อาเทสนาปาฏิหาริย์ (บาลีวันละคำ 2,756)
อาเทสนาปาฏิหาริย์
ทายใจได้
แต่บางเรื่องทายไม่ได้
อ่านว่า อา-เท-สะ-นา-ปา-ติ-หาน
ประกอบด้วยคำว่า อาเทสนา + ปาฏิหาริย์
(๑) “อาเทสนา”
อ่านว่า อา-เท-สะ-นา ประกอบด้วยคำว่า อา + เทสนา
(ก) “อา” เป็นคำอุปสรรค ใช้นำหน้าคำนามหรือกริยา นักเรียนบาลีจำติดปากว่า “อา = ทั่ว, ยิ่ง, กลับความ” คือทำให้นามหรือกริยาคำนั้นมีความหมายเพิ่มขึ้นว่า –ทั่ว –ยิ่ง หรือ กลับความ เช่น –
คมน = ไป
อาคมน = มา คือกลับความจาก “ไป” เป็น “มา”
(ข) “เทสนา”
อ่านว่า เท-สะ-นา รากศัพท์มาจาก ทิสฺ (ธาตุ = แสดง, ชี้แจง) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ), แผลง อิ ที่ ทิ-(สฺ) เป็น เอ (ทิสฺ > เทส) + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์
: ทิสฺ + ยุ > อน = ทิสน > เทสน + อา = เทสนา แปลตามศัพท์ว่า “วาจาเป็นเครื่องแสดงเนื้อความ”
“เทสนา” ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) การเทศน์, การสั่งสอน, บทเรียน (discourse, instruction, lesson)
(2) ควบกับ ธมฺม+เทสนา = ธมฺมเทสนา หมายถึง การสั่งสอนธรรม, การแสดงธรรม, การเทศน์, คำเทศน์หรือสั่งสอน (moral instruction, exposition of the Dhamma, preaching, sermon)
(3) การยอมรับ (โดยชอบด้วยกฎหมาย) ([legal] acknowledgment)
อา + เทสนา = อาเทสนา แปลตามศัพท์ว่า “การแสดงทั่วถึง” “การแสดงอย่างยิ่ง” (คือแสดงหรือบอกกล่าวได้ดียิ่งกว่าปกติ) หมายถึง การชี้บอก, การคาดคะเน, การพยากรณ์ (pointing out, guessing, prophesy)
(๒) “ปาฏิหาริย์”
บาลีเป็น “ปาฏิหาริย” อ่านว่า ปา-ติ-หา-ริ-ยะ (มีรูปคำอื่นๆ อีกด้วย) รากศัพท์มาจาก
(1) ปฏิ (คำอุปสรรค = เฉพาะ, ตอบ, ทวน, กลับ) + หิ (ธาตุ = ไป, เป็นไป) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, ทีฆะ อะ ที่ ป-(ฏิ) เป็น อา (ปฏิ > ปาฏิ), แปลง หิ เป็น หาริย
: ปฏิ + หิ = ปฏิหิ + ณ = ปฏิหิณ > ปาฏิหิณ > ปาฏิหิ > ปาฏิหาริย แปลตามศัพ์ว่า “พลังที่เป็นไปในปฏิปักษ์คือฝ่ายตรงข้าม”
(2) ปฏิ (คำอุปสรรค = เฉพาะ, ตอบ, ทวน, กลับ) + หรฺ (ธาตุ = นำไป) + ณฺย ปัจจัย, ลบ ณ (ณฺย > ย), ทีฆะ อะ ที่ ป-(ฏิ) เป็น อา (ปฏิ > ปาฏิ), ทีฆะ อะ ที่ ห-(รฺ) (ภาษาไวยากรณ์ว่า “อะ ต้นธาตุ”) เป็น อา (หรฺ > หาร), ลง อิ อาคมระหว่างธาตุกับปัจจัย (หรฺ > หาร + อิ + ณฺย > ย)
: ปฏิ + หรฺ = ปฏิหรฺ + อิ + ณฺย = ปฏิหริณฺย > ปาฏิหริณฺย > ปาฏิหาริณฺย > ปาฏิหาริย แปลตามศัพ์ว่า (1) “พลังที่นำไปเสียซึ่งปฏิปักษ์” (คือสามารถกำจัดปรปักษ์ได้) (2) “พลังอันผู้เสร็จกิจแล้วในเพราะจิตตั้งมั่นและปราศจากอุปกิเลสแล้วนำให้เป็นไปเฉพาะ” (คือเมื่อจิตตั้งมั่นถึงระดับแล้วพลังชนิดนี้จะเกิดขึ้นและแสดงออกมาได้ตามที่ต้องการ)
โปรดสังเกตว่า “ปาฏิหาริย” มักใช้ต่อเมื่อมี “ปฏิปักษ์” คือฝ่ายตรงข้าม หรือมีอีกฝ่ายหนึ่งเกิดขึ้นเท่านั้น
“ปาฏิหาริย” ใช้เป็นคำนาม (นปุงสกลิงค์) หมายถึง สิ่งอัศจรรย์, เรื่องเหลือเชื่อเหนือความคาดหมาย (wonder, miracle) ใช้เป็นคุณศัพท์หมายถึง ประหลาด, อัศจรรย์, วิสามัญ, พิเศษ (striking, surprising, extraordinary, special)
“ปาฏิหาริย” ในภาษาไทยใช้เป็น “ปาฏิหาริย์” (ปา-ติหาน) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ปาฏิหาริย์ : (คำนาม) สิ่งที่น่าอัศจรรย์, ความอัศจรรย์, มี ๓ อย่าง คือ ๑. อิทธิปาฏิหาริย์ = ฤทธิ์เป็นอัศจรรย์ หมายถึง การแสดงฤทธิ์ที่พ้นวิสัยของสามัญมนุษย์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ๒. อาเทสนาปาฏิหาริย์ = การดักใจเป็นอัศจรรย์ หมายถึง การดักใจทายใจคนได้อย่างน่าอัศจรรย์ ๓. อนุสาสนีปาฏิหาริย์ = การสอนเป็นอัศจรรย์ หมายถึง คำสั่งสอนอันอาจจูงใจคนให้นิยมเชื่อถือไปตามได้อย่างน่าอัศจรรย์. (ปาก) ก. กระทำสิ่งที่ตามปรกติทำไม่ได้ เช่น ปาฏิหาริย์ขึ้นไปอยู่บนหลังคา. (ป.; ส. ปฺราติหารฺย).”
อาเทสนา + ปาฏิหาริย = อาเทสนาปาฏิหาริย (อา-เท-สะ-นา-ปา-ติ-หา-ริ-ยะ)
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “อาเทสนาปาฏิหาริย” ว่า trick or marvellous ability of mind-reading or guessing other peoples character (ปาฏิหาริย์หรือความสามารถอย่างอัศจรรย์ในการอ่านจิตใจหรือทายนิสัยคน)
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ไทย-อังกฤษ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต แปล “อาเทสนาปาฏิหาริย” เป็นอังกฤษว่า marvel of mind-reading
“อาเทสนาปาฏิหาริย” ใช้ในภาษาไทยเป็น “อาเทสนาปาฏิหาริย์” (อา-เท-สะ-นา-ปา-ติ-หาน)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“อาเทสนาปาฏิหาริย์ : (คำนาม) การดักใจเป็นอัศจรรย์ หมายถึง การดักใจทายใจคนได้อย่างน่าอัศจรรย์, เป็นปาฏิหาริย์อย่าง ๑ ในปาฏิหาริย์ ๓ ได้แก่ อิทธิปาฏิหาริย์ อาเทสนาปาฏิหาริย์ และอนุสาสนีปาฏิหาริย์.”
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต บอกไว้ว่า –
“อาเทสนาปาฏิหาริย์ : ปาฏิหาริย์ คือ การทายใจ, รอบรู้กระบวนของจิตต์อ่านความคิดและอุปนิสัยของผู้อื่นได้เป็นอัศจรรย์ (ข้อ ๒ ในปาฏิหาริย์ ๓).”
ธรรมบรรณาการ :
ผู้อบรมจิตบำเพ็ญเพียรถึงขนาดอาจบรรลุ “อาเทสนาปาฏิหาริย์” สามารถทายใจทายความคิดของคนทั้งหลายได้
แต่ท่านว่า ในโลกนี้มีอยู่ 5 เรื่องที่คนธรรมดาแม้จะมีปาฏิหาริย์ขนาดไหนก็ทายมิได้เลย
ท่านผูกเป็นคาถาว่าดังนี้ –
…………..
ชีวิตํ พฺยาธิ กาโล จ
เทหนิกฺเขปนํ คติ
ปญฺเจเต ชีวโลกสฺมึ
อนิมิตฺตา น นายเร.
ที่มา: คัมภีร์วิสุทธิมรรค ภาค 2 หน้า 10 อนุสติกัมมฐานนิทเทส
แปลไขความ –
ชีวิตํ – ชีวิตจะอยู่นานสักปานใดจึงจะตาย
พฺยาธิ – จะตายด้วยโรคอะไร
กาโล – จะตายเวลาไหน
เทหนิกฺเขปนํ – จะตายที่ตรงไหน
คติ – ตายแล้วจะไปเกิดเป็นอะไรที่ไหน
5 เรื่องนี้ ทายไม่ได้ รู้ไม่ได้
…………..
ดูก่อนภราดา!
: รู้ใจคนทั้งพิภพจบสากล
: แต่ไม่รู้ใจตนก็โง่ตาย
#บาลีวันละคำ (2,756)
29-12-62