บุตรธิดา (บาลีวันละคำ 1,762)
บุตรธิดา
คำสามัญประจำบ้าน
ภาษาไทยอ่านว่า บุด-ทิ-ดา
แยกศัพท์เป็น บุตร + ธิดา
(๑) “บุตร”
บาลีเป็น “ปุตฺต” (ปุด-ตะ) รากศัพท์มาจาก –
(1) ปู (ธาตุ = สะอาด, ชำระ) + ต ปัจจัย, ซ้อน ตฺ, รัสสะ อู ที่ ปู เป็น อุ (ปู > ปุ)
: ปู + ตฺ + ต = ปูตฺต > ปุตฺต แปลตามศัพท์ว่า (1) “ผู้เป็นเหตุให้บิดามารดาสะอาด” (คือไม่ถูกตำหนิว่าไม่มีผู้สืบสกุล) (2) “ผู้ชำระตระกูลของตนให้สะอาด” (คือทำให้ตระกูลมีผู้สืบต่อ)
(2) ปูรฺ (ธาตุ = เต็ม) + ต ปัจจัย, แปลง รฺ ที่สุดธาตุเป็น ตฺ,(ปูรฺ > ปูตฺ), รัสสะ อู ที่ ปู-(รฺ) เป็น อุ (ปูร > ปุร)
: ปูรฺ + ตฺ = ปูรต > ปูตฺต > ปุตฺต แปลตามศัพท์ว่า “ผู้ยังดวงใจของบิดามารดาให้เต็ม”
(3) ปุสฺ (ธาตุ = เลี้ยง) + ต ปัจจัย, ลบ สฺ ที่สุดธาตุ (ปุสฺ > ปุ), ซ้อน ตฺ
: ปุสฺ > ปุ + ตฺ + ต = ปุตฺต แปลตามศัพท์ว่า “ผู้อันมารดาบิดาเลี้ยงดู”
“ปุตฺต” ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) ลูกชาย (a son)
(2) เด็ก, ผู้สืบสกุล (child, descendant)
(๒) “ธิดา”
บาลีเป็น “ธีตา” ศัพท์เดิมเป็น “ธีตุ” รากศัพท์มาจาก ธรฺ (ธาตุ = ทรงไว้) + ริตุ ปัจจัย, ลบ รฺ ที่สุดธาตุ (ธรฺ > ธ) และ ร ที่ ริตุ ปัจจัย (ริตุ > อิตุ), ทีฆะ อิ ที่ (ธ + อิ =) ธิ เป็น อี (ธิ > ธี)
: ธรฺ + ริตุ = ธรริตุ > ธริตุ > ธิตุ > ธีตุ แปลตามศัพท์ว่า “ผู้อันมารดาบิดาคอยทรงไว้” (คือดูแลรักษาไว้)
“ธีตุ” แจกด้วยวิภัตตินามที่หนึ่ง (ปฐมาวิภัตติ) แปลง อุ ที่ (ธี)-ตุ เป็น อา = ธีตา ใช้ในภาษาไทยเป็น “ธิดา” คือ ลูกสาว (a daughter)
ปุตฺต + ธีตุ = ปุตฺตธีตุ (ปุด-ตะ-ที-ตุ) แปลว่า “บุตรและธิดา”
“ปุตฺตธีตุ” ในภาษาไทยใช้เป็น “บุตรธิดา” (คือ บุตร + ธิดา)
ในภาษาบาลี ถ้ากล่าวถึง “ปุตฺต” หรือ “บุตร” โดยทั่วไป ย่อมรวม “ธิดา” ไว้ด้วยโดยปริยาย เหมือนคำไทยว่า “ลูก” คำเดียวย่อมหมายถึงทั้งลูกชายและลูกสาว
…………..
ในคัมภีร์ท่านแบ่ง “บุตร” ตามคุณภาพไว้ 3 ประเภท
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต ข้อ [90] แสดงบุตรทั้ง 3 ประเภทไว้ดังนี้ –
บุตร 3 : (Putta: son; child; descendant)
1. อติชาตบุตร (บุตรที่ยิ่งกว่าบิดามารดา, ลูกที่ดีกว่าเลิศกว่าพ่อแม่ — Atijāta-putta: superior-born son)
2. อนุชาตบุตร (บุตรที่ตามเยี่ยงบิดามารดา, ลูกที่เสมอด้วยพ่อแม่ — Anujāta-putta: likeborn son)
3. อวชาตบุตร (บุตรที่ต่ำลงกว่าบิดามารดา, ลูกที่ทราม — Avajāta-putta: inferior-born son)
บุตรประเภทที่ 1 นั้น เรียกอีกอย่างว่า อภิชาตบุตร
…………..
ดูก่อนภราดา!
ท่านจะสำคัญความข้อนี้เป็นไฉน?
๏ สองชีพเลี้ยงสิบปล้ำ…..เป็นตน
สิบชีพเลี้ยงสองชนม์……..ไป่ได้
เป็นสัจอัศจรรย์จน………..โลกล่ม ลงฤๅ
ใครขบปริศนาให้………….แหลกแล้วลอยสวรรค์๚ะ๛
3-4-60