ชีวสิทฺธี – สทา โสตฺถี (บาลีวันละคำ 1,986)
ชีวสิทฺธี – สทา โสตฺถี
ออกเสียงวิปลาส พุทธศาสน์ก็วิปริต
อ่านว่า ชี-วะ-สิด-ที / สะ-ทา โสด- ถี
(๑) “ชีวสิทฺธี” ประกอบด้วยคำว่า ชีว + สิทฺธี
(1) “ชีว” (ชี-วะ) รากศัพท์มาจาก ชีวฺ (ธาตุ = เป็นอยู่) + อ ปัจจัย
: ชีวฺ + อ = ชีว (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งเป็นเหตุให้เป็นอยู่ได้” หมายถึง ชีวิต (ของแต่ละคน), เวลาที่ชีวิตดำรงอยู่, ช่วงของชีวิต, การเป็นอยู่; การดำรงชีพ ([individual] life, lifetime, span of life; living, livelihood)
(2) “สิทฺธี” (สิด-ที) รากศัพท์มาจาก –
(1) สิธฺ (ธาตุ = สำเร็จ) + ติ ปัจจัย, แปลง ติ เป็น ทฺธิ, ลบ ธฺ ที่สุดธาตุ (สิธฺ > สิ)
: สิธฺ > สิ + ติ > ทฺธิ : สิ + ทฺธิ = สิทฺธิ แปลตามศัพท์ว่า “ความสำเร็จ”
(2) ส (ตัดมาจาก “สห” = พร้อมกัน, ร่วมกัน) + อิทฺธิ
(ก) “อิทฺธิ” รากศัพท์มาจาก อิธฺ (ธาตุ = เจริญ) + อิ ปัจจัย, ซ้อน ทฺ หลัง อิ ต้นธาตุ (อิธฺ > อิทฺธ)
: อิธฺ > (อิ + ทฺ) อิทฺธ + อิ = อิทฺธิ แปลตามศัพท์ว่า “เหตุเป็นเครื่องเจริญ” หมายถึง ความสำเร็จ, ความเจริญ (ดูเพิ่มเติมที่ “อิทธิฤทธิ์” บาลีวันละคำ (1,294) 14-12-58)
(ข) ส + อิทฺธิ = สิทฺธิ แปลตามศัพท์ว่า “เหตุเป็นไปพร้อมกับความสำเร็จ”
“สิทฺธิ” (อิตถีลิงค์) นักเรียนบาลีแปลกันว่า ความสำเร็จ
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “สิทฺธิ” เป็นอังกฤษว่า accomplishment, success, prosperity (การกระทำสำเร็จ, ความสำเร็จ, ความรุ่งเรือง)
“สิทฺธิ” แจกวิภัตติเป็นพหูพจน์ ได้รูปเป็น “สิทฺธี”
ชีว + สิทฺธี = ชีวสิทฺธี แปลว่า “ความสำเร็จในชีวิต” “ความสำเร็จแห่งชีวิต”
(๒) “สทา โสตฺถี” เป็น 2 คำ คือ “สทา” คำหนึ่ง “โสตฺถี” อีกคำหนึ่ง
(1) “สทา” เป็นศัพท์นิบาต แปลว่า ทุกเมื่อ (always)
(2) “โสตฺถี” (โสด-ถี) รากศัพท์มาจาก สุ (= ดี, งาม) + อตฺถิ (= มี, เป็น)
(ก) “อตฺถิ” เป็นคำกริยา รากศัพท์มาจาก อสฺ (ธาตุ = มี, เป็น) ลบที่สุดธาตุ + ติ (วิภัตติอาขยาต ปฐมบุรุษ เอกพจน์) แปลง ติ เป็น ตฺถิ
: อสฺ > อ + ติ > ตฺถิ : อ + ตฺถิ = อตฺถิ แปลว่า ย่อมมี, ย่อมเป็น
(ข) สุ + อตฺถิ, แผลง อุ ที่ สุ เป็น โอ, ทีฆะ อิ ที่ (อตฺ)-ถิ เป็น อี
: สุ > โส + อตฺถิ = โสตฺถิ > โสตฺถี (อิตถีลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “มีดี” หรือ “เป็นดี” หมายถึง ความสวัสดี, ความรุ่งเรือง, ความปลอดภัย; การอยู่ดี, การได้รับพร (well-being, prosperity, safety; well-being, blessing)
…………..
อภิปราย :
“ชีวสิทฺธี” เป็นคำหนึ่งในบทอนุโมทนาที่ขึ้นต้นว่า –
อายุวฑฺฒโก ธนวฑฺฒโก สิริวฑฺฒโก
…………………
…………………
สิริ อายุ จ วณฺโณ จ…..โภคํ วุฑฺฒี จ ยสวา
สตวสฺสา จ อายู จ……….ชีวสิทฺธี ภวนฺตุ เต.
จงเป็นผู้เจริญอายุ เจริญทรัพย์ เจริญศรี
…………………
…………………
ความมีสิริ อายุ วรรณะ โภคะ ความเจริญ และความมียศ
อายุยืนร้อยปี และความสำเร็จในชีวิต จงมีแก่ท่าน
ส่วน “สทา โสตฺถี” เป็นคำหนึ่งในบทอนุโมทนาที่ขึ้นต้นว่า –
ภวตุ สพฺพมงฺคลํ…….รกฺขนฺตุ สพฺพเทวตา
สพฺพพุทฺธานุภาเวน….สทา โสตฺถี ภวนฺตุ เต.
ขอสรรพมงคลจงมี (แก่ท่าน)
ขอเหล่าเทวดาทั้งปวงจงรักษา (ท่าน)
ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าทั้งปวง
ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่านทุกเมื่อ
ที่ยกเอาคำทั้ง 2 มาเสนอไว้ก็เพื่อจะบอกว่า
(1) คำว่า “ชีวสิทฺธี” ตรงพยางค์ — สิทฺธี ซึ่งควรจะออกเสียงว่า สิด-ที เวลานี้พระสงฆ์ในเมืองไทยออกเสียงเป็น — สิด-ถี (ธี ธ ธง กลายเป็น ถี ถ ถุง)
(2) คำว่า “โสตฺถี” ซึ่งควรจะออกเสียงว่า โสด-ถี เวลานี้พระสงฆ์ในเมืองไทยออกเสียงเป็น โสด-ที (ถี ถ ถุง กลายเป็น ที ท ทหาร)
การสลับเสียง ที เป็น ถี หรือ ถี เป็น ที ในคำทั้ง 2 นี้ ไม่ใช่เกิดจากการสวดตามสำเนียงมคธ ดังคำว่า มยฺหํ ออกเสียงเป็น ไม-หั้ง หรือ สมฺมา ออกเสียงเป็น ส้ำ-มา ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติของเสียงมคธ
เทียบกับสำเนียงพื้นถิ่นของไทย เช่นสำเนียงสุพรรณหรือเมืองกาญจน์ คำว่า “พ่อก็มา แม่ก็มา มากันทั้งบ้าน” จะออกเสียงเป็น “พ่อก็หมา แม่ก็หมา หมากันทั้งบ้าน” – อย่างนี้คือธรรมชาติของการออกเสียงในภาษาถิ่นต้องเป็นเช่นนั้นเอง
แต่ “ชีวสิทฺธี” และ “โสตฺถี” ไม่ใช่เช่นนั้น
เมื่อทดลองออกเสียง “ชีวสิทฺธี” ให้เป็น -ที และออกเสียง “โสตฺถี” ให้เป็น -ถี ตามพยัญชนะ ก็สามารถออกเสียงได้ตรงตัวพยัญชนะตามธรรมชาติของสำเนียงมคธ
จึงเห็นได้ว่าการสลับเสียง ที เป็น ถี หรือ ถี เป็น ที ในคำทั้ง 2 นี้ เกิดจากการจงใจที่จะออกเสียงให้เป็นเช่นนั้น และการจงใจเช่นนั้นน่าจะเกิดจากความเข้าใจผิดของผู้สวด คือเข้าใจไปว่าคำตรงนั้นเป็น “ชีวสิทฺถี” และเป็น “โสตฺที” เนื่องจากไม่ได้สังเกตสำเหนียกให้ถ่องแท้ถี่ถ้วน หรือสวดตามกันไปโดยไม่ได้คิดจะตรวจสอบให้ถูกต้องถ่องแท้ว่าคำนั้นเป็นพยัญชนะอะไรและออกเสียงอย่างไร
ควรกำหนดไว้ด้วยว่า ปัญหานี้เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไม่ช้าไม่นานมานี้เอง สมัยที่ผู้เขียนบาลีวันละคำเป็นเด็กวัด เป็นสามเณร ตลอดจนเป็นพระ ก็สวดคำทั้ง 2 นี้อยู่เสมอ แต่ไม่เคยออกเสียงวิปริต ที เป็น ถี หรือ ถี เป็น ที อย่างที่กำลังเป็นอยู่ในเวลานี้
…………..
มีพระบาลีตรัสไว้ว่า พระตถาคตทรงประกาศพรหมจรรย์คือพระศาสนา พร้อมทั้งอรรถะ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง
…………..
ถ้ารักษาพยัญชนะไว้ไม่ได้ ก็รักษาอรรถะไว้ไม่ได้
รักษาอรรถะและพยัญชนะไว้ไม่ได้ ก็รักษาความบริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงของพระศาสนาไว้ไม่ได้
และในที่สุด-ก็จะรักษาพระศาสนาไว้ไม่ได้
ดูก่อนภราดา!
: เด็ดดอกไม้ดอกเดียวสะเทือนถึงดวงดาว ฉันใด
: พยัญชนะวิปริตคำเดียว ก็พินาศไปถึงพระศาสนาได้ ฉันนั้น
————–
ภาพประกอบ: จาก google
#บาลีวันละคำ (1,986)
19-11-60