การเวก (บาลีวันละคำ 2,995)
การเวก
ปักษาสวรรค์
“การเวก” บาลีเป็น “กรวิก” (กะ-ระ-วิ-กะ) และ เป็น “กรวีก” (กะ-ระ-วี-กะ) รากศัพท์มาจาก กล (เสียงวังเวง) + รุ (ธาตุ = ส่งเสียง) + อิก ปัจจัย, ลบ ล หน้าธาตุ (กล > ก), แผลง อุ ที่ รุ เป็น โอ แล้วแปลง โอ เป็น อว (รุ > โร > รว)
: กล + รุ = กลรุ > กรุ > กโร > กรว + อิก = กรวิก (ทีฆะ อิ เป็น อี เป็น กรวีก บ้าง) แปลตามศัพท์ว่า “นกที่ส่งเสียงร้องวังเวง” คือนกที่เราเรียกในภาษาไทยว่า การเวก
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “กรวีก” ว่า the Indian cuckoo (นกดุเหว่าอินเดีย) และมีลูกคำว่า “กรวีกภาณี” (กะ-ระ-วี-กะ-พา-นี) แปลไว้ว่า speaking like the cuckoo, i. e. with a clear and melodious voice, one of the mahāpurisa-lakkhaṇas (พูดเหมือนนกดุเหว่า, คือพูดชัดและเพราะเหมือนเสียงดนตรี, เป็นลักษณะอันหนึ่งของมหาบุรุษ)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บคำว่า “การเวก” ที่หมายถึงนก ไว้ 2 คำ บอกไว้ดังนี้ –
(1) การเวก ๑ : (คำนาม) ชื่อนกในเรื่องปรัมปรา เชื่อกันว่ามีอยู่ในป่าหิมพานต์ บินสูงเหนือเมฆ ร้องเพราะ สัตว์ทั้งหลายได้ยินก็หยุดชะงักไป.
(2) การเวก ๒ : (คำนาม) ชื่อนกขนาดเล็กถึงขนาดกลางหลายชนิดหลายสกุล ในวงศ์ Paradisaeidae แต่ละชนิดมีสีสันหลากหลาย อาจมี ๕-๑๐ สีในตัวเดียวกัน ตัวผู้สีสดกว่าตัวเมีย พบในเกาะนิวกินี เกาะใกล้เคียง และทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลีย ในประเทศไทยมีผู้นำมาเลี้ยงตามบ้าน เช่น ชนิด Paradisea apoda Linn.
สารานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่ม 2 ที่คำว่า “การเวก ๑ นก” อธิบายไว้ดังนี้ –
…………..
การเวก ๑ – นก:
นกในแบบสัตว์หิมพานต์ มีอยู่ในป่าหิมพานต์ บินสูงเหนือเมฆ กินลมเป็นภักษาหาร มีเสียงร้องเพราะ สัตว์ทั้งหลายได้ยินก็หยุดชะงักด้วยจับใจในเสียงที่ร้อง “เสือกำลังจะกินเนื้อ ครั้นได้ยินเสียงนกการเวกก็ลืมกิน เด็กอันท่านไล่ตีและแล่นหนีไป ครั้นได้ยินเสียงนกนั้นร้อง ก็มิรู้สึกที่จักแล่นหนีได้เลย นกอื่นกำลังบินอยู่ ได้ยินเสียงนกการเวกร้อง ก็มิรู้สึกที่จะบิน ปลาที่กำลังว่ายน้ำอยู่ ก็มิรู้สึกที่จะว่ายไป” นกนี้ลางแห่งเรียกว่า นกการวิก เช่น การวิกระวังวนกุณาล (สมุทรโฆษ) อีกอย่างหนึ่งเป็นชื่อนกในสกุล Paradisea มีมากชนิดด้วยกัน ขนงาม ลางชนิดหางเป็นพู่ยาว มีอยู่ในเกาะนิวกินีและในที่อื่น ๆ แถวนั้น ชื่อนกชนิดหลัง คงได้ชื่อชนิดแรกมาตั้งให้โดยอนุโลม ยังมีนกแบบสัตว์หิมพานต์อีกชนิดหนึ่งเรียกว่า นกวายุภักษ์ แปลว่านกกินลมเป็นภักษาหาร ถ้าเทียบลักษณะความเป็นอยู่กับนกการเวกชนิดแรก ซึ่งมีปรกติอยู่ในเมฆบนท้องฟ้ากินลมเป็นภักษาหาร ก็เห็นได้ว่านกวายุภักษ์และนกการเวกลงรูปเป็นนกตัวเดียวกัน ที่เราตั้งชื่อนกชนิดหลังว่า นกการเวก ก็คงเป็นเพราะนกชนิดนี้ไม่มีในประเทศไทย ได้แต่ขนมันมาปักหมวก ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Paradise bird แปลว่านกสวรรค์ นกฟ้า พอจะอนุโลมเรียกว่านกการเวกได้ จึงได้ตั้งชื่อเป็นเช่นนั้น. ส.ก.
…………..
คัมภีร์ปปัญจสูทนี ภาค 3 หน้า 276 ตอนอธิบายพรหมายุสูตร กล่าวถึงนกการเวกในตอนที่บรรยายถึงมหาปริสลักษณะข้อว่า “กรวีกภาณี–มีเสียงดุจเสียงนกการเวก” ไว้ดังนี้ –
…………..
กรวิกสกุเณ กิร มธุรรสํ อมฺพปกฺกํ มุขตุณฺฑเกน ปหริตฺวา ปคฺฆริตรสํ สายิตฺวา ปกฺเขน ตาลํ ทตฺวา วิกูชมาเน
ได้ยินว่าเมื่อนกการเวกจิกมะม่วงสุกอันมีรสหวานอร่อยด้วยจะงอยปาก ลิ้มรสที่ไหลออกแล้วให้จังหวะด้วยปีกขานขันอยู่
จตุปฺปทาทีนิ มตฺตานิ วิย ลฬิตุํ อารภนฺติ.
สัตว์จตุบาทเป็นต้นย่อมเหมือนเคลิบเคลิ้มเริ่มงงงวย
โคจรปฺปสุตาปิ จตุปฺปทา มุขคตานิปิ ติณานิ ฉฑฺเฑตฺวา ตํ สทฺทํ สุณนฺติ.
สัตว์จตุบาทแม้ที่กำลังหากินก็ทิ้งหญ้าทั้งที่อยู่ในปากเสีย ฟังเสียงนกนั้น
วาฬมิคาปิ ขุทฺทกมิเค อนุพนฺธมานา อุกฺขิตฺตปาทํ อนุกฺขิปิตฺวาว ติฏฺฐนฺติ.
แม้พาฬมฤคกำลังติดตามเนื้อน้อย ๆ อยู่ เท้าที่ยกขึ้นแล้วก็ไม่ยอมย่างกลับหยุดฟังอยู่
อนุพทฺธมิคาปิ มรณภยํ หิตฺวาปิ ติฏฺฐนฺติ.
แม้เนื้อที่ถูกติดตามเล่าก็เลิกกลัวตายหยุดฟังอยู่
อากาเส ปกฺขนฺนปกฺขิโนปิ ปกฺเข ปสาเรตฺวา ติฏฺฐนฺติ.
แม้นกที่บินไปในอากาศก็กางปีกหยุดเฉยอยู่
อุทเก มจฺฉาปิ กณฺณปฏลํ น อปฺโปเฐนฺตา ตํ สทฺทํ สุณมานาว ติฏฺฐนฺติ.
ทั้งปลาในน้ำเล่าก็ไม่โบกครีบ หยุดแหวกว่ายฟังแต่เสียงนกนั้น
เอวํ มญฺชุรุตา กรวิกา.
นกการเวกร้องไพเราะด้วยประการฉะนี้
…………..
ดูก่อนภราดา!
: สัตว์ใช้เสียงลวงกันให้หลงพลาด
: คนใช้คำพิฆาตกันให้หลงผิด
#บาลีวันละคำ (2,995)
24-8-63