บาลีวันละคำ

คำบูชาข้าวพระ [6] (บาลีวันละคำ 2,005)

คำบูชาข้าวพระ [6] – คำแนะนำทั่วไป

คำว่า “ข้าวพระ” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

ข้าวพระ : (คำนาม) อาหารคาวหวานที่จัดใส่สำรับสําหรับถวายพระพุทธ.”

คำบูชาข้าวพระนิยมกล่าวเป็นภาษาบาลี มีข้อความดังนี้ –

เขียนแบบบาลี :

อิมํ  สูปพฺยญฺชนสมฺปนฺนํ  สาลีนํ  โอทนํ  อุทกํ  วรํ  พุทฺธสฺส  ปูเชมิ.

เขียนแบบคำอ่าน :

อิมัง  สูปะพ๎ยัญชะนะสัมปันนัง  สาลีนัง  โอทะนัง  อุทะกัง  วะรัง  พุทธัสสะ  ปูเชมิ.

แปลยกศัพท์ :

อหํ  อันว่าข้าพเจ้า

ปูเชมิ  ขอบูชา

โอทนํ ซึ่งข้าวสุก

สาลีนํ อันบริสุทธิ์ (คืออันดี, อันประณีต)

สูปพฺยญฺชนสมฺปนฺนํ อันสมบูรณ์ด้วยสูปะและพยัญชนะ

อุทกํ (และ) น้ำ

วรํ อันประเสริฐ

อิมํ นี้

พุทฺธสฺส แก่พระพุทธเจ้า

แปลโดยใจความ :

ข้าพเจ้าขอบูชาข้าวสุกอันบริสุทธิ์ พร้อมทั้งแกงและกับและน้ำอันประเสริฐนี้ แด่พระพุทธเจ้า

…………..

คำแนะนำทั่วไป :

๑. เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานใหม่ๆ ชาวพุทธยังชินอยู่กับการจัดพุทธอาสน์และภัตตาหารถวายพระพุทธเจ้า เมื่อนิมนต์พระสงฆ์ไปฉันภัตตาหาร ก็จึงจัดที่ประทับของพระพุทธเจ้าและจัดภัตตาหารตั้งไว้ เสมือนหนึ่งว่าพระพุทธองค์เสด็จมาประทับอยู่ด้วย และกลายเป็นธรรมเนียมจัดข้าวพระพุทธ และประกอบบุญกิริยาที่เรียกกันว่า “บูชาข้าวพระ” มาจนถึงทุกวันนี้

ด้วยเหตุผลทางความเป็นมาเช่นนี้ ข้าวพระหรือข้าวพระพุทธ จะจัดก็ต่อเมื่อมีการถวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์เท่านั้น ไม่ใช่จัดเป็นเครื่องบูชาประจำวัน

๒. ข้าวพระ ต้องจัดให้ประณีตเหมือนที่จัดถวายพระสงฆ์หรือประณีตกว่า สมมุติว่าถ้าพระพุทธเจ้าเสด็จมาก็จะเสวยได้เต็มอิ่มจริงๆ

๓. อย่าใช้ถ้วยเล็กๆ ถาดเล็กๆ จัดข้าวพระเหมือนของเซ่นผี เพราะพระพุทธเจ้าไม่ใช่ผี

๔. ชนิดของอาหารที่เป็นหลัก ควรจัดให้สอดคล้องกับคำบูชา คือ –

1. ข้าวสุก (โอทนํ)

2. กับข้าว (สูปพฺยญฺชนสมฺปนฺนํ)

3. น้ำดื่ม (อุทกํ)

นอกจาก 3 สิ่งนี้แล้วจะมีอย่างอื่นเสริมอีกก็ได้ตามแต่จะพึงมี

๕ คำที่เรียก มักได้ยิน 2 คำ คือ “บูชาข้าวพระ” และ “ถวายข้าวพระ

ผู้เขียนบาลีวันละคำขอเสนอให้ใช้คำว่า “บูชาข้าวพระ” ด้วยเหตุผลดังนี้ –

1. สอดคล้องกับคำบูชาที่ใช้คำกริยาว่า “ปูเชมิ” (ข้าพเจ้าขอบูชา)

ทราบมาว่า คำบูชาข้าวพระนี้บางสำนักใช้คำกริยาว่า “ทมฺมิ” หรือ “เทมิ” ซึ่งแปลว่า “ข้าพเจ้าขอถวาย” พึงเข้าใจว่านั่นเป็นเพียงมติของบางสำนักเท่านั้น คำบูชาที่ถือว่าเป็นคำกลางๆ ใช้กันทั่วไปย่อมใช้คำกริยาว่า “ปูเชมิ” เป็นพื้น

2. สอดคล้องกับหลักที่ว่า “ถวาย” ต้องมีตัวผู้รับของสิ่งนั้น แต่ “บูชา” จะมีตัวผู้รับหรือไม่มีก็ได้ กรณีข้าวพระนี้ผู้บูชาไม่ได้มีเจตนาจะให้พระพุทธเจ้าเสด็จมาเสวยอาหารนั้นจริงๆ อาหารจึงอยู่ในฐานะเป็นเครื่องบูชา ไม่ใช่ของถวาย (ดูเพิ่มเติม: “คำบูชาข้าวพระ [1]” บาลีวันละคำ (2,000) 3-12-60)

3. ถ้าใช้คำว่า “ถวายข้าวพระ” ย่อมจะขัดแย้งกับธรรมเนียมลาข้าวพระซึ่งมีคำกล่าวว่า “เสสํ  มงฺคลํ  ยาจามิ” แปลว่า “ข้าพเจ้าขอส่วนที่เหลืออันเป็นมงคล” คือจะกลายเป็นว่าถวายแล้วยังจะขอคืนอีก ซึ่งไม่ควรเป็นเช่นนั้น

ถ้าใช้คำว่า “บูชาข้าวพระ” จะไม่มีปัญหาเช่นนั้น เพราะข้าวพระอยู่ในฐานะเป็นเครื่องบูชา เมื่อมีเหตุอันควร ผู้บูชาหรือใครๆ ย่อมสามารถนำไปดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่เห็นสมควรได้

…………..

ดูก่อนภราดา!

: ข้าวพระไม่ใช่ของเซ่นผี

: จัดให้ถูกวิธี เจริญศรีสวัสดิมงคล

#บาลีวันละคำ (2,005)

8-12-60

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *