พรหมวิหาร (บาลีวันละคำ 980)
พรหมวิหาร
ในภาษาไทย พจน.54 บอกไว้ว่า อ่านว่า พฺรม-มะ-วิ-หาน
และอ่านว่า พฺรม-วิ-หาน (ไม่มี -มะ-) ก็ได้
อ่านว่า พฺรม-มะ-วิ-หาน คืออ่านตามหลักภาษา
อ่านว่า พฺรม-วิ-หาน คืออ่านตามความ “รักง่าย”
(๑) “พรหม”
บาลีเขียนเป็น “พฺรหฺม” (มีจุดใต้ พฺ และใต้ หฺ)
บาลีเขียนแบบคำอ่าน ตามอักขรวิธีไทยที่นิยมกัน ท่านให้ใส่เครื่องหมายไว้บนอักษร พ และ ห ใส่ไม้หันอากาศบน ร เป็นดังนี้ = พ๎รัห๎มะ
มีปัญหาว่า คำนี้จะอ่านออกเสียงว่าอย่างไร
ลองออกเสียงว่า พะ-ระ-หะ-มะ ช้าๆ แล้วค่อยๆ เร่งให้เร็วขึ้น จะได้เสียงที่ถูกต้องของคำว่า “พฺรหฺม” ในบาลี
แต่โดยทั่วไป นักเรียนบาลีในเมืองไทยออกเสียงว่า พรม-มะ หรือ พรำ-มะ ภาษาไทยออกเสียงว่า พรม (เสียงเดียวกับ ประพรมน้ำมนต์ พรมปูพื้น)
“พฺรหฺม” รากศัพท์คือ พฺรห (ธาตุ = เจริญ, ประเสริฐ) + ม ปัจจัย แปลตามศัพท์ว่า “ผู้เจริญด้วยคุณ”
ในแง่ภาษา คำว่า “พรหม” ในคัมภีร์บาลีใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) ความดีประเสริฐสุด
(2) คัมภีร์พระเวท, สูตรลึกลับ, คาถา, คำสวดมนต์
(3) เทพผู้ยิ่งใหญ่ในศาสนาพราหมณ์ ถือกันว่าเป็นผู้สร้างจักรวาล
(4) เทวดาพวกหนึ่งที่อยู่บนสรวงสวรรค์ชั้นสูงที่เรียกว่า พรหมโลก
(5) สิ่งศักดิ์สิทธิ์, คนศักดิ์สิทธิ์
ในแง่ตัวบุคคล คำว่า “พรหม” หมายถึง –
(1) เทพสูงสุดหรือพระผู้เป็นเจ้าในศาสนาพราหมณ์
(2) เทพในพรหมโลก เป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องด้วยกาม มี 2 พวกคือ รูปพรหม มี 16 ชั้น อรูปพรหม มี 4 ชั้น
(3) ผู้ประเสริฐด้วยคุณธรรม 4 ประการ คือ เมตตา (ปรารถนาให้อยู่เป็นปกติสุข) กรุณา (ตั้งใจช่วยเพื่อให้พ้นจากปัญหา) มุทิตา (ยินดีด้วยเมื่อมีสุขสมหวัง) อุเบกขา (วางอารมณ์เป็นกลางเมื่อได้ทำหน้าที่ถูกต้องครบถ้วนแล้ว)
(๒) “วิหาร”
บาลีอ่านว่า วิ-หา-ระ
ภาษาไทยเขียนเหมือนกัน อ่านว่า วิ-หาน (เว้นแต่มีคำต่อท้ายบางกรณี อ่านว่า วิ-หา-ระ-)
“วิหาร” รากศัพท์มาจาก วิ (พิเศษ, แจ้ง, ต่าง) + หรฺ (ธาตุ = นำไป) + ณ ปัจจัย, ยืดเสียง อ ที่ ห– เป็น อา, ลบ ณ
: วิ + หรฺ = วิหร + ณ = วิหร > วิหาร แปลตามศัพท์ว่า “นำอิริยาบถไปเป็นพิเศษ” หมายความว่า ผลัดเปลี่ยนอิริยาบถ หรือยืน เดิน นั่ง นอน อยู่ในที่นั้น อาการเช่นนั้นจึงเรียกว่า “วิหาร”
“วิหาร” มีความหมายหลายอย่าง คือ การอยู่, การพักผ่อน, การดำรงชีวิต, สถานะ, วิถีชีวิต, ที่อยู่, ที่อาศัย, การพักอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่ง, ที่ประชุม, วัด, สถานที่ประชุมของภิกษุ, สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ, คุณธรรมประจำใจ
พฺรหฺม + วิหาร = พฺรหฺมวิหาร > พรหมวิหาร แปลตามศัพท์ว่า “การอยู่ของพรหม” หรือ “การอยู่อย่างพรหม”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
(1) พรหม, พรหม– : (คำนาม) ชื่อพระเป็นเจ้าผู้สร้างโลกตามศาสนาพราหมณ์, เทพในพรหมโลก จําพวกมีรูป เรียก รูปพรหม มี ๑๖ ชั้น จําพวกไม่มีรูป เรียก อรูปพรหม มี ๔ ชั้น ตามคติพระพุทธศาสนา, ในบทกลอนใช้ว่า พรหมัน พรหมา พรหมาน หรือ พรหมาร ก็มี; ผู้มีพรหมวิหารทั้ง ๔ (เช่น บิดามารดามีพรหมวิหารทั้ง ๔ ต่อบุตร ได้ชื่อว่า เป็นพรหมของบุตร). (ป., ส. พฺรหฺม).
(2) วิหาร, วิหาร– : (คำนาม) วัด, ที่อยู่ของพระสงฆ์; ที่ประดิษฐานพระพุทธรูป, คู่กับ โบสถ์; การพักผ่อน เช่น ทิวาวิหาร ว่า การพักผ่อนในเวลากลางวัน. (ป., ส.).
(3) พรหมวิหาร : (คำนาม) ธรรมของพรหมหรือของท่านผู้เป็นใหญ่ มี ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา. (ป.).
มักเข้าใจกันว่า “พรหมวิหาร” เป็นคุณธรรมของผู้ใหญ่ หรือของผู้เป็นใหญ่
อันที่จริง เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นคุณธรรมของผู้ที่ครองชีวิตอย่างประเสริฐ ไม่จำกัดว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือผู้น้อย
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต บอกไว้ว่า –
“พรหมวิหาร : ธรรมเครื่องอยู่ของพรหม, ธรรมประจำใจอันประเสริฐ, ธรรมประจำใจของท่านผู้มีคุณความดียิ่งใหญ่มี ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา”
อยู่อย่างยิ่งใหญ่ –
: ใหญ่ด้วยยศศักดิ์ อยู่แล้วหนักหัวใจ
: ใหญ่ด้วยคุณธรรม อยู่แล้วฉ่ำชื่นใจ
: ใหญ่ด้วยคุณธรรมนำยศศักดิ์ อยู่แล้วมีคนรักสุดหัวใจ
#บาลีวันละคำ (980)
23-1-58