วุฒิภาวะ [1] (บาลีวันละคำ 653)
วุฒิภาวะ [1]
อ่านว่า วุด-ทิ-พา-วะ
บาลีเป็น “วุฑฺฒิภาว” อ่านว่า วุด-ทิ-พา-วะ
ประกอบด้วย วุฑฺฒิ + ภาว
“วุฑฺฒิ” แปลว่า การเพิ่ม, ความเจริญ, ความงอกงาม, ความคืบหน้า, ความรุ่งเรือง (increase, growth, furtherance, prosperity)
“วุฑฺฒิ” ในบาลีเป็นอาการนาม หรือภาวนาม หมายถึงสภาพหรืออาการ ไม่ได้หมายถึงบุคคล แต่ในภาษาไทยอาจอนุโลมใช้เป็นคุณนาม หมายถึง ผู้เจริญแล้ว, ผู้เฒ่า, คนแก่, ผู้สูงอายุ ได้ด้วย
“วุฑฺฒิ” เขียนในภาษาไทยตัด ฑ ออก ตามวิธีตัดตัวซ้อน เช่น
รฏฺฐ ตัด ฏ เป็น รัฐ
วฑฺฒน ตัด ฑ เป็น วัฒน
“วุฑฺฒิ” จึงเขียนเป็น “วุฒิ” แต่ก็คงอ่านว่า วุด-ทิ เหมือนคำเดิม
“ภาว” แปลว่า ความมี, ความเป็น
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “ภาว” ไว้ดังนี้ –
๑. being, becoming, condition, nature (ความมี, ความเป็น, ภาวะ, ธรรมชาติ)
๒. cultivation or production by thought, mental condition (การปลูกฝัง หรือการผลิตผลด้วยความคิด, ภาวะทางใจ)
วุฑฺฒิ + ภาว = วุฑฺฒิภาว > วุฒิภาวะ เป็นศัพท์บัญญัติเทียบคำอังกฤษว่า maturity
พจนานุกรมศัพท์ศึกษาศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน บอกไว้ไว้ดังนี้ –
วุฒิภาวะ : ความเป็นผู้ใหญ่ (maturity) หมายถึง ภาวะที่มนุษย์พัฒนาไปสู่ความสมบูรณ์ทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์และสังคม อันเป็นที่ยอมรับ เช่น สามารถคิดอย่างรอบคอบ ใช้เหตุผล มีความมั่นคงทางอารมณ์ มีความรับผิดชอบ กล้าเผชิญปัญหาอย่างสุขุม ไม่วู่วาม
พจนานุกรม สอ เสถบุตร ให้ความหมายคำว่า maturity ไว้ดังนี้ –
1. แก่
2. สุก, ทำให้สุก, บ่ม, เก็บไว้ให้ได้ที่, ได้ที่
3. เป็นผู้ใหญ่, ครบอายุ, ถึงกำหนด
4. (ตรึกตรอง) โดยรอบคอบ
ในพุทธประวัติปรากฏเรื่องว่า พระพุทธเจ้ายังไม่ตรัสสอนบุคคลบางคนแม้จะอยู่ใกล้ชิด โดยทรงรอคอยสิ่งที่เรียกว่า “ญาณปริปาก” (ยา-นะ-ปะ-ริ-ปา-กะ)
“ญาณ” แปลว่า ความรู้จักคิด ความรู้แจ้งเห็นจริง หรือ ปัญญา
“ปริปาก” ฝรั่งแปลว่า ripeness, maturity, development, perfection
โปรดสังเกตคำว่า maturity ในคำแปลนี้ ที่เราเอามาบัญญัติศัพท์ว่า “วุฒิภาวะ” ก็คือ “ญาณปริปาก” ในบาลีนั่นเอง
นักเรียนบาลีในเมืองไทยนิยมแปล “ญาณปริปาก” ว่า “ความแก่รอบแห่งญาณ” หรือ “ปัญญาแก่”
: ในสมัยพุทธกาล คนอายุอ่อน เช่นเด็กอายุ 7 ขวบ แต่ “ปัญญาแก่” สำเร็จธรรมเป็นพระอรหันต์ มีเป็นจำนวนมาก
: สมัยนี้ คนอายุแก่ แต่ “ปัญญาอ่อน” คิดอะไรเองไม่เป็น ก็มีเป็นจำนวนมาก
1-3-57