พุทธบริษัท [2] (บาลีวันละคำ 1,751)
พุทธบริษัท [2]
ถ้าไม่ยึดพระธรรมวินัยไว้ให้ถนัด
สักวันจะกลายเป็นพุทธพาณิช !!
อ่านว่า พุด-ทะ-บอ-ริ-สัด
แยกศัพท์เป็น พุทธ + บริษัท
(๑) “พุทธ”
บาลีเขียน “พุทฺธ” (มีจุดใต้ ทฺ) อ่านว่า พุด-ทะ รากศัพท์มาจาก พุธฺ (ธาตุ = รู้) + ต ปัจจัย, แปลง ธฺ ที่สุดธาตุเป็น ทฺ, แปลง ต เป็น ธฺ (นัยหนึ่งว่า แปลง ธฺ ที่สุดธาตุกับ ต เป็น ทฺธ)
: พุธฺ + ต = พุธฺต > พุทฺต > พุทฺธ (พุธฺ + ต = พุธฺต > พุทฺธ) แปลตามศัพท์ว่า “ผู้รู้ทุกอย่างที่ควรรู้”
“พุทฺธ” แปลตามศัพท์ได้เกือบ 20 ความหมาย แต่ที่เข้าใจกันทั่วไปมักแปลว่า –
(1) ผู้รู้ = รู้สรรพสิ่งตามความเป็นจริง
(2) ผู้ตื่น = ตื่นจากกิเลสนิทรา ความหลับไหลงมงาย
(3) ผู้เบิกบาน = บริสุทธิ์ผ่องใสเต็มที่
ความหมายที่เข้าใจกันเป็นสามัญ หมายถึง “พระพุทธเจ้า”
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “พุทฺธ” ว่า –
one who has attained enlightenment; a man superior to all other beings, human & divine, by his knowledge of the truth, a Buddha (ผู้ตรัสรู้, ผู้ดีกว่าหรือเหนือกว่าคนอื่นๆ รวมทั้งมนุษย์และเทพยดาด้วยความรู้ในสัจธรรมของพระองค์, พระพุทธเจ้า)
“พุทฺธ” เขียนแบบไทยเป็น “พุทธ” (ไม่มีจุดใต้ ท)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“พุทธ, พุทธ-, พุทธะ : (คำนาม) ผู้ตรัสรู้, ผู้ตื่นแล้ว, ผู้เบิกบานแล้ว, ใช้เฉพาะเป็นพระนามของพระบรมศาสดาแห่งพระพุทธศาสนา เรียกเป็นสามัญว่า พระพุทธเจ้า. (ป.).”
…………..
สังเกตวิธีสะกดของพจนานุกรมฯ :
“พุทธ” คำเดียว แต่พจนานุกรมฯ ตั้งคำสะกดไว้ 3 แบบ หมายความว่าอย่างไร?
1- “พุทธ” สะกดแบบนี้ในกรณีที่ใช้คำเดียว หรืออยู่ท้ายคำ อ่านว่า พุด เช่น “คำว่าพุทธ” “ชาวพุทธ”
2- “พุทธ-” (มีขีดหลัง ธ-) สะกดแบบนี้หมายถึงกรณีมีคำอื่นมาสมาสข้างท้าย อ่านว่า พุด-ทะ- ต่อด้วยคำที่มาสมาส เช่น “พุทธศาสนา” อ่านว่า พุด-ทะ-สาด-สะ-หฺนา (ไม่ใช่ พุด-สาด-สะ-หฺนา)
3-“พุทธะ” (มีสระ อะ หลัง ธ) สะกดแบบนี้ในกรณีที่ต้องการให้อ่านว่า พุด-ทะ และไม่มีคำอื่นมาสมาสข้างท้าย (ถ้ามีคำอื่นมาสมาสข้างท้ายก็เป็นไปตามข้อ 2- คือต้องไม่มีสระ อะ เช่น “พุทธศาสนา” จะเขียนเป็น เช่น “พุทธะศาสนา” ไม่ได้)
…………..
(๒) “บริษัท”
บาลีเป็น “ปริสา” (ปะ-ริ-สา) รากศัพท์มาจาก –
(1) ปริ (คำอุปสรรค = รอบ) + สิทฺ (ธาตุ = ปล่อย) + อ ปัจจัย + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์, ลบ อิ และ ท ที่ สิทฺ (สิทฺ > ส)
: ปริ + สิทฺ = ปริสิทฺ + อ = ปริสิท > ปริส + อา = ปริสา แปลตามศัพท์ว่า “หมู่ที่มาโดยรอบ”
(2) ปริ (คำอุปสรรค = รอบ) + สิ (ธาตุ = คบหา) + อ ปัจจัย + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์, ลบ อิ ที่ สิ (สิ > ส)
: ปริ + สิ = ปริสิ > ปริส + อ = ปริส + อา = ปริสา แปลตามศัพท์ว่า “ที่เป็นที่พบปะกันโดยรอบ”
“ปริสา” ในบาลีใช้ในความหมายว่า คนที่แวดล้อมอยู่, กลุ่มหรือหมู่ชน, ประชาชน, ชุมนุม, กลุ่มชน, พวกพ้อง, คณะหรือหมู่เหล่า, สมัชชา, สมาคม, ฝูงชน (surrounding people, group, collection, company, assembly, association, multitude)
บาลี “ปริสา” สันสกฤตเป็น “ปริษทฺ”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –
(สะกดตามต้นฉบับ)
“ปริษทฺ : (คำนาม) ‘บริษัท,’ สภา, ที่ประชุม (= บันดาผู้ที่มาประชุม); an assembly, an audience or congregation, meeting.”
ปริสา > ปริษทฺ ภาษาไทยใช้อิงสันสกฤตเป็น “บริษัท” (บอ-ริ-สัด)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“บริษัท : (คำนาม) หมู่, คณะ, เช่น พุทธบริษัท, ที่ประชุม เช่น จะพูดอย่างไรต้องดูบริษัทเสียก่อน; (คำที่ใช้ในกฎหมาย) รูปแบบการดำเนินกิจการธุรกิจเพื่อหากำไร ที่จัดตั้งขึ้นเป็นนิติบุคคล โดยแบ่งทุนเป็นหุ้นมีมูลค่าเท่า ๆ กัน มีผู้ถือหุ้นต่างรับผิดจำกัดเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่ตนยังส่งใช้ไม่ครบมูลค่าของหุ้นที่ตนถือ บริษัทมี ๒ ประเภท คือ บริษัทจำกัด และบริษัทมหาชนจำกัด. (ส. ปริษทฺ; ป. ปริสา).”
พุทฺธ + ปริสา = พุทฺธปริสา > พุทธบริษัท
“พุทธบริษัท” ตามศัพท์น่าจะแปลว่า กลุ่มแห่งพระพุทธเจ้า, ชุมนุมแห่งพระพุทธเจ้า หมายถึงพระพุทธเจ้าหลายพระองค์มารวมกัน
แต่คำว่า “พุทธ-” ในคำนี้ไม่ได้หมายถึงพระพุทธเจ้า (the Buddha; Lord Buddha) หากแต่หมายถึงชาวพุทธหรือผู้นับถือพระพุทธศาสนา (a Buddhist; adherent of Buddhism)
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ไทย-อังกฤษ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต บอกไว้ว่า –
“พุทธบริษัท (Buddhaparisā) : the Buddhist assembly;
the four assemblies of Buddhists; Buddhists (collectively).”
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต บอกไว้ว่า –
“พุทธบริษัท : หมู่ชนที่นับถือพระพุทธศาสนามี 4 จำพวก คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา.”
ในคำนิยามคำว่า “บริษัท” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า “บริษัท : (คำนาม) หมู่, คณะ, เช่น พุทธบริษัท, ……..”
แต่คำว่า “พุทธบริษัท” ไม่มีเก็บไว้ในพจนานุกรมฯ!
…………..
คนไทยสมัยใหม่คุ้นกับคำว่า “บริษัท” ในความหมายที่ว่า “รูปแบบการดำเนินกิจการธุรกิจเพื่อหากำไร ที่จัดตั้งขึ้นเป็นนิติบุคคล” หรือเรียกเข้าใจง่ายๆ ว่าบริษัทธุรกิจการค้า
เมื่อมาเห็นคำว่า “พุทธบริษัท” อาจเข้าใจไปว่าเป็นบริษัทการค้าของชาวพุทธ หรือเป็นกิจการที่เรียกกันว่า “พุทธพาณิชย์”
ความหมายของคำว่า “พุทธบริษัท” อาจเพี้ยนไปได้ถ้าไม่ช่วยกันทำความเข้าใจให้ถูกต้อง
…………..
ดูก่อนภราดา!
ท่านรู้ฤๅหาไม่ว่า พุทธบริษัทจะได้กำไรหรือขาดทุน
ขึ้นอยู่กับการกระทำของท่านเอง
: ทำบาปก็ขาดทุน
: ทำบุญก็ได้กำไร
21-3-60