สังเกตสังกา (บาลีวันละคำ 896)
สังเกตสังกา
(บาลีแบบไทย)
อ่านว่า สัง-เกด-สัง-กา
(๑) “สงฺเกต”
แปลตามศัพท์ว่า “รู้ร่วมกัน” “รู้พร้อมกัน” รากศัพท์มาจาก –
(1) สํ ( = ร่วมกัน, พร้อมกัน) + กิ (ธาตุ = รู้) + ต ปัจจัย, แปลงนิคหิตเป็น งฺ, แปลง อิ (ที่ กิ) เป็น เอ
: สํ > สงฺ + กิ = สงฺกิ > สงฺเก + ต = สงฺเกต
(2) สํ + กิต (ธาตุ = รู้) + อ ปัจจัย, แปลงนิคหิตเป็น งฺ, แปลง อิ (ที่ กิต) เป็น เอ
: สํ > สงฺ + กิต = สงฺกิต > สงฺเกต + อ = สงฺเกต
สงฺเกต หมายถึง การกำหนด, ความตกลง, การนัดหมาย, สถานที่นัดหมาย, ที่นัดพบ (intimation, agreement, engagement, appointed place, rendezvous)
“สงฺเกต” ในภาษาไทยเขียนว่า “สังเกต”
โปรดสังเกตว่า รากศัพท์ไม่ได้มีสระ อุ ที่ ต คำนี้จึงเขียนว่า สังเกต ไม่ใช่ สังเกตุ
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“สังเกต : (คำกริยา) กําหนดไว้, หมายไว้, เช่น ทำเครื่องหมายไว้เป็นที่สังเกต; ตั้งใจดู, จับตาดู, เช่น ไม่ได้สังเกตว่าวันนี้เขาแต่งตัวสีอะไร สังเกตกิริยาท่าทางเขาไว้ว่าเป็นคนดีหรือคนร้าย”
(๒) “สงฺกา”
รากศัพท์มาจาก สงฺกฺ (ธาตุ = สงสัย) + อ ปัจจัย + อา ปัจจัยอิตถีลิงค์
: สงฺกฺ + อ = สงฺก + อา = สงฺกา แปลว่า “ความสงสัย”
“สงฺกา” ภาษาไทยใช้ว่า “สงกา” (สง-กา) แต่ พจน.54 ก็เก็บรูปคำ “สังกา” (สัง-กา) ไว้ด้วย บอกว่าคือ “สงกา”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“สงกา : (คำนาม) ความสงสัย. (ป. สงฺกา; ส. ศงฺกา).”
เพื่อให้สิ้นสงสัย ควรตามไปดูความหมายของคำว่า “สงสัย” ซึ่งก็คือความหมายของ “สงกา” ด้วย
พจน.54 บอกไว้ว่า –
(1) ไม่แน่ใจในข้อเท็จจริง เช่น สงสัยว่าทำดีจะได้ดีจริงหรือ.
(2) ลังเล เช่น เมื่อเดินไปถึงทาง ๒ แพร่ง สงสัยว่าจะไปทางไหนจึงจะถูก.
(3) ทราบไม่ได้แน่ชัด, เคลือบแคลง, เช่น สงสัยว่าคำตอบข้อไหนถูก สงสัยว่าเขาจะเป็นขโมย.
(4) เอาแน่ไม่ได้ เช่น สงสัยว่าเขาจะมาหรือไม่มา.
“สังเกตสังกา” หมายถึงเห็นอะไรแล้วเกิดความสงสัยจึงจับตาดูหรือหาข้อมูลต่อไปว่าสิ่งนั้นคืออะไร เป็นมาอย่างไรและจะเป็นไปอย่างไรเป็นต้น
คนรุ่นเก่าเมื่อจะเตือนกันให้รู้จักสังเกตจดจำและรู้จักแยกแยะเหตุการณ์ เรื่องราว บุคคล หรือสิ่งของที่พบเห็น ว่าอะไรเป็นอะไร สิ่งไหนต่างจากสิ่งไหนอย่างไรเป็นต้น มักจะใช้คำพูดว่า “หัดสังเกตสังกาไว้มั่งนะ” “รู้จักสังเกตสังกาเสียบ้างสิ”
“สังกา” ดูคล้ายกับเป็นคำสร้อยของ “สังเกต” แต่เป็นคำสร้อยที่มีความหมายและเป็นความหมายที่สอดคล้องกัน
“สังเกตสังกา” ปัจจุบันไม่ค่อยได้ยินพูดกันแล้ว
๏ สงสัยจงสอบสวน
ให้สิ้นส่วนที่สงสัย
เคลือบแคลงกินแหนงใคร
อย่าคุมแค้นทั้งเคลือบคลุม
๏ หากเห็นฤๅยินเหตุ
ย่อมสิ้นเศษสงสัยสุม
สงกาเข้าเกาะกุม
จงแกะแก้ให้ควรการณ์
๏ โกรธเกลียดก็ว่ากล่าว
อย่าชี้ฉาวให้ร้าวฉาน
เมตตาปัญญาญาณ
เข้ายึดเหนี่ยวกลมเกลียวเทอญ๚ะ๛
#บาลีวันละคำ (896)
31-10-57