ลักษณนาม (บาลีวันละคำ 1,752)
ลักษณนาม
ฤๅจะรอให้ฝรั่งมาสอน
อ่านว่า ลัก-สะ-หฺนะ-นาม
แยกศัพท์เป็น ลักษณ + นาม
(๑) “ลักษณ”
บาลีเป็น “ลกฺขณ” (ลัก-ขะ-นะ) รากศัพท์มาจาก ลกฺขฺ (ธาตุ = กำหนด) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน, แปลง น เป็น ณ
: ลกฺขฺ + ยุ > อน = ลกฺขน > ลกฺขณ แปลตามศัพท์ว่า –
๑) “สภาวะอันธรรมดากำหนดไว้อย่างนั้นนั่นเอง”
๒) “สิ่งเป็นเครื่องอันเขาใช้กำหนดหมาย”
“ลกฺขณ” หมายถึง สัญลักษณ์, เครื่องหมาย, เครื่องหมายที่เด่นหรือลักษณะที่สำคัญ, คุณภาพ (sign, characteristic, mark, a distinguishing mark or salient feature, property, quality)
“ลกฺขณ” ใช้ในภาษาไทยใช้อิงสันสกฤตเป็น “ลักษณ”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ลักษณ-, ลักษณะ : (คำนาม) สมบัติเฉพาะตัว เช่น น้ำมีลักษณะเป็นของเหลว ลูกบิลเลียดมีลักษณะกลม ลูกเต๋ามีลักษณะเหลี่ยม คนไทยมีลักษณะอ่อนโยน; ประเภท เช่น ใน ๓ ลักษณะ. (ส.; ป. ลกฺขณ).”
(๒) “นาม”
บาลีอ่านว่า นา-มะ รากศัพท์มาจาก นมฺ (ธาตุ = น้อม) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, ยืดเสียง อะ ที่ น-(มฺ) เป็น อา (นมฺ > นาม)
: นมฺ + ณ = นมณ > นม > นาม แปลตามศัพท์ว่า “คำเป็นที่น้อมวัตถุเข้ามา” “คำที่น้อมไปหาวัตถุ” “คำที่ชาวโลกใช้เป็นเครื่องน้อมไปสู่ความหมายนั้นๆ” หมายถึง นาม, ชื่อ (name)
ความหมายในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“นาม, นาม– : (คำนาม) ชื่อ, ราชาศัพท์ใช้ว่า พระนาม; คําชนิดหนึ่งในไวยากรณ์ สําหรับเรียกคน สัตว์ และสิ่งของต่าง ๆ; สิ่งที่ไม่ใช่รูป คือ จิตใจ, คู่กับ รูป. (ป.).”
ลกฺขณ + นาม = ลกฺขณนาม > ลักษณนาม
โปรดสังเกต : “ลักษณ…” ไม่ต้องประวิสรรชนีย์ (ไม่ต้องมีสระ อะ) หลัง ณ
“ลักษณนาม” ไม่ใช่ “ลักษณะนาม”
“ลักษณนาม” (a numerative noun) เป็นคำที่เราคิดขึ้นใช้ในหลักวิชาไวยากรณ์
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ลักษณนาม : (คำที่ใช้ในไวยากรณ์) (คำนาม) คำนามที่แสดงลักษณะของสิ่งต่าง ๆ เช่น คน ๓ คน แมว ๒ ตัว ขลุ่ย ๓ เลา ลูกคนโต หมวกใบใหญ่.”
…………..
อภิปราย :
คำว่า “คน” (หลังเลข ๓) “ตัว” “เลา” “ใบ” นั่นคือ “ลักษณนาม”
คำอื่นๆ ที่เราพูดกันจนชินก็เช่น รถ 1 “คัน” บ้าน 1 “หลัง” ถัง 1 “ใบ” ไข่ 5 “ฟอง” น้ำ 3 “ขวด” ตำรวจ 5 “นาย” ผู้ร้าย 2 “คน”
คำในเครื่องหมาย “” นั่นคือลักษณนาม
ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ก็คือ คนไทย-โดยเฉพาะรุ่นใหม่-ใช้ลักษณนามกันไม่ค่อยถูก หรือที่จริงควรจะเรียกว่าใช้ไม่เป็น
ที่สะดุดหูอยู่เป็นประจำก็เช่น “ผลิตภัณฑ์ตัวนี้” “สินค้าตัวนี้”
ผู้เขียนบาลีวันละคำได้อ่านหนังสือพิมพ์ออนไลน์ฉบับหนึ่ง ลงวันเดือนปีว่า Wednesday, March 22, 2017 หัวข้อข่าว “ชงตั้งเจ้าอาวาส พระนอกจานบิน” ข้อความตอนหนึ่งเขียนว่า –
“ตามกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 24 หากไม่มีรักษาการเจ้าอาวาส สามารถแต่งตั้งเจ้าอาวาสคนใหม่ได้”
“เจ้าอาวาสคนใหม่” – เดี๋ยวนี้เขาใช้ลักษณนามแบบนี้กันแล้วหรือ?
(อันที่จริงน่าจะบอกว่าหนังสือพิมพ์ชื่ออะไร แต่สังคมเรามีค่านิยมเกรงใจคนทำผิด กลัวเขาจะเสียหาย จึงขอไม่บอก นี่ก็เป็นผลเสียอีกอย่างหนึ่ง คือเท่ากับช่วยกันปกป้องคนผิด ทำให้คนทำผิดได้ใจ เพราะเชื่อว่าอย่างไรเสียความเสียหายก็ไม่มาถึงตัว)
ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่เกิดมานานแล้วและยังคงเป็นอยู่ก็คือ ไม่ใช้ลักษณนาม แต่ใช้วิธีพูดแบบฝรั่ง เช่น “ผู้ต้องหา 2 คน” ก็พูด (หรือเขียน) ว่า “2 ผู้ต้องหา”
ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีลักณนาม ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งและเป็นความงามหรือเสน่ห์ของภาษา ควรช่วยกันศึกษาเรียนรู้แล้วใช้ให้ถูกต้อง
ภาษาเป็นส่วนหนึ่งของชาติ
การรักษาภาษาก็คือรักษาชาติ รักษาความเป็นไทย
…………..
ดูก่อนภราดา!
: อย่านอนใจว่าใช้ภาษาผิดก็ไม่เสียสิทธิ์ไปนิพพาน
: เพราะการใช้ภาษาไม่ถูก-เป็นการเหยียบจมูกยมบาล
22-3-60