ปัญหาการใช้ภาษาไทย (๑)
ปัญหาการใช้ภาษาไทย (๗)
————————-
(๖) ผูกประโยคไม่ครบถ้วน
คำว่า “ประโยค” หมายถึงคําพูดหรือข้อความที่ได้ความบริบูรณ์ตอนหนึ่ง ๆ
องค์ประกอบหลักๆ ของประโยคก็คือต้องมี ประธาน กรรม กริยา อาจมีครบทั้ง ๓ ส่วน หรือมีแต่ประธานกับกริยา บางทีอาจมีแต่ประธานก็ถือว่าเป็นประโยค หรือบางทีมีแต่กริยา ละประธานไว้ในฐานเข้าใจ
นอกจากนี้ยังมีคำขยายประธาน ขยายกรรม ขยายกริยา แล้วแต่ว่ากำลังพูดถึงเรื่องอะไรอย่างไร
และยังมีคำ “สันธาน” คือคำเชื่อมระหว่างประโยคหนึ่งกับอีกประโยคหนึ่ง หรือเชื่อมความท่อนหนึ่งกับความอีกท่อนหนึ่ง เพื่อให้เห็นความเกี่ยวเนื่องของเรื่องราว หรือเพื่อให้มีความสละสลวย
เรื่ององค์ประกอบของ “ประโยค” นี้ ในภาษาบาลีมีเรียนกันอย่างละเอียดในส่วนวิชาที่เรียกว่า “วากยสัมพันธ์”
ลักษณะของประโยคหรือใจความของประโยค มีหลายอย่าง เช่น ประโยคบอกเล่า ประโยคปฏิเสธ ประโยคคําถาม
ผมไม่แน่ใจว่า เด็กไทยรุ่นใหม่เรียนเรื่องประโยคและองค์ประกอบของประโยคดังที่ว่ามานี้กันบ้างหรือเปล่า แต่ดูวิธีเขียนวิธีพูด หรือวิธีเรียงคำพูดเป็นประโยคของคนรุ่นใหม่แล้ว เห็นอาการที่เรียกว่า “ผูกประโยคไม่ครบถ้วน”
ที่เคยเห็นมาแต่ก่อนก็อย่างเช่น ผู้เขียนหรือผู้พูดต้องการจะนำเอาตัวอย่างหรือถ้อยคำที่มีปรากฏในหนังสือเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาแสดงให้เห็น ก็จะเขียนหรือพูดว่า –
“ขอนำตัวอย่างจากเรื่องขุนช้างขุนแผนดังนี้ …”
ประโยคที่สมบูรณ์คือ –
“ขอนำตัวอย่าง…มาเสนอดังนี้ …”
หรือ “ขอนำตัวอย่าง…มาแสดงให้เห็นดังนี้ …”
บอกแต่ว่า “ขอนำตัวอย่าง…ดังนี้”
นำไปไหน หรือนำมาทำอะไร ไม่บอก ไม่มีถ้อยคำที่ระบุ
นี่คือ ผูกประโยคไม่ครบถ้วน
ที่เห็นใหม่ๆ หนักกว่านี้ ตัวอย่างเช่น
– ต้องการถามว่า “คำว่า internet เขียนทับศัพท์ว่าอย่างไร?”
เดี๋ยวนี้เขาพูดเพียงแค่ “internet เขียนทับศัพท์”
พูดว่า “internet เขียนทับศัพท์” แค่นี้
เท่ากับพูดว่า “คำว่า internet เขียนทับศัพท์ว่าอย่างไร?”
ต้นประโยค “คำว่า” ไม่ต้องมี
ท้ายประโยค “ว่าอย่างไร?” ก็ไม่ต้องมี
พูดว่า “internet เขียนทับศัพท์” – เท่านี้ก็ถือว่าเป็นประโยคคำถามเรียบร้อยแล้ว
อีกตัวอย่างหนึ่ง
– ต้องการขอความช่วยเหลือว่า “กรุณาช่วยสืบค้นตัวอย่างการใช้คำสันธานของภาษาไทยในสมัยอยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ตอนต้น ว่ามีลักษณะอย่างไร”
เดี๋ยวนี้พูดเพียงแค่ –
“คำสันธานสมัยอยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ตอนต้น”
ต้นประโยค “กรุณาช่วยสืบค้นตัวอย่างการใช้” ไม่ต้องมี
ท้ายประโยค “ว่ามีลักษณะอย่างไร?” ก็ไม่ต้องมี
“คำสันธานสมัยอยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ตอนต้น” – เท่านี้ก็ถือว่าเป็นประโยคที่เข้าใจกันได้แล้วว่าต้องการให้ทำอะไร
เรื่องผูกประโยคไม่ครบถ้วนนี้ ถ้ามองในแง่ผลสัมฤทธิ์ของการสื่อสาร ก็อาจจะมองได้ว่า ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเลย เพราะทั้งผู้ส่งสาร ทั้งผู้รับสาร สามารถเข้าใจตรงกันได้ การสื่อสารนั้นก็สมบูรณ์แล้ว
แต่ถ้ามองในแง่ความงดงาม หรือมาตรฐานของภาษา จะพูดได้หรือว่า การสื่อสารด้วยถ้อยคำแบบนี้ สมบูรณ์ดีแล้ว?
อุปมาเหมือนของกิน
กินเข้าไปแล้วเลี้ยงร่างกายให้อยู่ได้ ไม่เกิดโรค มีกำลังทำงาน ก็พอแล้ว
อร่อยหรือไม่อร่อย ไม่จำเป็น
คิดกันแค่นั้นหรือ??
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๔
๑๓:๔๐
………………………………
ปัญหาการใช้ภาษาไทย (๘)
………………………………
ปัญหาการใช้ภาษาไทย (๖)
………………………………