อาโรคยศาล (บาลีวันละคำ 1,528)
อาโรคยศาล
ไม่ใช่ อโรคยาศาล
“อาโรคยศาล” อ่านแบบไทยว่า อา-โรก-คยะ-สาน
ประกอบด้วย อาโรคย + ศาล
(๑) “อาโรคย”
บาลีเขียน “อาโรคฺย” (มีจุดใต้ คฺ) รากศัพท์มาจาก :-
ขั้นที่ 1 : โรค (โร-คะ) = ความเจ็บป่วย, โรค (illness, disease)
ขั้นที่ 2 : น + โรค (แปลง น เป็น อ) = อโรค : โรคของผู้นั้นไม่มี เหตุนั้น เขาจึงชื่อว่า “อโรค” (อะ-โร-คะ) = ผู้ไม่มีโรค, ไม่เจ็บป่วย, มีสุขภาพดี (one who without disease, one who healthy)
ขั้นที่ 3 : อโรค + ณฺย ปัจจัย, ลบ ณฺ, ยืดเสียง อะ ที่ อ (-โรค) เป็น อา ตามสูตร : “ด้วยอำนาจปัจจัยเนื่องด้วย ณ”
: อโรค > อาโรค + ณฺย > ย = อาโรคฺย แปลตามศัพท์ว่า “ภาวะของผู้ไม่มีโรค” หมายถึง ความไม่มีโรค, ความมีอนามัยดี (absence of illness, health)
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า –
“อาโรคฺย : (คำนาม) ความสำราญ, ความไม่มีโรค; health, soundness of body.”
ทำความเข้าใจ :
(1) คำเดิม “อโรค” (อะ-โร-คะ) ผ่านกรรมวิธีทางไวยากรณ์เป็น “อาโรคฺย”
จาก อโร- เป็น อาโร-
(2) “อาโรคฺย” คฺ ควาย เป็นตัวสะกดและออกเสียงครึ่งเสียง ดังนั้น จะอ่านว่า อา-โร-คะ-ยะ ไม่ถูก อ่านว่า อา-โรก-ยะ ก็ไม่ถูก
(3) “อาโรคฺย” ออกเสียงว่า อา-โรก-เคียะ จะเป็นเสียงตรงที่สุด
จำไว้สั้นๆ –
: อาโรคฺย – ถูก
: อโรคยา – ผิด
(๒) “ศาล”
รูปคำตรงกับบาลีว่า “สาลา” รากศัพท์มาจาก สลฺ (ธาตุ = ไป) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, “ทีฆะต้นธาตุ” คือยืดเสียง อะ ที่ ส-(ลฺ) เป็น อา (สลฺ > สาล) + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์
: สลฺ + ณ = สลณ > สล > สาล + อา = สาลา แปลตามศัพท์ว่า “โรงเรือนเป็นที่ผู้คนไปหา”
“สาลา” หมายถึง ห้องโถง (มีหลังคาและมีฝาล้อมรอบ), ห้องใหญ่, บ้าน; เพิง, โรงสัตว์ (a large [covered & enclosed] hall, large room, house; shed, stable)
ภาษาไทยใช้ตามรูปสันสกฤตเป็น “ศาลา”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ศาลา : (คำนาม) อาคารทรงไทย ปล่อยโถง ไม่กั้นฝา ใช้เป็นที่พักหรือเพื่อประโยชน์การงานอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ศาลาวัด ศาลาที่พัก ศาลาท่านํ้า, โดยปริยายหมายถึงอาคารหรือสถานที่บางแห่ง ใช้เพื่อประโยชน์การงานอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ศาลาพักร้อน ศาลาสวดศพ. (ส.; ป. สาลา).”
คำว่า “ศาลา” นั่นเองลดรูปและเสียงลงเป็น “ศาล” อ่านว่า สาน
พจน.54 บอกความหมายคำว่า “ศาล” ในภาษาไทยไว้ว่า –
“ศาล : (คำนาม) (คำที่ใช้ในกฎหมาย) (กฎ) องค์กรฝ่ายตุลาการซึ่งมีอำนาจพิจารณาพิพากษาอรรถคดี, ผู้พิพากษาหรือตุลาการซึ่งมีอำนาจพิจารณาพิพากษาอรรถคดี; ที่ชำระความ เช่น ศาลแพ่ง ศาลอาญา; ที่สิงสถิตของเทวดา เทพารักษ์ หรือเจ้าผี เป็นต้น เช่น ศาลเทพารักษ์ ศาลเจ้า ศาลเจ้าแม่ทับทิม.”
อาโรคฺย + สาลา = อาโรคฺยสาลา > อาโรคยศาล แปลตามศัพท์ว่า “ศาลาเพื่อความไม่มีโรค”
จะเห็นได้ว่า คำว่า “อาโรคยศาล” นี้ รูปคำเป็น “ศาล” แต่ใช้ในความหมายของ “ศาลา”
“อาโรคฺยสาลา” หมายถึง โรงพยาบาล (hospital หรือ medical station) เป็นศัพท์ที่มีใช้ในคัมภีร์
คัมภีร์มโรถปูรณี ภาค 1 แสดงประวัติของพระพากุลเถระไว้ว่า ในอดีตชาติท่านจัดหายารักษาโรคถวายพระภิกษุอาพาธ อีกชาติหนึ่งท่านบูรณะวัดเก่าแห่งหนึ่ง โดยสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกภายในวัดสำหรับพระสงฆ์ กล่าวคือ –
(1) จงฺกม = ที่จงกรม (the cloister)
(2) อคฺคิสาลา = โรงไฟ (a heated hall or refectory)
(3) ชนฺตาฆร = ห้องอบตัว (a hot room for bathing purposes, a sitzbath)
(4) กปฺปิยกุฏิ = โรงครัว (a building outside the Vihāra, wherein allowable articles were stored, a kind of warehouse)
(5) วจฺจกุฏิ = ห้องสุขา (a privy)
(6) อาโรคฺยสาลา = สถานพยาบาล (medical station)
(7) รตฺติฏฺฐานทิวาฏฺฐาน = ที่พักที่เหมาะแก่การพักค้างแรมและพักเฉพาะกลางวัน (night and day resort)
จะเห็นได้ว่า สิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าวนี้เกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาสุขภาพทั้งสิ้น
ด้วยอานิสงส์แห่งบุญที่ท่านบำเพ็ญมา เป็นเหตุให้พระพากุลเถระเป็นผู้มีโรคน้อยอย่างยิ่ง และมีอายุยืนถึง 160 ปี
………….
: รักษาโรคทางกาย ก็ยังต้องตายต้องเกิด
: รักษาโรคทางใจจึงประเสริฐ เพราะไม่ต้องเกิดต้องตาย
—————
หมายเหตุ:
ภาพประกอบภาพแรกจาก google
อีกสองภาพถ่ายจากวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี
10-8-59