บาลีวันละคำ

บุษบก (บาลีวันละคำ 2,653)

บุษบก

มาจากภาษาอะไร

อ่านว่า บุด-สะ-บก

บุษบก” เป็นรูปคำสันสกฤต ถ้าเทียบเป็นบาลีก็ตรงกับคำว่า “ปุปฺผก” รากศัพท์มาจาก ปุปฺผ +

(๑) “ปุปฺผ” (ปุบ-ผะ) รากศัพท์มาจาก ปุปฺผฺ (ธาตุ = แย้ม, บาน) + ปัจจัย

: ปุปฺผ + = ปุปฺผ (นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า (1) “สิ่งที่แย้มบาน” (2) “สิ่งที่เบ่งบานเหมือนดอกไม้

ปุปฺผ” ที่แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่แย้มบาน” หมายถึง ดอกไม้ (a flower) เป็นความหมายทั่วไป

ปุปฺผ” ที่แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่เบ่งบานเหมือนดอกไม้” หมายถึง เลือด (blood) เป็นความหมายเฉพาะในบางแห่ง โดยเฉพาะเมื่อกล่าวถึงระดูของสตรี (the menses)

(๒) ปุปฺผ + (กะ)

” อ่านว่า กะ (ไม่ใช่ กอ) คำเต็มเรียกกันว่า “ สกรรถ” (อ่านว่า กะ สะ-กัด) หมายถึงลง ปัจจัย แต่คงมีความหมายเท่าเดิม แต่บางคำอาจเสริมความหมายขึ้นอีกเล็กน้อยว่า “มี-” หรือ “เกี่ยวกับ-”

ในที่นี้ ปุปฺผ + = ปุปฺผก (ปุบ-ผะ-กะ) แปลว่า “ดอกไม้” (เท่าคำเดิม) บางทีมีความหมายเสริมขึ้นว่า “มีดอกไม้” หรือ “เกี่ยวกับดอกไม้

ความหมาย :

(ก) “ปุปฺผก” บางแห่งแปลว่า “ผู้มีดอกไม้” หมายถึงสตรีที่อยู่ในช่วงเวลามีระดู

(ข) ในอรรถกถาชาดก (สัตติคุมพชาดก วีสตินิบาต ชาตกัฏฐกถา ภาค 7 หน้า 78-88) เล่าเรื่องลูกนกแขกเต้าพี่น้อง 2 ตัว ตัวหนึ่งลมพัดไปตกที่กองหอกของพวกโจร ได้ชื่อว่า “สัตติคุมพะ” แปลว่า “กองหอก” ตัวหนึ่งลมพัดไปตกที่กองดอกไม้ของพวกฤๅษี ได้ชื่อว่า “ปุปผกะ” แปลว่า “กองดอกไม้

ปุปผกะ” เขียนแบบบาลีเป็น “ปุปฺผก” ตรงกับรูปคำสันสกฤว่า “ปุษฺปก

ถ้า “บุษบก” มาจากคำสันสกฤตว่า “ปุษฺปก” และตรงกับบาลีว่า “ปุปฺผก” “บุษบก” ก็ควรจะมีความหมายเกี่ยวกับ “กองดอกไม้” มากกว่าที่จะเกี่ยวกับ “สตรีมีระดู

อย่างไรก็ตาม สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกความหมายของ “ปุษฺปก” ไว้ดังนี้ –

(สะกดตามต้นฉบับ)

ปุษฺปก : (คำนาม) กากหรือตะกอนทองเหลือง, ‘ขี้ทองเหลือง’ ก็ใช้ตามมติไท; ยานของท้าวกุเวร; โรคตา; กำไลเพ็ชร์; ภาชนะเหล็ก, โลหภาชน์; เชิงกรานหรือเตาไฟอันย่อมๆ; กาสีส์, เกลือเหล็ก (อันกัดด้วยกรดกำมถัน); calx of bless; the chariot of Kuvera; a disease of the eyes; a bracelet of diamonds; an iron-cup; a small earthen fireplace; green vitriol or sulphate of iron.”

มีความหมายเดียวที่เข้าเค้าที่สุด คือ “ยานของท้าวกุเวร” (the chariot of Kuvera)

ยาน” ในความหมายเช่นนี้ย่อมหมายถึงรถทรงของเทพ มีลักษณะเป็นปราสาทอยู่ในตัว เช่นเวชยันตราชรถของพระอินทร์ก็มีลักษณะเป็นปราสาทหรือมณฑป อันเป็นแบบของรถโบราณ (the chariot) ตรงกับลักษณะของ “บุษบก” ที่เข้าใจกันในภาษาไทย

บุษบก” ในภาษาไทย ถ้าจะว่ามาจากสันสกฤตก็คงอ้างได้ด้วยความหมายนี้

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 บอกไว้ว่า –

บุษบก : (คำนาม) มณฑปขนาดเล็กแต่ด้านข้างโปร่ง เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ในพระราชพิธี หรือประดิษฐานปูชนียวัตถุเช่นพระพุทธรูปเป็นต้น.”

ต่อมา พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ปรับแก้บทนิยามใหม่ เป็นดังนี้ –

บุษบก : (คำนาม) เรือนยอดแบบหนึ่งมีขนาดต่าง ๆ กัน เป็นอย่างเรือนโกง เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ในพระราชพิธี หรือประดิษฐานปูชนียวัตถุเช่นพระพุทธรูปเป็นต้น.”

…………..

หมายเหตุแถม :

คำนิยามของพจนานุกรมฯ ตรงที่ว่า “เป็นอย่างเรือนโกง” คำว่า “เรือนโกง” (โกง – ก ไก่) ไม่ทราบว่าเรือนแบบไหนหรือหมายถึงอะไร

ตรวจดูทั้งในฉบับเล่มกระดาษและฉบับอิเล็กทรอนิกส์ ก็สะกดเป็น “เรือนโกง” (โกง – ก ไก่) ตรงกัน

คำว่า “โกง” (โกง – ก ไก่) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

โกง : (คำกริยา) ใช้อุบายหรือเล่ห์เหลี่ยมหลอกลวง เช่น โกงเงิน, แสดงอาการดื้อไม่ยอมทําตาม เช่น เด็กโกง ม้าโกง. (คำวิเศษณ์) โค้ง, ไม่ตรง, เช่น หลังโกง.

ผู้เขียนบาลีวันละคำเข้าใจว่า คำนี้น่าจะเป็น “เรือนโถง” (โถง – ถ ถุง)

คำว่า “โถง” (โถง – ถ ถุง) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

โถง : (คำนาม) อาคารที่เปิดโล่ง ๓ หรือ ๔ ด้าน, พื้นที่ใช้สอยบางส่วนของอาคาร มีลักษณะโล่ง เช่น โถงทางเข้า ห้องโถง. (คำวิเศษณ์) ที่เปิดโล่ง มีฝาเพียงด้านเดียวหรือไม่มีฝา เช่น ศาลาโถง วิหารโถง ปราสาทโถง.”

การควรจะเป็นประการใด ขอฝากเพื่อนไทยที่รักเมืองไทย รักภาษาไทย และรักความจำเริญทางภาษาอันเป็นวัฒนธรรมของชาติ โปรดช่วยกันพิจารณาโดยโยนิโสมนสิการด้วย เทอญ

…………..

ดูก่อนภราดา!

: บุษบกเปรียบเหมือนเป็นเรือนร่าง

: บุญที่สร้างเหมือนพระพุทธพิสุทธิ์ศรี

: เกิดเป็นคนแม้นไม่ทำซึ่งกรรมดี

: ก็เหมือนมีแต่บุษบกที่รกร้าง

#บาลีวันละคำ (2,653)

17-9-62

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย