โสดาบัน (บาลีวันละคำ 771)
โสดาบัน
อ่านว่า โส-ดา-บัน
บาลีเป็น “โสตาปนฺน” อ่านว่า โส-ตา-ปัน-นะ
ประกอบด้วยคำว่า โสต + อาปนฺน
“โสต” (โส-ตะ) แปลตามศัพท์ว่า –
(1) “อวัยวะที่ทำหน้าที่ได้ยิน” “อวัยวะเป็นเครื่องฟัง” หมายถึง ประสาทหู
(2) “ธรรมที่ถึงพระนิพพาน” “ธรรมที่กำจัดกิเลส” “ธรรมที่ยังกิเลสให้แห้ง” “ธรรมที่ละกิเลส” ความหมายทั่วไป หมายถึง กระแส เช่นกระแสน้ำ, สิ่งที่เข้ามาสู่การรับรู้ เช่นกระแสข่าว กระแสอารมณ์
“โสต” ในที่นี้มีความหมายเฉพาะว่า “กระแสพระนิพพาน” หมายถึงต้นทางที่จะดำเนินถึงพระนิพพาน
“อาปนฺน” (อา-ปัน-นะ) เป็นรูปคำกริยา แปลว่า “ถึงแล้ว” “บรรลุแล้ว”
โสต + อาปนฺน = โสตาปนฺน แปลว่า “ผู้ถึงกระแสพระนิพพาน”
แปลตามสำนวนแข่งฟุตบอลโลกก็ว่า “เข้ารอบแล้ว (และจะได้เป็นแชมป์แน่นอน)”
โสตาปนฺน ใช้ในภาษาไทยว่า “โสดาบัน”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“โสดาบัน : “ผู้แรกถึงกระแสธรรม (พระนิพพาน)” เป็นชื่อพระอริยบุคคลชั้นต้นใน ๔ ชั้น คือ พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์, บางทีก็เรียกสั้น ๆ ว่า พระโสดา”
เกณฑ์ตัดสินความเป็นโสดาบัน :
ท่านว่าผู้บรรลุธรรมชั้นโสดาบันจะต้องไม่มีกิเลส 3 ตัวนี้อย่างเด็ดขาด คือ –
(1) สักกายทิฏฐิ “ความเห็นว่าเป็นตัวของตน” = เห็นว่ามีตัวตนที่จะอยู่เสพสุขถาวรในภพภูมินั้นๆ แม้แต่ในพระนิพพาน
(2) วิจิกิจฉา “ความลังเลสงสัย” = สงสัยในกรรมดีกรรมชั่ว, ไม่แน่ใจในหนทางปฏิบัติว่าอะไรถูกอะไรผิด
(3) สีลัพพตปรามาส “ความถือมั่นศีลพรต” = ถือความขลังความศักดิ์สิทธิ์ในลักษณะต่างๆ รวมทั้งถือว่าเพียงรักษาศีลปฏิบัติกิจวัตรก็อาจบรรลุธรรมได้
ผู้บรรลุธรรมชั้นโสดาบันอาจอยู่เป็นฆราวาส มีครอบครัว ประกอบอาชีพเช่นเดียวกับชาวบ้านทั่วไป แต่จะไม่ประพฤติชั่วอันจะนำไปสู่อบายภูมิอย่างเด็ดขาด และจะเกิดอีกไม่เกิน 7 ครั้งก็จะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์อย่างแน่นอน (ฝรั่งอธิบายไว้ว่า The converted man is sure to attain the sambodhi)
พระโสดาบันยังไม่ใช่ผู้สิ้นกิเลสทั้งปวงแล้วอย่างที่คนทั่วไปมักจะเข้าใจ เพียงแต่ไม่มีกิเลสที่จะชักนำให้ทำชั่วจนต้องไปเกิดในอบายภูมิอีกต่อไป
: ยังไม่ถึงโสดาเด็ดขาด
: อย่าประมาทว่าจะไม่ตกนรก
#บาลีวันละคำ (771)
28-6-57