ตัดบท (บาลีวันละคำ 3,177)
ตัดบท
มาจากบาลีหรือเปล่า
คำว่า “ตัดบท” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายไว้ดังนี้ –
“ตัดบท : (คำกริยา) พูดให้ยุติเรื่องกัน; แยกคําออก.”
ความหมายของ “ตัดบท” ในภาษาไทยที่ว่า “พูดให้ยุติเรื่องกัน” สันนิษฐานว่า น่าจะมีต้นเหตุมาจากการร้องละครที่มีบทร้องหรือบทเจรจา กำลังร้องบทหนึ่งอยู่ แล้วตัดบทนั้นออกเพื่อไปดำเนินเรื่องในบทใหม่ด้วยเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำให้เรื่องตรงนั้นขาดไป
เมื่อใครพูดให้เรื่องที่กำลังดำเนินอยู่หยุดลง จึงเอาวิธีในบทละครมาใช้เรียกการกระทำเช่นนั้นว่า “ตัดบท”
แต่ความหมายอีกท่อนหนึ่งที่ว่า “แยกคําออก” นั้น มาจากวิธีการในบาลีไวยากรณ์ที่มีศัพท์เรียกว่า “ปทจฺเฉท” อ่านว่า ปะ-ทัด-เฉ-ทะ ประกอบด้วยคำว่า ปท = บท + เฉท = การตัด ซ้อน จฺ ระหว่างคำ
: ปท + จฺ + เฉท = ปทจฺเฉท แปลตามศัพท์ว่า “การตัดซึ่งบท” คือการแยกคำที่สมาสหรือสนธิกันอยู่ออก ทำให้เป็นคนละคำกัน
ฝึกหัดตัดบท :
มีบทสวดมนต์บทหนึ่งชื่อ “รตนสูตร” เวลานี้รู้จักกันดีว่าเป็นบททำน้ำมนต์เพื่อบำราบโรคภัย บทรตนสูตรนี้มี “บทขัด” อันเป็นคำบอกกล่าวถึงความเป็นมาหรืออานิสงส์ของพระสูตรนั้นก่อนที่จะสวดตัวบทจริงๆ
บทขัดรตนสูตรมีความตอนหนึ่งแปลเป็นไทยว่า –
…………..
ขอเหล่าเทพดาจงคุ้มครองให้พ้นจากราชภัย โจรภัย มนุสภัย อมนุสภัย อัคคีภัย อุทกภัย ภัยจากปีศาจ ภัยจากหลักตอเสี้ยนหนาม ภัยจากเคราะห์หามยามร้าย จากโรคภัยไข้เจ็บ จากอสัทธรรม จากมิจฉาทิฐิคือความเห็นผิด จากคนชั่ว จากภัยต่างๆ อันเกิดแต่สัตว์ร้ายนานาชนิด และจากอมนุษย์มียักษ์และรากษสเป็นต้น จากโรคต่างๆ จากอุปัทวะต่างๆ
…………..
ข้อความที่ว่า “จากภัยต่างๆ อันเกิดแต่สัตว์ร้ายนานาชนิดและจากอมนุษย์มียักษ์และรากษสเป็นต้น” คำบาลีว่าดังนี้ –
…………..
จณฺฑหตฺถิอสฺสมิคโคณกุกฺกุรอหิวิจฺฉิกมนิสปฺปทีปิอจฺฉตรจฺฉสุกรมหิสยกฺขรกฺขสาทีหิ …
…………..
เขียนเป็นคำอ่านดังนี้ –
…………..
จัณฑะหัตถิอัสสะมิคะโคณะกุกกุระอะหิวิจฉิกะมะนิสัปปะทีปิอัจฉะตะรัจฉะสุกะระมะหิสะยักขะรักขะสาทีหิ …
…………..
นักสวดมนต์รุ่นเก่า เมื่อสวดถึงข้อความตอนนี้ มักจะครั่นคร้ามเข็ดขยาดกันมาก เนื่องจากมีศัพท์บาลีสมาสติดกันยาวเหยียด ประกอบด้วยสระเสียงสั้นแทรกอยู่เป็นอันมาก ออกเสียงยาก สวดยาก ถ้าไม่แม่นไม่แข็งจริง มักล่มเอาง่ายๆ
ศัพท์บาลีที่สมาสติดกันยาวเหยียดดังที่ยกมานั้นตัดบทได้ดังนี้ –
จณฺฑ = ดุร้าย
หตฺถิ = ช้าง
อสฺส = ม้า
มิค = เนื้อ
โคณ = โค
กุกฺกุร = สุนัข
อหิ = งูเห่า
วิจฺฉิก = แมลงป่อง
มนิ = งูปิ่นแก้ว
สปฺป = งูบ้าน
ทีปิ = เสือเหลือง
อจฺฉ = หมี
ตรจฺฉ = หมาใน
สุกร = หมู
มหิส = ควาย
ยกฺข = ยักษ์
รกฺขส = รากษส
อาทีหิ = เป็นต้น
เวลาสวด ถ้ารู้บาลีก็จะช่วยให้กำหนดศัพท์หรือบทแต่ละบทได้ง่าย ทำให้ออกเสียงได้ถูกกับบทนั้นๆ พร้อมทั้งรู้ความหมายไปด้วยในตัว
การเรียนบาลีย่อมเป็นอุปการะในการสวดมนต์ได้มาก ด้วยประการฉะนี้
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ถ้าจะตัด ตัดให้ขาด
: ถ้าจะต่อ ต่อให้ติด
: ตัดไม่ขาดเป็นพิษ
: ต่อไม่ติดเป็นภัย
#บาลีวันละคำ (3,177)
22-2-64