เสนา (บาลีวันละคำ 837)
เสนา
ทั้งบาลีและไทยเขียนเหมือนกัน
อ่านเหมือนกันว่า เส-นา
“เสนา” รากศัพท์มาจาก สิ (ธาตุ = ผูก, มัด) + น ปัจจัย, แปลง อิ (ที่ สิ) เป็น เอ, ลง อา เครื่องหมายอิตถีลิงค์
: สิ > เส + น = เสน + อา = เสนา แปลตามศัพท์ว่า –
(1) “ผู้ที่ผูกกันไว้” คือ ผู้ที่ต้องเกาะกลุ่มกันเป็นพวก เป็นหมู่ เป็นกอง จึงจะสามารถปฏิบัติงานได้
(2) “ผู้เป็นเหตุให้ผูกมัดข้าศึกได้” คือ เมื่อมีข้าศึกศัตรูมารุกราน (หรือจะไปรุกรานบ้านเมืองอื่น) ต้องอาศัยหมู่คนชนิดเช่นนี้จึงจะสามารถจับข้าศึกได้
“เสนา” หมายถึง กองทัพ
สมัยโบราณกองทัพที่เป็นมาตรฐานจะประกอบด้วยกำลังพลสี่เหล่า คือ พลช้าง, พลรถ, พลม้า และพลราบ (an army consisting of elephants, chariots, cavalry & infantry) เรียกว่า “จตุรงฺคินี เสนา” (จะ-ตุ-รัง-คิ-นี-เส-นา)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 บอกไว้ว่า –
เสนา ๑ : น. ไพร่พล. (ป., ส.).
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 แก้ไขบทนิยามใหม่ เป็น –
เสนา ๑ : (คำโบราณ) น. ข้าราชการฝ่ายทหาร. (ป., ส.).
คำว่า “ไพร่พล” กับ “ข้าราชการฝ่ายทหาร” ให้ความรู้สึกที่ต่างกันอย่างมาก
ลิเกสมัยเก่าที่เล่นเรื่องประเภท “จักรๆ วงศ์ๆ” จะต้องมีตัวแสดงที่เรียกว่า “เสนา” เสมอ เทียบกับละครโทรทัศน์สมัยนี้ “เสนา” ก็คือคนใช้ไพร่บ่าวนั่นเอง
ในทางธรรม มีคำว่า “มารเสนา” แปลว่า “กองทัพของมาร” หมายถึงกองกิเลสที่กลุ้มรุมจิตใจอยู่มิเว้นวาย
: มีกองทัพรับรบสยบโลก
: เป็นจอมโจกจักรพรรดิสมบัติผอง
: แต่หัวใจเท่ากำปั้นไม่หมั่นมอง
: หลงว่าครองโลก-ที่แท้ก็แพ้ใจ.
#บาลีวันละคำ (837)
2-9-57