คติพจน์ (บาลีวันละคำ 2,671)
คติพจน์
ฤๅจะหมดยุคสมัย
อ่านว่า คะ-ติ-พด
ประกอบด้วยคำว่า คติ + พจน์
(๑) “คติ”
เป็นคำบาลีตรงตัว อ่านว่า คะ-ติ รากศัพท์มาจาก คมฺ (ธาตุ = ไป, ถึง) + ติ ปัจจัย, ลบ มฺ ที่สุดธาตุ (คติ > ค)
: คมฺ + ติ = คมติ > คติ แปลตามศัพท์ว่า “การไป” “ภูมิอันเหล่าสัตว์ต้องไป ด้วยการเข้าถึงตามกรรมดีกรรมชั่ว” “ที่เป็นที่ไป” หมายถึง ที่ไป, ที่อยู่, ที่เกิดใหม่, ภพภูมิที่จะต้องไปเกิด
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “คติ” ในเชิงขยายความไว้น่าสนใจ ขอยกมาเสนอดังนี้ –
(1) going, going away, (opp. āgati coming); direction, course, career (การไป, การจากไป, (ตรงข้าม “อาคติ” การมา); ทิศทาง, แนว, วิถีชีวิต)
(2) going away, passing on; course, esp after death, destiny, as regards another (future) existence (การจากไป, การผ่านไป; ทางไป, โดยเฉพาะหลังจากตายไป, ชะตากรรม, ที่เกี่ยวกับภพ (อนาคต) อื่น)
(3) behaviour, state or condition of life, sphere of existence, element, especially characterized as sugati & duggati, a happy or an unhappy existence (ความประพฤติ, ภาวะหรือฐานะของความเป็นอยู่, ขอบเขตของภพ, ความเป็นอยู่, ธาตุ, โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรยายลักษณะเป็น “สุคติ” และ “ทุคฺคติ”, ความเป็นอยู่อันสุขสบายหรือเป็นทุกข์)
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต บอกความหมายของ “คติ” ไว้ดังนี้ –
(1) การไป, ทางไป, ความเป็นไป, ทางดำเนิน, วิธี, แนวทาง, แบบอย่าง
(2) ที่ไปเกิดของสัตว์, ภพที่สัตว์ไปเกิด, แบบการดำเนินชีวิต มี 5 คือ :
๑. นิรยะ = นรก
๒. ติรัจฉานโยนิ = กำเนิดดิรัจฉาน
๓. เปตติวิสัย = แดนเปรต
๔. มนุษย์ = สัตว์มีใจสูงรู้คิดเหตุผล
๕. เทพ = ชาวสวรรค์ ตั้งแต่ชั้นจาตุมหาราชิกา ถึง อกนิษฐพรหม
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บคำว่า “คติ” ไว้ 2 คำ บอกไว้ดังนี้ –
(1) คติ ๑ : (คำนาม) การไป; ความเป็นไป. (ป.).
(2) คติ ๒ : (คำนาม) แบบอย่าง, วิธี, แนวทาง. (ป.).
(๒) “พจน์”
บาลีเป็น “วจน” (วะ-จะ-นะ) รากศัพท์มาจาก วจ (ธาตุ = พูด) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ)
: วจฺ + ยุ > อน = วจน แปลตามศัพท์ว่า “คำอันเขาพูด” “คำเป็นเครื่องพูด”
“วจน” ในบาลีหมายถึง –
(1) คำพูด, การเปล่งเสียง, ถ้อยคำ, การร้องเรียก (speaking, utterance, word, bidding)
(2) วิธีแสดงออกซึ่งคำพูด, พจน์, การแสดงออก (way of speech, term, expression)
บาลี “วจน” ภาษาไทยแผลง ว เป็น พ ตามหลักนิยม จึงเป็น “พจน”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บไว้เป็น “พจน-” (กรณีมีคำอื่นมาสมาสข้างท้าย) อ่านว่า พด-จะ-นะ- และ “พจน์” (การันต์ที่ น) อ่านว่า พด บอกไว้ว่า –
“พจน-, พจน์ ๑ : (คำนาม) คําพูด, ถ้อยคํา. (ป. วจน).”
คติ + พจน์ = คติพจน์ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“คติพจน์ : (คำนาม) ถ้อยคําที่เป็นแบบอย่าง.”
“คติพจน์” เป็นศัพท์บัญญัติ เทียบคำอังกฤษว่า motto
พจนานุกรม สอ เสถบุตร แปล motto ว่า ภาษิต, ถ้อยคำที่คัดมาจากหนังสือ, หลักในใจ
พจนานุกรมอังกฤษ-บาลี แปล motto เป็นบาลีดังนี้:
(1) upadesavākya อุปเทสวากฺย (อุ-ปะ-เท-สะ-วาก-ยะ [วาก-ยะ ออกเสียง วาก-เกี๊ยะ]) = ข้อความอันเป็นคำแนะนำ
(2) ādisiyapāṭha อาทิสิยปาฐ (อา-ทิ-สิ-ยะ-ปา-ถะ) = ถ้อยคำที่ควรจารึกไว้
อภิปราย :
คนไทยในสมัยหนึ่ง เมื่อเติบโตเป็นหนุ่มสาวอันถือกันว่าเป็นวัยที่จะต้องคิดคำนึงถึงอนาคตและมุ่งมั่นไปข้างหน้าเพื่อสร้างตัว มักนิยมยึดถือถ้อยคำหรือข้อความบางอย่างที่ตนพึงพอใจว่าเป็นเครื่องเตือนใจหรือเป็นแรงบันดาลใจให้ดำเนินไปสู่เป้าหมาย เรียกถ้อยคำชนิดนั้นว่า “คติพจน์”
มักรู้สึกกันว่า เป็นความภาคภูมิใจลึกๆ ที่ตนมี “คติพจน์” ประจำใจหรือประจำชีวิต และพยายามดำเนินชีวิตให้เป็นไปตาม “คติพจน์” ที่ตนยึดถือ
ไม่แน่ใจว่าคนไทยยุคใหม่ยังมีค่านิยมแบบนี้กันอยู่หรือเปล่า หรือมองว่าเป็นสิ่งไร้สาระไปเสียแล้ว?
…………..
ดูก่อนภราดา!
“คติพจน์” ของผู้เขียนบาลีวันละคำ –
: เป็นอะไร
: ไม่สำคัญเท่ากับทำอะไร
เพราะ –
: สิ่งที่คุณเป็น อยู่ได้นานที่สุดก็แค่ตาย
: แต่สิ่งที่คุณทำ อยู่ได้เลยตาย
#บาลีวันละคำ (2,671)
5-10-62