เทพดนัยนันทยากร (บาลีวันละคำ 2448)
เทพดนัยนันทยากร
…………..
ในพระบรมมหาราชวังมีพระที่นั่งหมู่หนึ่ง ตั้งชื่อคล้องจองกันอย่างไพเราะเพราะพริ้งนับได้ถึง 10 ชื่อ ดังนี้ –
(1) มูลสถานบรมอาสน์
(2) สมมติเทวราชอุปบัติ
(3) ดำรงสวัสดิ์อนัญวงศ์
(4) นิพัทธพงศ์ถาวรวิจิตร
(5) บรมราชสถิตยมโหฬาร
(6) อมรพิมานมณี
(7) สุทธาศรีอภิรมย์
(8) บรรณาคมสรนี
(9) ปรีดีราชวโรทัย
(10) เทพดนัยนันทยากร
ผู้เขียนบาลีวันละคำขอนำชื่อพระที่นั่งแต่ละองค์มาแยกศัพท์และแปลสู่กันฟังตามสติปัญญา เพื่อเป็นอลังการทางภาษาและเป็นเครื่องประเทืองปัญญาตามสมควร
อนึ่ง พึงทราบว่า ชื่อพระที่นั่งเหล่านี้เป็นวิสามานยาม (proper name) การแยกศัพท์และแปลจึงกระทำไปเท่าที่ตาเห็น ซึ่งอาจคลาดเคลื่อนไปจากเจตนาของผู้ตั้งชื่อก็เป็นได้
อีกประการหนึ่ง ขอบเขตของบาลีวันละคำมีเพียงแค่แยกศัพท์และแปลความหมายเท่านั้น มิได้แสดงรายละเอียดอื่นๆ ของพระที่นั่งแต่ละองค์ประกอบไว้ด้วย
ดังนั้น หากญาติมิตรท่านใดมีข้อมูลที่แตกต่างไปจากที่แสดงไว้ก็ดี มีรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับพระที่นั่งแต่ละองค์ก็ดี หากจะกรุณานำมาร่วมเสนอไว้เพื่อบูรณาการองค์ความรู้ ก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
…………..
“เทพดนัยนันทยากร” อ่านว่า เทบ-พะ-ดะ-ไน-นัน-ทะ-ยา-กอน หรือจะอ่านว่า เทบ-ดะ-ไน-นัน-ทะ-ยา-กอน ก็ได้ แยกศัพท์เป็น เทพ + ดนัย + นันทิ + อากร
(๑) “เทพ”
บาลีเป็น “เทว” อ่านว่า เท-วะ รากศัพท์มาจาก ทิวฺ (ธาตุ = รุ่งเรือง, เล่น, สนุก, เพลิดเพลิน) + อ ปัจจัย, แผลง อิ ที่ ทิ-(วฺ) เป็น เอ (ทิวฺ > เทว)
: ทิวฺ + อ = ทิว > เทว (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า (1) “ผู้รุ่งเรืองด้วยฤทธิ์ของตน” (2) “ผู้เพลิดเพลินด้วยเบญจกามคุณ”
ความหมายของ “เทว” ที่มักเข้าใจกัน คือหมายถึง เทพเจ้า, เทวดา
แต่ความจริง “เทว” ในบาลียังมีความหมายอีกหลายอย่าง
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “เทว” ไว้ดังนี้ –
(1) good etc. (สิ่งที่ดี และอื่นๆ)
(2) a god, a deity, a divine being (เทวดา, เทพเจ้า, เทพ)
(3) the sky, rain-cloud, rainy sky, rain-god (ท้องฟ้า, เมฆฝน, ท้องฟ้ามีฝน, เทพแห่งฝน)
“เทว” เมื่อใช้ในภาษาไทยแปลง ว เป็น พ ตามสูตรที่นิยมทั่วไป เช่น วร เป็น พร วิวิธ เป็น พิพิธ : เทว > เทพ
(๒) “ดนัย”
บาลีเป็น “ตนย” (ตะ-นะ-ยะ) รากศัพท์มาจาก –
(1) ตนุ (ตัว, กาย) + ชนฺ (ธาตุ = เกิด) + กฺวิ ปัจจัย, ลบ อุ ที่ ตนุ (ตนุ > ตน), ลบ กฺวิ, แปลง ชนฺ เป็น อย
: ตนุ + ชนฺ = ตนุชนฺ + กฺวิ = ตนุชนกฺวิ > ตนชนกฺวิ > ตนชน > (แปลง ชน เป็น อย : ตน + อย = ) ตนย แปลตามศัพท์ว่า “ผู้เกิดจากกาย”
(2) ตนฺ (ธาตุ = แผ่ไป) + อย ปัจจัย
: ตนฺ + อย = ตนย แปลตามศัพท์ว่า “ผู้แผ่ความรักไว้ในตน”
“ตนย” (ปุงลิงค์) ในบาลีหมายถึง ลูกหลาน, บุตรชาย (offspring, son)
อนึ่ง ศัพท์นี้บาลีเป็น “ตนุย” (ตะ-นุ-ยะ) ก็มี ถ้าใช้เป็นพหูพจน์ว่า “ตนุยา” จะหมายถึง ลูกๆ ซึ่งรวมทั้งลูกชายและลูกสาว (son & daughter)
อภิปราย :
บาลี “ตนย” สันสกฤตเป็น “ตนย” และมี “ตนยา” ด้วย
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –
(1) ตนย : (คำนาม) ‘ดนัย,’ บุตร; a son, a male descendant.
(2) ตนยา : (คำนาม) ‘ดนยา,’ บุตรี; a daughter, a female descendant.
ในภาษาไทยใช้เป็น “ดนยะ” แปลว่า ลูกชาย “ดนยา” แปลว่า ลูกสาว และ “ดนัย” แปลว่า ลูกชาย
แต่ที่น่าสังเกตคือคำอ่าน
“ดนยะ” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 บอกคำอ่านไว้อย่างเดียวว่า ดะ-นะ-ยะ
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกคำอ่านเพิ่มขึ้นอีกแบบหนึ่ง คืออ่านว่า ดน-นะ-ยะ ก็ได้
“ดนยา” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 บอกคำอ่านไว้อย่างเดียวว่า ดะ-นะ-ยา
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกคำอ่านเพิ่มขึ้นอีกแบบหนึ่ง คืออ่านว่า ดน-นะ-ยา ก็ได้
โดยเฉพาะคำว่า “ดนยา” ที่เป็นชื่อคน เคยได้ยินคนออกเสียงว่า ดน-ยา ตามรูปคำก็ชวนให้อ่านแบบนั้น ถ้าอ่านแบบนี้กันมากๆ พจนานุกรมฯ ฉบับที่จะชำระพิมพ์คราวต่อไปก็คงต้องเพิ่มคำอ่านขึ้นอีกแบบหนึ่ง
ใครชื่อ “ดนยา” ก็คงจะลำบากใจอยู่บ้างว่าจะให้อ่านแบบไหน
ดะ-นะ-ยา
ดน-นะ-ยา
หรือ ดน-ยา
(๓) “นันทิ”
บาลีเป็น “นนฺทิ” (นัน-ทิ) รากศัพท์มาจาก นนฺทฺ (ธาตุ = ยินดี) + อิ ปัจจัย
: นนฺทฺ + อิ = นนฺทิ แปลตามศัพท์ว่า “ความยินดี”
“นนฺทิ” (อิตถีลิงค์) ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) ความดีใจ, ความร่าเริง, ความเพลิดเพลิน, ความหรรษา (joy, enjoyment, pleasure, delight in)
(2) เครื่องดนตรี โดยเฉพาะคือ กลองแสดงความร่าเริงดีใจ (a musical instrument: joy-drum)
(๔) “อากร”
บาลีอ่านว่า อา-กะ-ระ รากศัพท์มาจาก อา (คำอุปสรรค = ทั่วไป, ข้างหน้า) + กรฺ (ธาตุ = ทำ) + อ ปัจจัย
: อา + กรฺ + อ = อากร แปลตามศัพท์ว่า “ผู้ทำไปทั่วๆ” “ผู้ทำไปข้างหน้า” หมายถึง บ่อ, แหล่งกำเนิดของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง (a mine)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายไว้ว่า –
“อากร : (คำนาม) หมู่, กอง, เช่น พลากร (พล + อากร); บ่อเกิด, ที่เกิด, เช่น ทรัพยากร ศิลปากร; ค่าธรรมเนียมอย่างหนึ่งที่รัฐบาลเรียกเก็บ เช่น อากรรังนก อากรมหรสพ; คำเพิ่มข้างหลังของคำเดิม เมื่อเพิ่มแล้ว หมายถึงพวกหรือหมู่ เช่น ดารากร นรากร ทวิชากร ประชากร หรืออาจมีความหมายคงเดิมก็ได้ เช่น พระปฏิมากร.”
การประสมคำ :
(๑) เทพ + ดนัย = เทพดนัย แปลว่า “ลูกหลานของเทพยดา” ถือเอาความว่า ลูกหลานของเจ้านาย
(๒) นันทิ + อากร แปลง อิ ที่ นันทิ เป็น ย (นันทิ > นันทย + อากร ) = นันทยากร แปลว่า “บ่อเกิดแห่งความบันเทิง”
(๓) เทพดนัย + นันทยากร = เทพดนัยนันทยากร แปลว่า “บ่อเกิดแห่งความบันเทิงสำหรับลูกหลานของเทพยดา”
พระที่นั่ง “เทพดนัยนันทยากร” เป็นห้องบรรทมของสมเด็จพระราชโอรสและสมเด็จพระราชธิดา
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ความสุขแท้อยู่ไม่ไกล
: แค่หมั่นฝึกใจให้บันเทิงด้วยธรรม
#บาลีวันละคำ (2,448)
24-2-62