บาลีวันละคำ

อัญเดียรถีย์ (บาลีวันละคำ 3,024)

อัญเดียรถีย์

บางทีก็แฝงอยู่ในพระศาสนานี้เอง

อ่านว่า อัน-ยะ-เดีย-ระ-ถี

ประกอบด้วยคำว่า อัญ + เดียรถีย์

(๑) “อัญ

บาลีเป็น “อญฺญ” (อัน-ยะ, หญิง 2 ตัว) รากศัพท์มาจาก (คำนิบาต = ไม่, ไม่ใช่) + ญา (ธาตุ = รู้) + (อะ) ปัจจัย, แปลง เป็น , ซ้อน ญฺ ระหว่างนิบาตกับธาตุ ( + ญฺ + ญา), “ลบสระหน้า” คือลบ อา ที่ ญา (ญา > )

: > + ญฺ + ญา = อญฺญา > อญฺญ + = อญฺญ แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งอันเขาไม่รู้

อญฺญ” (คุณศัพท์) หมายถึง อื่น, ไม่เหมือนกัน, ต่างกัน, อันอื่น, คนอื่น (other, not the same, different, another, somebody else)

อญฺญ” ภาษาไทย ถ้าเป็นส่วนหน้าของคำสมาส ตัดตัวสะกดออกตัวหนึ่ง ใช้เป็น “อัญ-”

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

อัญ-, อัญญะ : (คำวิเศษณ์) อื่น, ต่างไป, แปลกไป. (ป. อญฺญ; ส. อนฺย).”

(๒) “เดียรถีย์

บาลีเป็น “ติตฺถิย” รากศัพท์มาจาก ติตฺถ + อิย ปัจจัย

(ก) “ติตฺถ” (ติด-ถะ) รากศัพท์มาจาก ตรฺ (ธาตุ = ข้าม) + ปัจจัย, แปลง อะ ที่ -(รฺ) เป็น อิ, แปลง เป็น (ตรฺ > ติรฺ > ติตฺ)

: ตรฺ + = ตรถ > ติรถ > ติตฺถ แปลตามศัพท์ว่า (1) “ที่เป็นเครื่องข้ามฟาก” (2) “ที่เป็นที่ข้ามฟาก” (3) “ความเห็นเป็นที่ให้สัตว์ทั้งหลายกระโดดดำผุดดำว่ายอยู่ในทิฐิหกสิบสอง

หนังสือ ศัพท์วิเคราะห์ ของ พระมหาโพธิวงศาจารย์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙, ราชบัณฑิต) แปล “ติตฺถ” ว่า ท่าน้ำ, ครูอาจารย์, เหตุ, ลัทธิ, ทิฐิ, น้ำศักดิ์สิทธิ์

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “ติตฺถ” ดังนี้ –

(1) a fording place, landing place, which made a convenient bathing place (สถานที่ลุยน้ำข้ามฟาก, ท่าน้ำซึ่งเป็นสถานที่อาบน้ำอย่างเหมาะเจาะ)

(2) a sect (นิกายทางศาสนา)

ในที่นี้ “ติตฺถ” ซึ่งแต่เดิมหมายถึง ท่าน้ำ แต่ความหมายโดยนัยกลายเป็นนิกายทางศาสนา

(ข) ติตฺถ + อิย ปัจจัย

: ติตฺถ + อิย = ติตฺถิย แปลตามศัพท์ว่า “ประกอบในลัทธิ

บาลี “ติตฺถิย” ภาษาไทยใช้เป็น “เดียรถีย์” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

เดียรถีย์ : (คำนาม) นักบวชภายนอกพระพุทธศาสนาในอินเดียสมัยพุทธกาล. (ส. ตีรฺถิย; ป. ติตฺถิย).”

อญฺญ + ติตฺถิย = อญฺญติตฺถิย (อัน-ยะ-ติด-ถิ-ยะ) แปลตามศัพท์ว่า “พวกประกอบในลัทธิอื่นโดยอาการที่ไม่รู้” หมายถึง ผู้ถือลัทธิอื่น, ผู้มิใช่ชาวพุทธ, เดียรถีย์ (an adherent of another sect, a non-Buddhist)

อญฺญติตฺถิย” ใช้ในภาษาไทยเป็น “อัญดิตถีย์” (อัน-ยะ-ดิด-ถี) และ “อัญเดียรถีย์” (อัน-ยะ-เดีย-ระ-ถี)

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

อัญดิตถีย์, อัญเดียรถีย์ : (คำนาม) พวกที่มีความเชื่อถืออย่างอื่น, พวกนอกพระพุทธศาสนา. (ป. อญฺญติตฺถิย; ส. อนฺย + ตีรฺถฺย).”

อภิปรายขยายความ :

ติตฺถ” ตามตัวแปลว่า “ข้ามไป” ความหมายที่เข้าใจกันคือ ท่าน้ำ, ท่าเรือ, ฝั่ง, ท่าลง, ช่องลง, อวตาร (การลงมาแก้ปัญหา), ผู้สอน, ครู, อุบาย, ทฤษฎี, ลัทธิ, ความเชื่อถือ

แนวคิดเชิงปรัชญามองว่า

– ปัญหาชีวิตเปรียบเหมือนฟากฝั่งที่กำลังยืนอยู่

– การแก้ปัญหาได้สำเร็จหรือหลุดพ้นจากปัญหาเปรียบเหมือนการข้ามไปถึงอีกฝั่งหนึ่ง

– ผู้ทำหน้าที่ชี้ทางแก้ปัญหาเปรียบเหมือนท่าน้ำอันเป็นที่ข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่ง

ติตฺถิย” มีความหมายตามศัพท์ว่า “ผู้อยู่ในฐานะเป็นท่าน้ำ” (เป็นความหมายเชิงปรัชญา)

ติตฺถิยเดียรถีย์” คำเดิมจึงหมายถึง “เจ้าลัทธิ

พระศรีศากยมุนีโคดมทรงศึกษาคำสอนของเจ้าลัทธิทั้งปวงจบสิ้นแล้วจึงทรงประกาศพระพุทธศาสนาอันมีคำสอนที่แตกต่างจากลัทธิทั้งหลายโดยสิ้นเชิง คำว่า “เดียรถีย์” จึงมีความหมายว่า “เจ้าลัทธินอกพระพุทธศาสนา

เรามักใช้คำว่า “เดียรถีย์” ในความหมายว่า ผู้กระทำการลบหลู่จ้วงจาบพระพุทธศาสนาหรือแสดงคำสอนที่วิปริตผิดธรรมวินัย

เส้นแบ่งความหมายที่น่าจะชัดเจน คือ –

1 ผู้กระทำการลบหลู่จ้วงจาบพระพุทธศาสนา ถ้าเป็นบุคคลภายนอก เรียกว่า “เดียรถีย์” ถ้าเป็นบุคคลภายในก็ขาดจากความเป็นชาวพุทธทันที

2 พระสงฆ์ที่ประพฤติล่วงละเมิดหรือแสดงคำสอนที่วิปริตผิดธรรมวินัย มีคำเรียกอยู่แล้วว่า “อลัชชี” (ผู้ไร้ยางอาย)

เดียรถีย์” และ “อัญเดียรถีย์” มีความหมายเหมือนกัน

ภาษาไทยมักพูดกันว่า “เดียรถีย์” และแทบจะไม่มีใครรู้จักคำว่า “อัญเดียรถีย์

ความจริงเตือนใจ :

– พระพุทธศาสนาไม่มีคำสอนและไม่เคยมีประวัติที่ทำลายหรือทำร้ายต่างศาสนา

– เคยมีแต่ถูกทำลายหรือถูกทำร้ายโดยต่างศาสนา รวมทั้งโดยผู้ที่อยู่ในพระพุทธศาสนาด้วยกันนี่เอง-โดยเฉพาะที่มีความเห็นและความประพฤติวิปริผิดจากคำสอนที่ถูกต้อง

…………..

ดูก่อนภราดา!

: ถ้าไม่แม่นยำในคำสอนของพระศรีศากยมุนี

: อาจจะประพฤติธรรมของอัญเดียรถีย์โดยไม่รู้ตัว

#บาลีวันละคำ (3,024)

22-9-63

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย