ใบไม้ในมือ กับ ใบไม้ในป่า (บาลีวันละคำ 2,639)
ใบไม้ในมือ กับ ใบไม้ในป่า
สำนวนบาลีที่น่าจดจำ
ในพระไตรปิฎกมีพระสูตรหนึ่ง ไม่ปรากฏชื่อ ในที่นี้ขอเรียกว่า “สีสปาปัณณสูตร” แปลว่า “พระสูตรว่าด้วยใบประดู่ลาย” มีข้อความที่ควรศึกษา ดังนี้ –
…………..
(1) เอกํ สมยํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ สีสปาวเน.
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ สีสปาวัน (ป่าประดู่ลาย) กรุงโกสัมพี
(2) อถ โข ภควา ปริตฺตานิ สีสปาปณฺณานิ ปาณินา คเหตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ
ครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคทรงถือใบประดู่ลาย 2-3 ใบด้วยฝ่าพระหัตถ์ แล้วตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้วตรัสว่า
(3) ตํ กึ มญฺญถ ภิกฺขเว
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
(4) กตมํ นุ โข พหุตรํ ยานิ วา มยา ปริตฺตานิ สีสปาปณฺณานิ ปาณินา คหิตานิ ยทิทํ อุปริ สีสปาวเนติ.
ใบประดู่ลาย 2-3 ใบที่เราถือด้วยผ่ามือ กับใบที่บนต้น ไหนจะมากกว่ากัน
(5) อปฺปมตฺตกานิ ภนฺเต ภควตา ปริตฺตานิ สีสปาปณฺณานิ ปาณินา คหิตานิ อถ โข เอตาเนว พหุตรานิ ยทิทํ อุปริ สีสปาวเนติ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ใบประดู่ลาย 2-3 ใบที่พระผู้มีพระภาคทรงถือด้วยฝ่าพระหัตถ์มีประมาณน้อย ที่บนต้นมากกว่า พระเจ้าข้า
(6) เอวเมว โข ภิกฺขเว
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า อย่างนั้นเหมือนกันภิกษุทั้งหลาย
(7) เอตเทว พหุตรํ ยํ โว มยา อภิญฺญาย อนกฺขาตํ.
สิ่งที่เรารู้แล้วมิได้บอกเธอทั้งหลายมีมากกว่า
(8) กสฺมา เจตํ ภิกฺขเว มยา อนกฺขาตํ.
ก็เพราะเหตุไรเราจึงไม่บอก?
(9) น เหตํ ภิกฺขเว อตฺถสญฺหิตํ
เพราะสิ่งนั้นไม่ประกอบด้วยประโยชน์
(10) นาทิพฺรหฺมจริยกํ
มิใช่เบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์
(11) น นิพฺพิทาย
มิใช่เพื่อความหน่าย
(12) น วิราคาย
มิใช่เพื่อความคลายกำหนัด
(13) น นิโรธาย
มิใช่เพื่อความดับ
(14) น อุปสมาย
มิใช่เพื่อความสงบ
(15) น อภิญฺญาย
มิใช่เพื่อความรู้ยิ่ง
(16) น สมฺโพธาย
มิใช่เพื่อความตรัสรู้
(17) น นิพฺพานาย สํวตฺตติ.
มิได้เป็นไปเพื่อนิพพาน
(18) ตสฺมาตํ มยา อนกฺขาตํ.
เพราะเหตุนั้นเราจึงไม่บอก
ที่มา: สีสปาปัณณสูตร สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค
พระไตรปิฎกเล่ม 19 ข้อ 1712
…………..
อภิปราย :
ครั้งหนึ่ง เคยมีผู้บรรยายธรรมสำนักหนึ่งนำเรื่องราวต่างๆ มาบรรยายแล้วแถลงเหตุผลว่า เรื่องที่ท่านนำมาแสดงแม้ไม่มีในพระไตรปิฎก แต่ก็ควรนับว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าด้วยเช่นเดียวกัน คือเป็นคำสอนที่เรียกว่า “ใบไม้ในป่า” โดยอ้างพระสูตรนี้เป็นหลักฐานว่า ธรรมะที่พระพุทธองค์นำมาตรัสสอนมีเพียงเล็กน้อยเหมือน “ใบไม้ในมือ” แต่ธรรมะที่ท่านนำมาแสดงเหมือน “ใบไม้ในป่า” ซึ่งยังมีอยู่อีกเป็นอเนกอนันต์
ถ้าหยุดอยู่เพียงแค่นี้ ก็นับว่าแสดงเหตุผลได้น่าฟังอยู่
แต่ถ้าศึกษาต่อไปอีกสักหน่อยเดียวก็จะพบคำตอบว่า ทำไม “ใบไม้ในป่า” พระพุทธองค์จึงไม่ทรงนำมาแสดง
ทรงแถลงเหตุผลในข้อความถัดมานั่นเองว่า เพราะเรื่องพวกนั้นไม่เป็นประโยชน์-ไปจนถึงสุดท้าย-มิได้เป็นไปเพื่อพระนิพพานอันเป็นเป้าหมายของพระพุทธศาสนา
สรุปว่า ทรงปฏิเสธไว้ชัดเจนว่า “ใบไม้ในป่า” ไม่ใช่เรื่องที่เป็นประโยชน์ จึงไม่ทรงแสดง
เพียง “ใบไม้ในมือ” ที่ทรงแสดงไว้ก็มากพอแล้วที่จะศึกษาและปฏิบัติเพื่อทำที่สุดแห่งทุกข์ได้โดยสมบูรณ์
ทำไมจึงจะต้องเอา “ใบไม้ในป่า” มาแสดงกันอีกเล่า
สำนวน “ใบไม้ในมือ” กับ “ใบไม้ในป่า” จึงเป็นเรื่องที่น่าศึกษา ด้วยประการฉะนี้
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ศึกษาที่ทรงสอน
แม้ม้วยมรณ์ไม่หมดมือ
: แก่นแท้ไม่ยึดถือ
สะเก็ดเปลือกเลือกหรือไร?
#บาลีวันละคำ (2,639)
3-9-62