อุตตานมุข (บาลีวันละคำ 2,922)
อุตตานมุข
หนึ่งในคุณสมบัติของคนรับแขก
อ่านว่า อุด-ตา-นะ-มุก
ประกอบด้วยคำว่า อุตตาน + มุข
(๑) “อุตตาน”
เขียนแบบบาลีเป็น “อุตฺตาน” อ่านว่า อุด-ตา-นะ โปรดสังเกตว่า มีจุดใต้ ตฺ ตัวหน้า บังคับให้เป็นตัวสะกด ถ้าไม่มีจุด คือเขียนเป็น “อุตตาน” เหมือนคำไทย ต้องอ่านว่า อุ-ตะ-ตา-นะ รากศัพท์มาจาก อุ (คำอุปสรรค = ขึ้น, นอก) + ตนฺ (ธาตุ = แผ่ไป, ขยาย) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, ซ้อน ตฺ ระหว่างอุปสรรคกับธาตุ (อุ + ตฺ + ตนฺ), ทีฆะ อะ ต้นธาตุเป็น อา “ด้วยอำนาจปัจจัยเนื่องด้วย ณ” (ตนฺ > ตาน)
: อุ + ตฺ + ตนฺ = อุตฺตนฺ + ณ = อุตฺตนฺณ > อุตฺตน > อุตฺตาน แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่มีการแผ่ไปข้างบนเป็นประมาณ”
“อุตฺตาน” (คุณศัพท์) ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) เหยียดยาวราบ, ทอดหลังลง, นอนหงาย (stretched out flat, lying on one’s back, supine)
(2) ชัด, แจ่มแจ้ง, เปิดเผย, มองเห็น (clear, manifest, open, evident)
(3) ผิวเผิน, ราบ, ตื้น (superficial, flat, shallow)
(๒) “มุข”
บาลีอ่านว่า มุ-ขะ รากศัพท์มาจาก –
(1) มุขฺ (ธาตุ = เปิด, ไป, เป็นไป) + อ ปัจจัย
: มุขฺ + อ = มุข แปลตามศัพท์ว่า (1) “อวัยวะอันเขาเปิดเผย” (2) “อวัยวะเป็นเครื่องเป็นไปแห่งประโยชน์สุข”
(2) มุ (ธาตุ = ผูก) + ข ปัจจัย
: มุ + ข = มุข แปลตามศัพท์ว่า “อวัยวะเป็นเครื่องผูก”
“มุข” (นปุงสกลิงค์) หมายถึงอวัยวะ 2 อย่าง คือ ปาก (the mouth) และ หน้า (the face) จะหมายถึงอะไรต้องสังเกตที่บริบท
ในที่นี้ “มุข” หมายถึง ปาก (the mouth)
อุตฺตาน + มุข = อุตฺตานมุข (อุด-ตา-นะ-มุ-ขะ) แปลว่า “มีปาก (คือคำพูด) ที่เข้าใจได้ง่าย”
“อุตฺตานมุข” เขียนแบบไทยเป็น “อุตตานมุข” (ไม่มีจุดใต้ ต ตัวหน้า) อ่านว่า อุด-ตา-นะ-มุก
ขยายความ :
“อุตฺตานมุข” เป็นหนึ่งในคุณสมบัติของพระพุทธองค์ แสดงไว้ในโสณทัณฑสูตรและกูฏทันตสูตร ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค พระไตรปิฎกเล่ม 9 ข้อ 182 และข้อ 203 ดังนี้ –
…………..
(1) เอหิสาคตวาที = กล่าวเชื้อเชิญ (a man of courtesy แปลตามตัว: one who habitually says: “come you are welcome”)
(2) สขิโล = ผูกไมตรี (kindly in speech)
(3) สมฺโมทโก = สุภาพ (polite)
(4) อพฺภากุฏิโก = ไม่หน้านิ่วคิ้วขมวด (not frowning, genial)
(5) อุตฺตานมุโข = ยิ้มแย้มแจ่มใส (speaking plainly, easily understood)
(6) ปุพฺพภาสี = ทักทายก่อน (speaking obligingly)
…………..
ผู้รู้ท่านพิจารณาแล้วลงความเห็นว่า นี่คือคุณสมบัติของคนที่ควรทำหน้าที่รับแขก
คัมภีร์สุมังคลวิลาสินี ภาค 1 หน้า 425 อรรถกถาทีฆนิกาย ตอนอธิบายโสณทัณฑสูตร ขยายความคำว่า “อุตฺตานมุโข” ว่า –
…………..
อุตฺตานมุโขติ ยถา เอกจฺเจ นิกฺกุชฺชิตมุขา วิย สมฺปตฺตาย ปริสาย น กิญฺจิ กเถนฺติ อติทุลฺลภกถา โหนฺติ น เอวรูโป สมโณ ปน โคตโม สุลภกโถ น ตสฺส สนฺติกํ อาคตาคตานํ กสฺมา มยํ อิธาคตาติ วิปฺปฏิสาโร อุปฺปชฺชติ ธมฺมํ ปน สุตฺวา อตฺตมนาว โหนฺตีติ ทสฺเสติ.
คำว่า “อุตฺตานมุโข” ท่านแสดงความหมายไว้ว่า คนบางจำพวกมีหน้าคว่ำ เมื่อคนมาหา ก็ไม่พูดอะไรด้วย เอ่ยปากได้ยากอย่างยิ่ง แต่พระสมณโคดมไม่เป็นเช่นนั้น เอ่ยพระวาจาได้ง่าย ผู้ที่มาสู่สำนักของพระองค์ไม่เกิดความหงุดหงิดว่า นี่พวกเรามาทำไมกันที่นี่ (เสียเวลาจริงๆ) ตรงกันข้าม ได้ฟังพระพุทธดำรัสตรัสพระธรรมแล้วย่อมมีแต่เบิกบานใจ
…………..
ภาษาไทยเรามีคำว่า “หน้าคว่ำ” หมายถึง ทําหน้าแสดงอาการไม่พอใจหรือโกรธจนไม่เงยหน้าขึ้นมองดู ถ้าเทียบกับคำไทย “อุตฺตานมุข” ชวนให้แปลว่า “หน้าหงาย” มีอาการหรืออารมณ์ตรงกันข้าม คือยิ้มแย้มแจ่มใส
ยิ้มแย้มแจ่มใสนั้นแสดงออกทางสีหน้าอย่างเดียวไม่พอ ต้องประกอบด้วยกิริยาที่ร่าเริงและวาจาที่ไพเราะจึงจะสมบูรณ์
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “อุตฺตานมุข” ว่า “clear mouthed”, speaking plainly, easily understood (“พูดชัด”, พูดง่าย ๆ, เข้าใจได้ชัด)
คำว่า “อุตตานมุข” ยังไม่ได้เก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554
แต่พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 มีคำที่ใกล้เคียงกันคำหนึ่ง คือ “อุตตานภาพ” (อุด-ตา-นะ-พาบ) บอกไว้ดังนี้ –
“อุตตานภาพ : (คำที่ใช้ในบทร้อยกรอง) (คำกริยา) นอนหงาย เช่น รวบพระกรกระหวัดทั้งซ้ายขวาให้พระนางอุตตานภาพ. (ม. ร่ายยาว กุมาร), เขียนเป็น อุตตานะภาพ ก็มี เช่น ฉวยกระชากชฎาเกษเกล้าให้นางท้าวเธอล้มลงอุตตานะภาพ. (ม. กาพย์ กุมารบรรพ). (ป. อุตฺตาน ว่า หงาย + ภาว).”
ได้ความว่า “อุตตาน” ตามพจนานุกรมฯ หมายถึง “นอนหงาย” ตามความหมายของบาลีในข้อ (1) ข้างต้น
อภิปราย :
“อุตตานมุข” หมายถึง ผู้ที่เมื่อพบปะเจอะเจอกัน ถามธุระกัน ก็เป็นคนพูดกันเข้าใจง่าย ไม่ใช่ประเภทถามคำตอบคำ หรือถามอะไรก็ไม่ค่อยอยากจะตอบไม่อยากจะคุยด้วย ตอบแล้วก็ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง หรือพูดคุยไม่เป็นกันเอง ขอร้องขอแรงอะไรก็มักบอกปัดมากกว่าที่จะหาทางช่วย ไม่พร้อมที่จะบริการ มักหงุดหงิดปิดตัวเอง
“อุตตานมุข” เป็นคนประเภทพูดคุยเป็นกันเอง ยิ้มแย้มแจ่มใส คุยกับแขกแล้วแขกสบายใจ ไม่บอกปัดธุระของแขก แต่ยินดีหาทางช่วยเท่าที่จะสามารถทำได้
เคยพบหรือไม่ ไปติดต่องานเรื่องเดียวกันที่หน่วยงานเดียวกันนั่นเอง คุยกับคนหนึ่ง ยาก แต่คุยกับอีกคนหนึ่ง ง่าย
“อุตตานมุข” ตรงกับที่เราพูดกันว่า “คุยกันง่าย” หรือ “พูดกันง่าย”
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ค่าของปาก
: คือพูดเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย
#บาลีวันละคำ (2,922)
12-6-63