มโน (บาลีวันละคำ 705)
มโน
อ่านว่า มะ-โน
“มโน” รูปคำเดิมเป็น “มน” (มะ-นะ) รากศัพท์มาจาก –
(1) มน (ธาตุ = รู้) + อ ปัจจัย
: มน + อ = มน แปลตามศัพท์ว่า “ตัวรู้”
(2) มา (ธาตุ =นับ, กะ, ประมาณ) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน, ลบสระที่สุดธาตุ
: มา > ม + ยุ > อน : ม + อน = มน แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่กำหนดนับอารมณ์”
“มโน” (< มน) หมายถึง ใจ, ความคิด (mind, thought)
“มน” แจกรูปด้วยวิภัตติที่หนึ่ง เอกพจน์ จะเป็น “มโน” และตามกฎบาลีไวยากรณ์กำหนดว่า เมื่อเป็นส่วนหน้าของคำสมาส ให้คงรูปเป็น มโน– เช่น มน + รม แทนที่จะเป็น มนรม ก็เป็น มโนรม
ในภาษาไทย ใช้คำบาลีที่ขึ้นต้นด้วย มโน– หลายคำ เช่น
– มโนกรรม : การกระทำทางใจ, การคิด, ความคิด
– มโนคติ : ความคิด
– มโนทุจริต : ความประพฤติชั่วทางใจ มี 3 อย่าง ได้แก่ (1) ความโลภอยากได้ของของผู้อื่น (2) ความพยาบาท (3) ความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม
– มโนธรรม : ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี, ความรู้สึกว่าอะไรควรทําอะไรไม่ควรทํา
– มโนภาพ : ความคิดเห็นเป็นภาพขึ้นในใจ
โดยเฉพาะคำว่า “มโนภาพ” มักนำไปใช้ในความหมายว่า วาดภาพในใจเอาเอง คือคิดเอาเอง หรือสร้างจินตนาการเอาเองโดยไม่รู้ไม่เข้าใจหรือไม่ยอมรับข้อเท็จจริง
เมื่อพูดเป็นคำคะนอง (ภาษาปาก) ตัด “-ภาพ” ออก เหลือแต่ “มโน-” (ทำนองเดียวกับ “สนใจ” พูดเพียง “สน”) เช่น “เขาเป็นพวกมโน” หมายความว่า เขาเป็นคนที่ชอบคิดเอาเองโดยไม่รู้ไม่ฟังข้อเท็จจริง
คำคะนอง แต่ควรคะนึง :
มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา
มโนเสฏฺฐา มโนมยา
สรรพสิ่งมีมโนเป็นตัวนำ
มโนเป็นนาย สัมฤทธิ์ผลได้ด้วยมโน
#บาลีวันละคำ (705)
22-4-57