หิมพานต์ [2] (บาลีวันละคำ 2,073)
หิมพานต์ [2]
กัณฑ์ที่ 2 ในมหาเวสสันดรชาดก 13 กัณฑ์
อ่านว่า หิม-มะ-พาน
บาลีเป็น “หิมวนฺตุ” อ่านว่า หิ-มะ-วัน-ตุ
ประกอบด้วย หิม + วนฺตุ
(๑) “หิม” (หิ-มะ)
รากศัพท์มาจาก หิ (ธาตุ = เบียดเบียน; เป็นไป; ตกไป) + อิม ปัจจัย
: หิ + อิม = หิม (นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า (1) “สิ่งที่เบียดเบียนด้วยความเย็น” (2) “สิ่งที่เป็นไปตามปกติ” คือถึงเวลามีหิมะ หิมะก็มีตามปกติ จึงเรียกว่า “สิ่งที่เป็นไปตามปกติ” (3) “สิ่งที่ตกบนแผ่นดินและภูเขา”
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “หิม” ว่า –
(1) cold, frosty (หนาว, มีน้ำค้างแข็ง)
(2) ice, snow (น้ำแข็ง, หิมะ)
“หิม” ภาษาไทยใช้ทับศัพท์ว่า “หิมะ”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“หิม-, หิมะ : (คำนาม) ละอองนํ้าในอากาศที่แปรสภาพเป็นของแข็งเพราะอุณหภูมิตํ่า ลักษณะฟูเป็นปุย ลอยลงมาจากท้องฟ้า; ความหนาว, ความเยือกเย็น; ฤดูหนาว. (ป., ส.).”
(๒) “วนฺตุ” (วัน-ตุ)
เป็นปัจจัยสำหรับลงท้ายศัพท์ แปลว่า “มี-” หรือ “ประกอบ-”
: หิม + วนฺตุ = หิมวนฺตุ แปลตามศัพท์ว่า “มีหิมะมาก” หรือ “ประกอบด้วยหิมะในฤดูหิมะตก” หมายถึง ภูเขาหรือป่าที่มีหิมะ (snowy)
“หิมวนฺตุ” ศัพท์นี้ท่านว่า “เอา -นฺตุ เป็น -นฺต ได้” คือเป็น “หิมวนฺต” (หิ-มะ-วัน-ตะ) ก็ได้ เมื่อแจกด้วยวิภัตตินามที่หนึ่ง (ปฐมาวิภัตติ) ได้รูปเป็น “หิมวนฺตํ” (หิ-มะ-วัน-ตัง) และ “หิมวา” (หิ-มะ-วา) อันเป็นรูปคำที่ใช้ดกดื่น
ในคัมภีร์ “หิมวนฺต” หมายถึง (1) ภูเขาหิมพานต์ หรือที่รู้จักกันในบัดนี้ว่า ภูเขาหิมาลัย (2) ป่าใหญ่ในบริเวณภูเขาหิมพานต์
ดูเพิ่มเติม : “หิมพานต์” บาลีวันละคำ (715) 2-5-57
“หิมวนฺตุ” หรือ “หิมวนฺต” ในภาษาไทยใช้เป็น “หิมพานต์”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“หิมพานต์ : (คำนาม) ชื่อป่าหนาวแถบเหนือของอินเดีย; ชื่อกัณฑ์ที่ ๒ แห่งเวสสันดรชาดก.”
ข้อสังเกต :
ที่คำว่า “ทศพร” พจนานุกรมฯ บอกไว้ว่า “ชื่อกัณฑ์ที่ ๑ ของมหาชาติ”
แต่ที่คำว่า “หิมพานต์” นี้ พจนานุกรมฯ บอกว่า “ชื่อกัณฑ์ที่ ๒ แห่งเวสสันดรชาดก”
ถ้ามองแบบจับผิดก็ต้องว่า ทำไมไม่บอกว่า “ชื่อกัณฑ์ที่ ๒ ของมหาชาติ” เหมือนที่คำว่า “ทศพร”
อีกนัยหนึ่ง ที่คำว่า “ทศพร” ทำไมไม่บอกว่า “ชื่อกัณฑ์ที่ ๑ แห่งเวสสันดรชาดก” เหมือนที่คำว่า “หิมพานต์”
หมายความว่า เมื่อเป็นชื่อกัณฑ์เหมือนกัน จะใช้คำว่า “ของมหาชาติ” หรือ “แห่งเวสสันดรชาดก” ก็ควรจะใช้ให้ลงรอยเดียวกัน ไม่ควรให้ลักลั่นแบบนี้
ขยายความ :
“หิมพานต์” เป็นชื่อกัณฑ์ที่ 2 ของมหาเวสสันดรชาดก
ในคัมภีร์ชาดก (พระไตรปิฎกเล่ม 28 ข้อ 1051-1077 หน้า 366-375) เรียกชื่อกัณฑ์นี้ว่า “หิมวนฺตํ” (ดูภาพประกอบ) ซึ่งตรงกับที่ภาษาไทยใช้ว่า “หิมพานต์”
เรื่องราวในกัณฑ์ “หิมพานต์” ว่าด้วยผุสดีเทพกัญญาจุติลงมาเกิดในโลกมนุษย์ ได้บรรลุพรทุกข้อสมประสงค์ กล่าวถึงกำเนิดพระเวสสันดร ที่มาของชื่อ “เวสสันดร” “ชาลี” และ “กัณหา” และตัวละครสำคัญตัวหนึ่งคือ ช้างปัจจัยนาค
เมื่อพระเวสสันดรมีพระชนมายุได้ 16 ปี พระเจ้ากรุงสญชัยผู้พระราชบิดาได้จัดการอภิเษกกับพระนางมัทรี แล้วทรงมอบราชสมบัติให้ครอบครอง พระเวสสันดรบริจาคช้างปัจจัยนาคให้แก่แคว้นกาลิงคะซึ่งฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล
ชาวเมืองโกรธแค้นลงมติให้เนรเทศพระเวสสันดรไปอยู่เขาวงกต
กล่าวได้ว่าการบริจาคช้างปัจจัยนาคนั่นเองเป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องราวต่างๆ ในมหาเวสสันดรชาดก
กัณฑ์นี้ชื่อ “หิมพานต์” ตามข้อความที่พระนางมัทรีพรรณนาภาพของป่าหิมพานต์ถวายพระเวสสันดรเล้าโลมพระทัยให้รื่นรมย์ในการที่จะต้องไปอยู่ในป่า เพื่อมิให้ต้องกังวลห่วงระลึกบ้านเมือง
……..
กัณฑ์ที่ ๒ หิมวนฺตํ 134 พระคาถา
เพลงประจำกัณฑ์: เพลงตวงพระธาตุ
…………..
ดูก่อนภราดา!
: อยากหนัก จงเอา
: อยากเบา จงให้
#บาลีวันละคำ (2,073)
14-2-61