อัสสุชล (บาลีวันละคำ 2,956)
อัสสุชล
ดูชอบกลคล้ายกับ a tear water
อ่านว่า อัด-สุ-ชน
ประกอบด้วยคำว่า อัสสุ + ชล
(๑) “อัสสุ”
เขียนแบบบาลีเป็น “อสฺสุ” อ่านว่า อัด-สุ รากศัพท์มาจาก อสฺ (ธาตุ = ตกลงมา) + สุ ปัจจัย
: อสฺ + สุ = อสฺสุ (นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “น้ำที่ตกลงมาจากดวงตา” หมายถึง น้ำตา (a tear)
บาลี “อสฺสุ” สันสกฤตเป็น “อศฺร” “อศฺรุ” และ “อสฺรุ”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –
(1) อศฺร : (คำนาม) น้ำตา; โลหิต; a tear; blood.
(2) อศฺรุ : (คำนาม) น้ำตา; a tear.
(3) อสฺรุ : (คำนาม) น้ำตา; a tear.
บาลี “อสฺสุ” ในภาษาไทยใช้เป็น “อัสสุ”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ดังนี้ –
“อัสสุ : (คำนาม) นํ้าตา. (ป.).”
(๒) “ชล”
บาลีอ่านว่า ชะ-ละ รากศัพท์มาจาก ชลฺ (ธาตุ = ผูกรัด; ไหลไป; รุ่งเรือง) + อ (อะ) ปัจจัย
: ชลฺ + อ = ชล (นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า (1) “สิ่งที่ผูกรัด” (คือบีบทำให้เรือแตกได้) (2) “สิ่งที่ไหลไป” (3) “สิ่งที่รุ่งเรือง” (คือระยิบระยับยามค่ำคืน) หมายถึง น้ำ (water)
บาลี “ชล” สันสกฤตก็เป็น “ชล”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกความหมายของ “ชล” ในสันสกฤตไว้ดังนี้ –
(สะกดตามต้นฉบับ)
“ชล : (คำวิเศษณ์) เยือกเย็นหรืออนภิลาษ; สถุล; เฉื่อยชา, ไม่มีอุตสาหะ; เกียจคร้าน; cold; stupid; apathetic; idiotic; – (คำนาม) น้ำ; วิราค, เสนหาภาพ, ความเฉื่อยชาหรือความไม่มีเสนหา; water; frigidity; coldness, want of animation or coldness of affection.”
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ชล, ชล– : (คำนาม) นํ้า. (ป., ส.).”
อัสสุ + ชล = อัสสุชล
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“อัสสุชล : (คำนาม) นํ้าตา. (ป.).”
อภิปราย :
พจนานุกรมฯ บอกว่า “อัสสุชล” เป็นคำบาลี
ความจริง คำว่า “อสฺสุ” แปลว่า “น้ำตา” ได้ความเต็มคำอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีคำว่า “ชล” ที่แปลว่า “น้ำ” มาต่อเติม
เทียบได้กับว่า a tear ในภาษาอังกฤษก็หมายถึง “น้ำตา” ตรงเต็มคำอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดว่า a tear water
“อสฺสุชล” ก็เหมือน a tear water นั่นเอง
ถ้าเช่นนั้น “อสฺสุชล” จะมีนัยเช่นไร?
ในพระไตรปิฎกยังไม่พบคำว่า “อสฺสุชล” (อัด-สุ-ชะ-ละ) แต่ในคัมภีร์ชั้นอรรถกถาพบคำนี้อย่างน้อย 4 แห่ง ขอยกมาเสนอประกอบการพิจารณาสัก 2 แห่ง ซึ่งเป็นข้อความเดียวกัน ดังนี้ –
เขียนแบบบาลี :
จตูสุ สมุทฺเทสุ ชลํ ปริตฺตกํ
ตโต พหุํ อสฺสุชลํ อนปฺปกํ
ทุกฺเขน ผุฏฺฐสฺส นรสฺส โสจโต
กึการณา สมฺม ตุวํ ปมชฺชสิ.
เขียนแบบคำอ่าน :
จะตูสุ สะมุทเทสุ ชะลัง ปะริตตะกัง
ตะโต พะหุง อัสสุชะลัง อะนัปปะกัง
ทุกเขนะ ผุฏฐัสสะ นะรัสสะ โสจะโต
กิงการะณา สัมมะ ตุวัง ปะมัชชะสิ.
คำแปล :
น้ำในสมุทรทั้งสี่ก็นิดหน่อย
คนที่ถูกทุกข์กระทบเศร้าโศกอยู่
น้ำตาของเขามากกว่านั้นไม่น้อยเลย
เพื่อนเอย เหตุไรท่านจึงยังประมาทอยู่?
ที่มา:
วนวาสิติสฺสตฺเถรวตฺถุ อันตรคาถา ธมฺมปทฏฺฐกถา (ตติโย ภาโค) หน้า 185
ปรมตฺถทีปนี ปฏาจาราเถรีคาถาวณฺณนา หน้า 173
“อสฺสุชลํ” ในที่นี้ต้องแปลว่า “น้ำคือน้ำตา” ไม่ใช่ “น้ำแห่งน้ำตา”
ที่ท่านใช้คำว่า “ชลํ” เพิ่มเข้ามาด้วยน่าจะเป็นเพราะความท่อนแรกพูดถึง “จตูสุ สมุทฺเทสุ ชลํ” = น้ำในสมุทรทั้งสี่ มีคำว่า “ชลํ” ยืนอยู่ ท่อนหลังจึงต้องเล่นคำว่า “ชลํ” เป็นการล้อกันตามลีลาของกวี
ความข้อนี้ถ้าจะแปลให้ล้อกัน ก็ต้องว่า “อสฺสุชลํ น้ำในดวงตามากกว่า สมุทฺทชลํ น้ำในมหาสมุทร” ดังนี้ จึงจะได้อรรถรสทางภาษา
…………..
ดูก่อนภราดา!
: เสียน้ำเหงื่อมากขึ้นเท่าไร
: ก็จะเสียน้ำตาน้อยลงเท่านั้น
#บาลีวันละคำ (2,956)
16-7-63