พฤกษภผกาสร (บาลีวันละคำ 2,917)
พฤกษภผกาสร
ภาษาเขียนที่เพี้ยนมาจากภาษาเสียง
ผู้เขียนบาลีวันละคำได้อ่านโพสต์ของญาติมิตรท่านหนึ่ง แจ้งข่าวการถึงแก่กรรมของญาติ และยกบทประพันธ์มาปิดท้าย
ข้อความในบทประพันธ์สะกดดังนี้ –
…………..
พฤกษภผกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนเสน่ห์คง สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรี
สถิตย์ทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา.
…………..
(๑) “พฤกษภผกาสร”
โปรดสังเกตว่าในที่นี้สะกดเป็น “พฤกษ” แบบเดียวกับ “พฤกษ” หรือ “พฤกษา” ที่แปลว่า ต้นไม้ ซ้ำมีคำว่า “ผกา” ที่แปลว่า ดอกไม้ อีกด้วย จึงชวนให้เข้าใจว่าเป็นคำคู่กันที่ถูกต้อง
คำที่ถูกต้องคือ “พฤษภกาสร” ประกอบด้วย พฤษภ + กาสร
“พฤษภ” เป็นรูปคำสันสกฤต คำนี้บาลีเป็น “อุสภ” (อุ-สะ-พะ)
อุสภ รากศัพท์มาจาก อุสฺ (ธาตุ = เผา, ทำให้ร้อน) + ภ ปัจจัย แปลตามศัพท์ว่า “สัตว์ที่ทำให้ศัตรูเร่าร้อน” หมายถึง โคตัวผู้ (a bull) ซึ่งมักใช้เป็นเครื่องหมายของความเป็นเพศผู้และพละกำลัง = คนที่แข็งแรงมาก เป็นที่ครั่นคร้ามของคู่ต่อสู้
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“พฤษภ : (คำนาม) วัว; ชื่อกลุ่มดาวรูปวัวเรียกว่า ราศีพฤษภ เป็นราศีที่ ๑ ในจักรราศี. (ส.วฺฤษฺภ; ป. อุสภ).”
“พฤษภ” ถ้าอยู่คำเดียว อ่านว่า พฺรึ-สบ หรือ พฺรึด-สบ ก็ได้ (ตาม พจน.54)
แต่ในคำประพันธ์นี้มีคำว่า “กาสร” มาต่อท้ายเป็น “พฤษภกาสร” จึงต้องอ่านตามหลักฉันทลักษณ์ว่า พฺรึด-สบ-พะ-กา-สอน คือออกเสียง พะ ที่ –ภ– ด้วย (ไม่ใช่ พฺรึด-สบ-กา-สอน)
“กาสร” แปลว่า “ควาย” คำนี้เป็นภาษาสันสกฤต (ยังไม่พบในภาษาบาลี)
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า –
(สะกดตามต้นฉบับ)
“กาสร : (คำนาม) ‘กาสร’, ‘ผู้เที่ยวไปหาน้ำบ่อยๆ’, มหิษ, กระบือ, ควาย (ปราณินจำพวกนี้ชอบที่ลุ่มน้ำ); ‘who frequents water’, a buffalo (this animal being partial to marshy places).”
(๒) “โททนเสน่ห์คง”
เป็นการสะกดตามใจ คือตามที่เข้าใจเองเองโดยแท้
คำที่ถูกต้องคือ “โททนต์เสน่งคง”
“ทนต์” ไม่ใช่ “ทน”
“เสน่ง” ไม่ใช่ “เสน่ห์”
“ทนต์” บาลีเป็น “ทนฺต” อ่านว่า ทัน-ตะ แปลตามศัพท์ว่า (1) “อวัยวะเป็นเครื่องตัดอาหาร” (2) “อวัยวะเป็นเครื่องกินอาหาร” (3) “อวัยวะที่ข่ม” (คือขบกัด) หมายถึง ฟัน, งาช้าง, เขี้ยว (a tooth, a tusk, fang)
“โท” แปลว่า สอง (จำนวน 2) “โททนต์” จึงแปลว่า งาทั้งสอง หรืองาทั้งคู่
“เสน่ง” คำนี้อ่านว่า สะ-เหฺน่ง คนทั่วไปไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร เสียง สะ-เหฺน่ง ก็ไม่เคยได้ยิน แต่ “เสน่ห์” เคยได้ยิน “เสน่ง” จึงกลายเป็น “เสน่ห์” ไปตามที่คิดเอาเอง
“เสน่ง” เป็นคำเขมร พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกว่า ไว้ว่า –
“เสนง, เสน่ง [สะเหฺนง, สะเหฺน่ง] : (คำนาม) เขาสัตว์, เขนง, แสนง ก็ใช้. (ข.).”
(๓) “อินทรี” สะกดอย่างนี้หมายถึง นกอินทรี ถ้าหมายถึง ร่างกาย ต้องสะกดเป็น “อินทรีย์”
“อินทรีย์” บาลีเขียน “อินฺทฺริย” มีจุดใต้ ทฺ ด้วย ถ้าเขียนเป็นบาลีไทยหรือบาลีแบบคำอ่าน นิยมใส่เครื่องหมายบน ท เป็น ท๎ = อินท๎ริยะ
คำอ่านไม่ใช่ อิน-ทะ-ริ-ยะ หรือ อิน-ซิ-ยะ แต่เป็น อิน-ทฺริ-ยะ หรือ อิน-เทฺรียะ (-เทฺรียะ เทียบเสียงเหมือนคำว่า ตึง-เปรี๊ยะ)
ถ้าเป็น อินฺทฺริยัง = อินท๎ริยัง อ่านว่า อิน-เทฺรียง จะได้เสียงที่ถูกต้อง
“อินฺทฺริย” แปลตามศัพท์ว่า “ผู้เป็นใหญ่” หมายถึง ความแข็งแรง, อำนาจ (strength, might), ปกครอง, ครอบครอง (governing, ruling), การคุ้มครอง, หลักการบริหาร (governing, ruling or controlling principle)
อินฺทฺริย ภาษาไทยใช้ว่า “อินทรีย์” อ่านว่า อิน-ซี
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายของ “อินทรีย์” ไว้ดังนี้ –
(1) ร่างกายและจิตใจ เช่น สํารวมอินทรีย์
(2) สติปัญญา เช่น อินทรีย์แก่กล้า
(3) สิ่งมีชีวิต
ในคำประพันธ์นี้ “อินทรีย์” หมายถึง ร่างกาย
(๔) “สถิตย์” สะกดผิดจนเป็นสามัญ คำนี้สะกด “สถิต” ไม่ต้องมี ย์
“สถิต” อ่านว่า สะ-ถิด เป็นรูปคำสันสกฤต
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า –
(สะกดตามต้นฉบับ)
“สฺถิต : (คำวิเศษณ์) อันไม่เคลื่อนที่, อันอยู่หรือหยุดแล้ว; อันตั้งใจแล้ว; ตรงหรือสัตย์ซื่อ; สาธุหรือธารมิก; อันได้ตกลงแล้ว; immovable or steady; stayed or stopped; determined or resolved; upright, virtuous; agreed.”
“สถิต” บาลีเป็น “ฐิต” (ถิ-ตะ) เป็นคำกริยาและใช้เป็นคุณศัพท์ แปลว่า ยืนอยู่, ยืนตรง (standing, upright), ไม่เคลื่อนไหว, ดำรงอยู่ (immovable, being), ชั่วกาลนาน, คงทน (lasting, enduring), มั่นคง, แน่นอน, ควบคุมได้ (steadfast, firm, controlled)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายไว้ดังนี้ –
“สถิต : (คำกริยา) อยู่, ยืนอยู่, ตั้งอยู่, (ใช้เป็นคํายกย่องแก่สิ่งหรือบุคคลที่อยู่ในฐานะสูง) เช่น พระเจ้าสถิตบนสวรรค์ พระมหากษัตริย์สถิตบนพระที่นั่ง สมเด็จพระสังฆราชสถิต ณ วัดบวรนิเวศวิหาร. (ส. สฺถิต; ป. ฐิต).”
จะเห็นได้ว่า “สถิต” หรือ “ฐิต” คำเดิมไม่มี ย ดังนั้นในภาษาไทยจึงสะกดว่า “สถิต” ไม่ใช่ “สถิตย์”
…………..
“พฤษภกาสร” ที่นิยมนำไปอ้างกันนั้นมาจากกวีนิพนธ์จากเรื่อง กฤษณาสอนน้องคำฉันท์ พระนิพนธ์ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
เขียนตามอักขรวิธีในปัจจุบัน :
๏ พฤษภกาสร……..อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง……สำคัญมายในกายมี
๏ นรชาติวางวาย…..มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี…….ประดับไว้ในโลกา๚ะ๛
คำอ่าน :
พฺรึด-สบ-พะ-กา-สอน / อีก-กุน-ชอน-อัน-ปฺลด-ปฺลง
โท-ทน-สะ-เหฺน่ง-คง / สำ-คัน-หฺมาย-ใน-กาย-มี
นอ-ระ-ชาด-ติ-วาง-วาย / ม-ลาย-สิ้น-ทั้ง-อิน-ซี
สะ-ถิด-ทั่ว-แต่-ชั่ว-ดี / ปฺระ-ดับ-ไว้-ใน-โล-กา
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ทิ้งขยะไม่เป็นที่ ยังมีเจ้าหน้าที่คอยกวาดถนน
: เขียนผิดวิปริตพิกล ควรฤๅจะปล่อยไปตามบุญตามกรรม
#บาลีวันละคำ (2,917)
7-6-63