โตมร (บาลีวันละคำ 2,637)
โตมร
แปลกันว่า หอก
อ่านว่า โต-มอน
“โตมร” บาลีอ่านว่า โต-มะ-ระ รากศัพท์มาจาก ตุทฺ (ธาตุ = แทง) + อร ปัจจัย, แผลง อุ ที่ ตุ-(ทฺ) เป็น โอ (ตุทฺ > โตทฺ), แปลง ท เป็น ม
: ตุทฺ + อร = ตุทร > โตทร > โตมร (ปุงลิงค์; นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งเป็นเครื่องทิ่มแทง” หมายถึง หอกซัด, ปฏัก
ในคัมภีร์บาลีปรากฏว่า เมื่อกล่าวถึงควาญช้างฝึกช้าง หรือกองทหารที่เป็นเหล่าช้างขึ้นประจำคอช้าง จะระบุว่า ถือ “โตมร” ด้วยเสมอ ทำให้เข้าใจว่าความหมายหนึ่งของ “โตมร” คือขอสับช้าง
คัมภีร์สุมังคลวิลาสินี ภาค 2 หน้า 515 ขยายความในสักกปัญหสูตร บอกลักษณะของอุปกรณ์ที่ใช้กับช้าง 3 อย่าง คือ “ตุตตะ” “โตมร” และ “อังกุส” ไว้ดังนี้ –
(1) ตุตฺตํ วุจฺจติ กณฺณมูเล วิชฺฌนอยกณฺฏโก.
เหล็กแหลมที่ใช้แทงกกหูเรียกว่า “ตุตตะ” (ปฏัก) (a pike for guiding elephants, a goad for driving cattle)
(2) โตมรนฺติ ปาทาทีสุ วิชฺฌนทณฺฑโตมรํ.
หอกมีด้ามใช้แทงเท้าเป็นต้น เรียกว่า “โตมร” (หอก) (a pike, spear, lance, esp. the lance of an elephant-driver)
(3) องฺกุโสติ มตฺถเก วิชฺฌนกกุฏิลกณฺฏโก.
เหล็กแหลมงอใช้สับตะพองช้าง เรียกว่า “อังกุส” (ขอ) (to drive an elephant, a goad)
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “โตมร” ว่า a pike, spear, lance, esp. the lance of an elephant-driver (โตมร, หอก, หลาว, โดยเฉพาะคือตาขอสับของควาญช้าง)
บาลี “โตมร” สันสกฤตก็เป็น “โตมร”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –
“โตมร : (คำนาม) ‘โตมร’ คทาเหล็ก; ทวน, หอก, แหลน, ‘แหลนหลาว’ ก็เรียก; an iron club; a spear, a lance.”
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 บอกไว้ว่า –
“โตมร, โตมร– : (คำนาม) อาวุธสําหรับซัด, หอกซัด, สามง่ามที่มีปลอกรูปเป็นใบโพสวมอยู่. (ป., ส.).”
ต่อมา พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ปรับแก้คำนิยามใหม่เป็น –
“โตมร, โตมร– : (คำนาม) อาวุธสำหรับซัด, หอกซัด. (ป., ส.).”
คือตัดข้อความว่า “สามง่ามที่มีปลอกรูปเป็นใบโพสวมอยู่” ออกไป
ราชบัณฑิตยฯ คงพิจารณาเห็นว่า “สามง่ามที่มีปลอกรูปเป็นใบโพสวมอยู่” นั้น ไม่ใช่ “โตมร” กระมัง
แถม :
ในคัมภีร์บาลีมีสำนวนบรรยายถึงการทะเลาะเบาะแว้งขัดแย้งกันโดยใช้อารมณ์ ไม่นิยมเหตุผลว่า –
“อญฺญมญฺญํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา”
(อัญญะมัญญัง มุขะสัตตีหิ วิตุทันตา)
แปลว่า “ทิ่มแทงกันด้วยหอกคือปาก”
“หอก” ในสำนวนนี้ท่านใช้คำว่า “สตฺติ” (สัด-ติ) ไม่ใช่ “โตมร”
“มุขสตฺติ” (มุ-ขะ-สัด-ติ) แปลว่า “หอกคือปาก” หมายถึงคำพูดที่ทิ่มแทงกันให้เจ็บใจ
สุนทรภู่ใน “เพลงยาวถวายโอวาท” บอกไว้ว่า –
อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก
แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย
แม้นเจ็บอื่นหมื่นแสนจะแคลนคลาย
เจ็บจนตายนั้นเพราะเหน็บให้เจ็บใจ
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ถูกหอกเหล็กหลาวแหลนสักแสนเล่ม
: ไม่เจ็บเข้มเหมือนหนึ่งคำที่ตำใจ
———–
ภาพประกอบ: จาก google
#บาลีวันละคำ (2,637)
1-9-62