กกุธภัณฑ์ (บาลีวันละคำ 2,509)
กกุธภัณฑ์
สัญลักษณ์แห่งความเป็นพระมหากษัตริย์
อ่านว่า กะ-กุด-ทะ-พัน
ประกอบด้วยคำว่า กกุธ + ภัณฑ์
(๑) “กกุธ”
บาลีอ่านว่า กะ-กุ-ทะ รากศัพท์มาจาก –
(1) กกุ (ธาตุ = ถือเอา) + อุธ ปัจจัย, แปลง อุ ที่ (ก)-กุ เป็น อะ (กกุ > กก)
: กกุ > กก + อุธ = กกุธ แปลตามศัพท์ว่า (1) “อวัยวะที่ถือเอา” (คือรองรับแอก) (2) “ของที่ต้องถือเอาไป”
(2) กกฺ (ธาตุ = ห้าม) + อุธ ปัจจัย
: กกฺ + อุธ = กกุธ แปลตามศัพท์ว่า “ต้นไม้ที่ห้ามลม”
(3) ก (ฟ้า) + กุ (แผ่นดิน) + ธรฺ (ธาตุ = ทรงไว้) + กฺวิ ปัจจัย, ลบที่สุดธาตุ (ธรฺ > ธ) และลบ กฺวิ
: ก + กุ = กกุ + ธรฺ = กกุธรฺ + กฺวิ = กกุธรฺกฺวิ > กกุธรฺ > กกุธ แปลตามศัพท์ว่า “ผู้ทรงไว้ซึ่งฟ้าและแผ่นดิน”
“กกุธ” (ปุงลิงค์, นปุงสกลิงค์) ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) โหนกบนไหล่ของโค (the hump on the shoulders of a bull)
(2) หงอนไก่ (a cock’s comb)
(3) พระราชา (the king)
(4) ต้นไม้, ต้นกุ่ม (a tree, the Terminalia Arjuna)
(5) สัญลักษณ์หรือเครื่องหมายของพระราชา (a king’s symbol or emblem)
(๒) “ภัณฑ์”
เขียนแบบบาลีบาลีเป็น “ภณฺฑ” อ่านว่า พัน-ดะ รากศัพท์มาจาก ภฑิ (ธาตุ = ห่อ, เก็บ) + ก ปัจจัย, ลงนิคหิตอาคมต้นธาตุ แล้วแปลงเป็น ณ,(ภฑิ > ภํฑิ > ภณฺฑิ), ลบสระที่สุดธาตุ และ ก
: ภฑิ > ภํฑิ > ภณฺฑิ + ก = ภณฺฑิก > ภณฺฑิ > ภณฺฑ แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งอันบุคคลพึงห่อเก็บ” เดิมหมายถึงสิ่งซึ่งสามารถห่อแล้วเก็บไว้ได้ ต่อมาความหมายขยายไปถึงสิ่งของทั่วไป
ภณฺฑ (นปุงสกลิงค์) ในบาลี ใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) ของค้าขาย; สินค้า, สิ่งของ, ทรัพย์สมบัติ (stock in trade; collectively goods, wares, property, possessions)
(2) เครื่องใช้, วัตถุ, เครื่องมือ (implement, article, instrument)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ภัณฑ-, ภัณฑ์ : (คำนาม) สิ่งของ, เครื่องใช้. (ป.; ส. ภาณฺฑ).”
กกุธ + ภณฺฑ = กกุธภณฺฑ (กะ-กุ-ทะ-พัน-ดะ) แปลตามศัพท์ว่า (1) “สิ่งของอันเป็นพระราชทรัพย์ที่จะต้องถือเอาไปด้วยเสมอเมื่อพระราชาเสด็จ” (2) “ของใช้ของกษัตริย์”
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “กกุธภณฺฑ” ว่า ensign of royalty (เครื่องราชกกุธภัณฑ์) และขยายความไว้ว่า –
The 5 regalia are vāḷavījanī, uṇhīsa, khagga, chatta, pādukā: the fan, diadem, sword, canopy, slippers. (เครื่องราชกกุธภัณฑ์ 5 อย่าง คือ วาฬวีชนี, อุณฺหีส, ขคฺค, ฉตฺต, ปาทุกา: วาลวีชนี, มงกุฎ, พระขรรค์, ฉัตร, ฉลองพระบาท)
“กกุธภณฺฑ” ในภาษาไทยใช้เป็น “กกุธภัณฑ์”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“กกุธภัณฑ์ : (คำนาม) สัญลักษณ์สำคัญแห่งความเป็นพระมหากษัตริย์ คือ ๑. พระมหาพิชัยมงกุฎ ๒. พระแสงขรรค์ชัยศรี ๓. ธารพระกรชัยพฤกษ์ ๔. วาลวีชนี (พัดกับแส้) ๕. ฉลองพระบาท รวมเรียกว่าเบญจราชกกุธภัณฑ์ ทั้งนี้ บางสมัยใช้เครื่องราชกกุธภัณฑ์แตกต่างกัน เช่น ใช้ฉัตรแทนพระมหาพิชัยมงกุฎ.(ป. กกุธ ว่า เครื่องหมายความเป็นพระราชา + ภณฺฑ ว่าของใช้; ระบุไว้ในอภิธานัปปทีปิกา คาถาที่ ๓๕๘ ว่า พระขรรค์ ฉัตร อุณหิส ฉลองพระบาท วาลวีชนี คือ มีฉัตรแทนธารพระกร; ในจดหมายเหตุบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๒ มีทั้งฉัตรและธารพระกร พระแสงขรรค์ พระแสงดาบ วาลวีชนี พระมหาพิชัยมงกุฎ และฉลองพระบาท รวมเป็น ๗ สิ่ง.วาลวีชนี ที่ปรากฏวัตถุเป็นพัดกับแส้จามรีนั้น แต่ก่อนเป็นพัดใบตาลอย่างที่เรียกว่า พัชนีฝักมะขาม ต่อมาท่านเห็นควรเป็นแส้จามรีจะถูกกว่า เพราะศัพท์ว่าวาลวีชนี หมายความเป็นแส้ขนโคชนิดหนึ่ง จึงสร้างแส้จามรีขึ้น แต่ก็ไม่อาจเลิกพัดใบตาลของเก่า เป็นอันรวมไว้ทั้ง ๒ อย่างในเครื่องที่เรียกว่า วาลวีชนี).”
…………..
หนังสือ “ประมวลองค์ความรู้พระราชพิธีบรมราชาภิเษก” กระทรวงวัฒนธรรมจัดพิมพ์เนื่องในมหามงคลการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 หน้า 110 อธิบายคำว่า “เครื่องราชกกุธภัณฑ์” มีข้อความดังนี้
…………..
เครื่องราชกกุธภัณฑ์ (ราด-ชะ-กะ-กุด-ทะ-พัน)
เครื่องราชกกุธภัณฑ์ คือ เครื่องหมายแห่งความเป็นพระราชาธิบดี จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่ต้องทูลเกล้าฯ ถวายในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นประเพณีสืบเนื่องมาจากลัทธิพราหมณ์ โดยพระมหาราชครูพราหมณ์เป็นผู้ถวาย ประกอบด้วย พระมหาเศวตฉัตร พระมหาพิชัยมงกุฎ พระแสงขรรค์ชัยศรี ธารพระกร วาลวิชนี และฉลองพระบาทเชิงงอน
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ผู้มีธรรมไม่จำเป็นต้องมีอำนาจ
: แต่ผู้มีอำนาจจำเป็นต้องมีธรรม
#บาลีวันละคำ (2,509)
26-4-62