ปรีดีราชวโรทัย (บาลีวันละคำ 2447)
ปรีดีราชวโรทัย
…………..
ในพระบรมมหาราชวังมีพระที่นั่งหมู่หนึ่ง ตั้งชื่อคล้องจองกันอย่างไพเราะเพราะพริ้งนับได้ถึง 10 ชื่อ ดังนี้ –
(1) มูลสถานบรมอาสน์
(2) สมมติเทวราชอุปบัติ
(3) ดำรงสวัสดิ์อนัญวงศ์
(4) นิพัทธพงศ์ถาวรวิจิตร
(5) บรมราชสถิตยมโหฬาร
(6) อมรพิมานมณี
(7) สุทธาศรีอภิรมย์
(8) บรรณาคมสรนี
(9) ปรีดีราชวโรทัย
(10) เทพดนัยนันทยากร
ผู้เขียนบาลีวันละคำขอนำชื่อพระที่นั่งแต่ละองค์มาแยกศัพท์และแปลสู่กันฟังตามสติปัญญา เพื่อเป็นอลังการทางภาษาและเป็นเครื่องประเทืองปัญญาตามสมควร
อนึ่ง พึงทราบว่า ชื่อพระที่นั่งเหล่านี้เป็นวิสามานยาม (proper name) การแยกศัพท์และแปลจึงกระทำไปเท่าที่ตาเห็น ซึ่งอาจคลาดเคลื่อนไปจากเจตนาของผู้ตั้งชื่อก็เป็นได้
อีกประการหนึ่ง ขอบเขตของบาลีวันละคำมีเพียงแค่แยกศัพท์และแปลความหมายเท่านั้น มิได้แสดงรายละเอียดอื่นๆ ของพระที่นั่งแต่ละองค์ประกอบไว้ด้วย
ดังนั้น หากญาติมิตรท่านใดมีข้อมูลที่แตกต่างไปจากที่แสดงไว้ก็ดี มีรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับพระที่นั่งแต่ละองค์ก็ดี หากจะกรุณานำมาร่วมเสนอไว้เพื่อบูรณาการองค์ความรู้ ก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
…………..
“ปรีดีราชวโรทัย” อ่านว่า ปฺรี-ดี-ราด-ชะ-วะ-โร-ไท แยกศัพท์เป็น ปรีดี + ราช + วโรทัย หรือ ปรีดี + ราชวร + ทัย (ดูการประสมคำข้างหน้า)
(๑) “ปรีดี”
บาลีเป็น “ปีติ” (ปี– สระ อี) รากศัพท์มาจาก ปี (ธาตุ = ยินดี, ชอบใจ) + ติ ปัจจัย
: ปี + ติ = ปีติ (อิตถีลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “กิริยาที่ยินดี”
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “ปีติ” ว่า emotion of joy, delight, zest, exuberance (ความรู้สึกยินดี, ความอิ่มใจ, ความปราโมทย์, ความซาบซ่านหรือดื่มด่ำ)
“ปีติ” เป็นคุณภาพจิต ท่านแบ่งลักษณะไว้เป็น 5 อย่าง
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต ประมวลความไว้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ดังนี้ –
[226] ปีติ 5 (ความอิ่มใจ, ความดื่มด่ำ — joy; interest; zest; rapture)
1. ขุททกาปีติ (ปีติเล็กน้อย พอขนชูชันน้ำตาไหล — minor rapture; lesser thrill)
2. ขณิกาปีติ (ปีติชั่วขณะ ทำให้รู้สึกแปลบๆ เป็นขณะๆ ดุจฟ้าแลบ — momentary or instantaneous joy)
3. โอกกันติกาปีติ (ปีติเป็นระลอกหรือปีติเป็นพักๆ ให้รู้สึกซู่ลงมาๆ ในกาย ดุจคลื่นซัดต้องฝั่ง — showering joy; flood of joy)
4. อุพเพคาปีติ หรือ อุพเพงคาปีติ (ปีติโลดลอย เป็นอย่างแรงให้รู้สึกใจฟูแสดงอาการหรือทำการบางอย่างโดยมิได้ตั้งใจ เช่น เปล่งอุทาน เป็นต้น หรือให้รู้สึกตัวเบา ลอยขึ้นไปในอากาศ — uplifting joy)
5. ผรณาปีติ (ปีติซาบซ่าน ให้รู้สึกเย็นซ่านแผ่เอิบอาบไปทั่วสรรพางค์ ปีติที่ประกอบกับสมาธิ ท่านมุ่งเอาข้อนี้ — suffusing joy; pervading rapture)
โปรดเปรียบเทียบกับความเข้าใจของฝรั่งที่ศึกษาบาลีแล้วขยายความไว้ดังนี้ –
1 khuddikā pīti : slight sense of interest (ความรู้สึกตื่นเต้นนิดๆ)
2 khaṇikā pīti : momentary joy (ความดีใจชั่วครู่)
3 okkantikā pīti : oscillating interest, flood of joy (ความตื่นเต้นที่แกว่งไปมา หรือขึ้นๆ ลงๆ หรือความดีใจที่ประดังขึ้นมา)
4 ubbegā pīti : ecstasy, thrilling emotion (ความซาบซ่านหรือความปลาบปลื้มอย่างสุดขีด)
5 pharaṇā pīti : interest amounting to rapture, suffusing joy (ความตื่นเต้นถึงขีดลืมตัวหรือหมดสติ)
บาลี “ปีติ” สันสกฤตเป็น “ปฺรีติ”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –
(สะกดตามต้นฉบับ)
“ปฺรีติ : (คำนาม) ‘ปรีติ’ ความยินดี, ความปราโมท, ความสุข; ความรัก, ความเสน่หา, ความนับถือ, วธูของกามเทพ; นักษัตรโยคที่สองในจำนวนยี่สิบเจ็ด; joy, pleasure, happiness; love, affection, regard; the wife of Kāmadeva or Cupid; the second of the twenty-seven astronomical yogas.”
ในภาษาไทยมีใช้ทั้งรูปบาลี “ปีติ” และรูปที่อิงสันสกฤตเป็น “ปรีดิ, ปรีดิ์, ปรีดี”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
(1) ปรีดิ, ปรีดิ์, ปรีดี : (คำนาม) ความอิ่มใจ, ความปลื้มใจ, ความยินดี. (ส. ปฺรีติ; ป. ปีติ).
(2) ปีติ : (คำนาม) ความปลาบปลื้มใจ, ความอิ่มใจ. (ป.; ส. ปฺรีติ).
(๒) “ราช”
บาลีอ่านว่า รา-ชะ แปลตามรากศัพท์ว่า –
(1) “ผู้รุ่งเรืองโดยยิ่งเพราะมีเดชานุภาพมาก”
ความหมายนี้ประกอบขึ้นจาก ราชฺ (ธาตุ = รุ่งเรือง) + อ (ปัจจัย) = ราช
หมายความว่า ผู้เป็นพระราชาย่อมมีเดชานุภาพมากกว่าคนทั้งหลาย
(2) “ผู้ยังคนทั้งหลายให้ยินดี”
ความหมายนี้ประกอบขึ้นจาก รญฺชฺ (ธาตุ = ยินดี พอใจ) + ณ (ปัจจัย) ลบ ณ ลบ ญฺ แผลง ร เป็น รา = ราช
หมายความว่า เป็นผู้อำนวยความสุขให้ทวยราษฎร์ จนคนทั้งหลายร้องออกมาว่า “ราชา ราชา” (พอใจ พอใจ)
“ราช” หมายถึง พระราชา, พระเจ้าแผ่นดิน ใช้นำหน้าคำให้มีความหมายว่า เป็นของพระเจ้าแผ่นดิน, เกี่ยวกับพระเจ้าแผ่นดิน หรือเป็นของหลวง
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ราช ๑, ราช– : (คำนาม) พระเจ้าแผ่นดิน, พญา (ใช้แก่สัตว์) เช่น นาคราช คือ พญานาค สีหราช คือ พญาราชสีห์, คํานี้มักใช้ประกอบกับคําอื่น, ถ้าคําเดียวมักใช้ว่า ราชา.”
(๓) “วโรทัย”
คำนี้ถ้าแยกศัพท์ตามหลักไวยากรณ์เท่าที่ตาเห็นต้องแยกเป็น วร (ประเสริฐ) + อุทัย (การขึ้นไป [ของดวงอาทิตย์], การเกิดขึ้น)
เมื่อสนธิกัน อุ– ที่เป็นพยางค์แรกของคำหลังนิยมแผลงเป็น โอ
วร + อุทัย = วโรทัย แปลตามศัพท์ว่า “การขึ้นไปอย่างประเสริฐ” หรือ “การเกิดขึ้นอย่างประเสริฐ”
แต่เมื่อได้ทราบว่า พระที่นั่งปรีดีราชวโรทัยเป็นห้องพักผ่อนพระราชอิริยาบถ ดังนี้ จึงต้องพิจารณาใหม่ว่า “วโรทัย” น่าจะไม่ใช่ วร + อุทัย อย่างที่ตาเห็น
“ทัย” ในที่นี้ควรจะหมายถึง “ใจ” นั่นคือตัดมาจาก “หทัย” หรือ “หฤทัย” เพราะฉะนั้นคำนี้น่าจะแยกเป็น วร + ทย เพื่อความสละสลวยในการออกเสียงจึงแผลง วร เป็น วโร (ไม่ใช่การแผลงตามกฎไวยากรณ์) : วร + ทย = วโรทัย
มีคำเทียบที่ใกล้กับคำว่า “วโรทัย” คือคำว่า “หวังวรหฤทัย” ในเพลงสรรเสริญพระบารมี “วรหฤทัย” ก็คือ วร + หฤทัย = วรหฤทัย ทำนองเดียวกับ วร + ทย = วโรทัย
การประสมคำ :
(๑) ราช + วโรทัย = ราชวโรทัย แปลว่า “หัวใจอันประเสริฐของพระราชา”
(๒) อีกนัยหนึ่ง แยกศัพท์เป็น –
(ก) ราช + วร = ราชวร (บาลีอ่านว่า รา-ชะ-วะ-ระ) แปลว่า “พระราชาผู้ประเสริฐ”
(ข) ราชวร + ทัย = ราชวรทัย > ราชวโรทัย แปลว่า “หัวใจของพระราชาผู้ประเสริฐ”
(๓) ปรีดี + ราชวโรทัย = ปรีดีราชวโรทัย แปลว่า (1) “พระที่นั่งที่ทำความยินดีให้แก่หัวใจอันประเสริฐของพระราชา” (2)“พระที่นั่งที่ทำความยินดีให้แก่หัวใจของพระราชาผู้ประเสริฐ”
ทั้งนี้เป็นการแปลโดยอนุวัตรตามข้อมูลที่บอกว่า พระที่นั่งปรีดีราชวโรทัยเป็นห้องพักผ่อนพระราชอิริยาบถ
…………..
ดูก่อนภราดา!
ธมฺมปีติ สุขํ เสติ —
: ถ้าหมั่นอบรมธรรมปรีดีให้มีประจำหัวใจ
: แผ่นดินไทยย่อมร่มเย็นเป็นสุขโดยธรรม
#บาลีวันละคำ (2,447)
23-2-62