ทมยันตี (บาลีวันละคำ 2,615)
ทมยันตี
อ่านอย่างไร แปลอย่างไร
คำว่า “ทมยันตี” ในภาษาไทย เป็นที่รู้กันว่าเป็นชื่อนางเอกในวรรณคดีเรื่องพระนล
มีคำถามว่า “ทมยันตี” อ่านอย่างไร?
“พระนลคำหลวง” (พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6) สรรคที่ 12 มีความตอนหนึ่งว่า –
…………..
๏ อโศกโยกกิ่งไกว….จงตอบไปดังใจหมาย
ได้เห็นพระฦๅสาย……ผ่านมาบ้างฤๅอย่างไร
๏ พระนั้นชื่อพระนล….ผู้เรืองรณอริกษัย
เปนผัวนางทรามไวย…นามนิยมทมยันตี
…………..
วรรคสุดท้ายที่ว่า “นามนิยมทมยันตี” บอกให้รู้ว่า ชื่อนี้อ่านว่า ทม-มะ-ยัน-ตี ทั้งนี้เพราะคำว่า “นามนิยม” บังคับรับสัมผัส คือ “นิยม” กับ “ทม-” ต้องรับสัมผัสกัน หรือ “นิยม” บังคับให้คำต่อไปต้องอ่านว่า ทม-
เคยได้ยินบางคนอ่านว่า ทม-ยัน-ตี คือไม่มีคำว่า -มะ- ระหว่าง ทม- กับ -ยัน ซึ่งน่าจะไม่ถูกต้อง
ที่ถูกจะต้องมีคำว่า -มะ- ระหว่าง ทม- กับ -ยัน ดังหลักฐานใน “พระนลคำฉันท์” (พระนิพนธ์ของพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ หรือ น.ม.ส.) ในคำอธิบายศัพท์ หน้า 4 มีบอกไว้ว่า –
…………..
๑๖ ทัมะยันตี (ทมยน์ตี) แปลว่า นางผู้ทรมานชาย เปนชื่อนางเอกในเรื่องนี้
…………..
เป็นอันยืนยันว่าชื่อนี้ต้องมี -มะ- ระหว่าง ทม- กับ -ยัน
แต่อย่างไรก็ตาม คำอธิบายศัพท์ที่ยกมานี้ก็บอกคำอ่านพยางค์แรกว่า ทัม- ไม่ใช่ ทม
สรุปแบบประนีประนอมว่า “ทมยันตี” อ่านว่า ทม-มะ-ยัน-ตี ก็ได้ ทัม-มะ-ยัน-ตี ก็ได้
“ทมยันตี” แปลอย่างไร?
“พระนลคำหลวง” บอกไว้ในอภิธานว่า –
…………..
ทมยันตี, ส. = “ข่มชาย” (คือให้ชายยำเกรงเพื่อเคารพในธรรมะแห่งนาง) เปนนามแห่งธิดาท้าวภีมราช ผู้ได้เปนมเหษีพระนล ฯ
…………..
“พระนลคำฉันท์” แปลไว้ว่า “นางผู้ทรมานชาย”
…………..
เป็นอันได้ความหมายตรงกันคือ “ทมยันตี” แปลว่า “ข่มชาย” หรือ “ทรมานชาย”
ในคัมภีร์บาลี (ซึ่งนักวิชาการบางสายนิยมเรียกว่า “วรรณคดีบาลี”) คือคัมภีร์ธรรมบท มีพุทธภาษิตบทหนึ่งว่า –
อุทกญฺหิ นยนฺติ เนตฺติกา
อุสุการา นมยนฺติ เตชนํ
ทารุํ นมยนฺติ ตจฺฉกา
อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา.
(อุทะกัญหิ นะยันติ เนตติกา
อุสุการา นะมะยันติ เตชะนัง
ทารุง นะมะยันติ ตัจฉะกา
อัตตานัง ทะมะยันติ ปัณฑิตา)
ที่มา: บัณฑิตวรรค ธรรมบท พระไตรปิฎกเล่ม 25 ข้อ 16
แปลว่า –
ชาวนาไขนํ้าเข้านา
ช่างศรดัดลูกศร
ช่างไม้ถากไม้
บัณฑิตฝึกตนเอง
Irrigators lead water;
Fletchers fashion shafts;
Carpenters bend wood;
The wise tame themselves.
(สำนวนแปลไทย-อังกฤษ ของ เสฐียรพงษ์ วรรณปก)
…………..
คำว่า “ทมยนฺติ” ในวรรคสุดท้าย รูปคำเหมือน “ทมยันตี” ความหมายก็เหมือนกัน
“ทมยนฺติ” อ่านว่า ทะ-มะ-ยัน-ติ เป็นคำกิริยาอาขยาต รากศัพท์มาจาก ทมุ (ธาตุ = ฝึก, อบรม, ข่ม, ทรมาน) + ณฺย ปัจจัยในกัตตุวาจก, ลบสระที่สุดธาตุ (ทมุ > ทม) และลบ ณฺ (ณฺย > ย) + อนฺติ วิภัตติ (พหูพจน์)
: ทมุ + ณฺย = ทมุณฺย > ทมณฺย > ทมย + อนฺติ = ทมยนฺติ แปลว่า “ย่อมฝึก” “ย่อมข่ม” “ย่อมทรมาน”
ชื่อ “ทมยันตี” จะอธิบายให้เป็นคำบาลีก็ได้ นั่นคือ ทมุ (ธาตุ = ฝึก, อบรม, ข่ม, ทรมาน) + ณฺย ปัจจัย, ลบสระที่สุดธาตุ (ทมุ > ทม) และลบ ณฺ (ณฺย > ย) + อนฺต ปัจจัยในกิริยากิตก์ + อี ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์
: ทมุ + ณฺย = ทมุณฺย > ทมณฺย > ทมย + อนฺต = ทมยนฺต + อี = ทมยนฺตี (ทะ-มะ-ยัน-ตี) แปลตามศัพท์ว่า “ทรมานอยู่” (“อยู่” เป็นคำแสดงปัจจุบันกาล หมายถึงกำลังฝึกหรือกำลังทรมานสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ และการฝึกหรือการทรมานนั้นยังไม่เสร็จสิ้น) มีความหมายตรงตามชื่อ “ทมยันตี” ที่แปลว่า “ข่มชาย” หรือ “ทรมานชาย”
แสดงที่มาของคำว่า “ทมยันตี” เป็นแนวคิดเท่านั้น ไม่ได้ยืนยันมั่นเหมาะว่าคำนี้จะต้องมาจากคำนั้น จะเรียกว่า “ลากเข้าวัด” หรือ “จับบวช” ตามที่เรียกล้อเล่นกันก็ได้ พอเป็นเครื่องบันเทิงทางภาษา
ท่านผู้ใดอ่านแล้วเกิดมีอุตสาหะที่จะเรียนบาลี ก็ถือว่าเป็นมหากุศลผลพลอยได้ที่ดีงาม
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ทรมานคนอื่นจะประเสริฐอะไร
: ถ้าไม่รู้จักทรมานใจของตัวเอง
—————
(สนองศรัทธากับท่าน กวิน พ. ที่ส่งคำมาให้ช่วยกันสงสัย)
#บาลีวันละคำ (2,615)
10-8-62