อยู่ในป่า และได้รับความช่วยเหลือจากพระเถระรูปหนึ่ง ต่อมาพระองค์กู้ราชสมบัติคืนมา ได้ทรงสร้างอภัยคีรีวิหารและอาราธนาพระเถระรูปนั้นมาอยู่ครอง กับทั้งได้ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอีกเป็นอันมาก การสังคายนาครั้งที่ 5 ที่จารึกพุทธพจน์ลงในใบลาน ก็จัดทำในรัชกาลนี้
ลากเข้าวัด :
นิทานคำกลอนที่ขึ้นชื่อที่สุดของสุนทรภู่ คือ “พระอภัยมณี” ขนาดเรียกกันสั้นๆ ว่า “พระอภัย” ก็เป็นที่เข้าใจว่าหมายถึง “พระอภัยมณี” ชื่อนิทานเรื่องนี้ตั้งตามชื่อพระเอกในเรื่อง คือ “พระอภัยมณี”
สถานที่ในเรื่องพระอภัยมณีเกี่ยวข้องกับเกาะลังกา และในเกาะลังกาก็มีพระเจ้าแผ่นดินที่มีชื่อเสียงโด่งดังพิเศษปรากฏอยู่ในพงศาวดาร คือ พระเจ้าวัฏฏคามณีอภัย
จึงมีผู้สันนิษฐานว่า ชื่อ “อภัยมณี” นี้สุนทรภู่น่าจะแปลงมาจากชื่อพระเจ้า “วัฏฏคามณีอภัย” นี่เอง
เพิ่มเติม : มณี
“มณี” บาลีเป็น “มณิ” (ภาษาไทยสระ อี บาลีสระ อิ แต่ที่เป็น “มณี” เหมือนในภาษาไทยก็มีบ้าง) แปลตามศัพท์ว่า –
(1) “สิ่งที่ให้รู้ถึงความมีค่ามาก” (หมายถึงเป็นของที่มีค่ามาก)
(2) “สิ่งที่เป็นเหตุให้นับถือเครื่องอาภรณ์” (หมายถึงทำให้เครื่องประดับมีคุณค่า)
(3) “สิ่งที่ยังความมืดให้พินาศไป” (ธรรมชาติของมณีจะมีแสงในตัว)
ความหมายที่รู้กัน “มณี” ก็คือ แก้วมณี, รัตนะ, เพชรพลอย (a gem, jewel)
อภัยมณี : เมื่อให้อภัย หัวใจก็เป็นแก้วทันที
26-6-58