บาลีวันละคำ

สิม – สีมา (บาลีวันละคำ 3,628)

สิมสีมา

เขตสังฆกรรม

อ่านตรงตัวว่า สิม สี-มา

คำว่า “สิม” เป็นคำหนึ่ง “สีมา” เป็นอีกคำหนึ่ง แต่ผู้รู้บอกว่า “สิม” เป็นคำที่ตัดมาจาก “สีมา” นั่นเอง

สีมา” อ่านว่า สี-มา รากศัพท์มาจาก สี (ธาตุ = ผูก) + ปัจจัย + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์

: สี + = สีม + อา = สีมา แปลตามศัพท์ว่า “ขอบเขตอันสงฆ์พร้อมเพรียงกันผูกไว้ด้วยการสวดกรรมวาจา” หมายถึง แดน, ขอบเขต, ตำบล (boundary, limit, parish) 

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า – 

สีมา : (คำนาม) เขต, แดน; เครื่องหมายบอกเขตโบสถ์ มักทําด้วยแผ่นหินหรือหลักหินเป็นต้น เรียกว่า ใบพัทธสีมา, ใบสีมา หรือ ใบเสมา ก็ว่า. (ป., ส.).” 

และที่คำว่า “เสมา” บอกไว้ว่า – 

เสมา ๑ : (คำนาม) สีมา, เครื่องหมายบอกเขตโบสถ์; เรียกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายใบสีมาที่เรียงกันอยู่บนกําแพงอย่างกําแพงเมืองว่า ใบเสมา; เครื่องประดับหรือเครื่องรางสําหรับห้อยคอ มีรูปร่างอย่างใบเสมา. (ป., ส. สีมา).”

ขยายความ :

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ที่คำว่า “สิม” (อ่านเมื่อ 19 พฤษภาคม 2565 เวลา 20:30 น.) มีข้อความบางตอนดังนี้ – (ปรับแก้วรรคตอนและอักขรวิธีเล็กน้อย)

…………..

สิม หมายถึง โรงที่พระสงฆ์ทำสังฆกรรมต่าง ๆ เป็นภาษาพื้นถิ่นในวัฒนธรรมล้านช้างและภาคอีสานของประเทศไทย มีความหมายเดียวกับโบสถ์หรืออุโบสถของภาคกลางในประเทศไทย

คำว่า “สิม” มาจากคำว่า สีมา สิมมา หรือพัทธสีมา ที่ปรากฏในคำจารึกบนแผ่นหินที่ประกาศเจตนาอุทิศของผู้สร้างปักไว้ด้านหลังสิมมีปรากฏอยู่ทั่วไป ความหมายของคำเหล่านี้ หมายถึง เขตแดนที่กำหนดในการประชุมทำสังฆกรรมอันเป็นกิจของสงฆ์โดยมีแผ่นสีมาหินเป็นเครื่องหมายแสดงขอบเขตรอบบริเวณตัวสิม

ลักษณะโดยทั่วไปของสิม แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ตามสภาพของแหล่งที่ตั้ง คือ สิมน้ำและสิมบก 

สิมน้ำ เป็นสิมที่ตั้งอยู่กลางน้ำ เช่น สระ หนอง บึง ส่วนใหญ่เป็นอาคารที่สร้างอย่างชั่วคราวสำหรับวัดที่ยังไม่มีวิสุงคามสีมา 

สิมบก เป็นสิมที่ตั้งอยู่บนแผ่นดิน มีลักษณะเป็นอาคารถาวร 

นอกจากนี้ สิมยังแบ่งตามลำดับอายุก่อนหลังและลักษณะร่วมในรูปแบบได้เป็น 4 ประเภท คือ สิมก่อผนังแบบดั้งเดิม สิมโถง สิมก่อผนังรุ่นหลัง และสิมแบบผสม

…………..

เมื่อ “สิม” มาจาก “สีมา” ก็ควรหาความรู้เกี่ยวกับ “สีมา” ให้กว้างออกไปอีก

พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต มีคำว่า “สีมา” และคำอื่นๆ ที่เกี่ยวกับสีมา ขอนำมาเสนอรวมไว้ในที่นี้ ดังนี้ –

…………..

(1) สีมา : เขตกำหนดความพร้อมเพรียงสงฆ์, เขตชุมนุมของสงฆ์, เขตที่สงฆ์ตกลงไว้สำหรับภิกษุทั้งหลายที่อยู่ภายในเขตนั้นจะต้องทำสังฆกรรมร่วมกัน แบ่งเป็น ๒ ประเภทใหญ่คือ ๑. พัทธสีมา แดนที่ผูก ได้แก่ เขตที่สงฆ์กำหนดขึ้นเอง ๒. อพัทธสีมา แดนที่ไม่ได้ผูก ได้แก่เขตที่ทางบ้านเมืองกำหนดไว้แล้วตามปกติของเขา หรือที่มีอย่างอื่นในทางธรรมชาติเป็นเครื่องกำหนด สงฆ์ถือเอาตามกำหนดนั้นไม่วางกำหนดขึ้นเองใหม่.

(2) พัทธสีมา : “แดนผูก” ได้แก่ เขตที่สงฆ์กำหนดขึ้นเอง โดยจัดตั้งนิมิตคือสิ่งที่เป็นเครื่องหมายกำหนดเอาไว้.

(3) อพัทธสีมา : “แดนที่ไม่ได้ผูก” หมายถึงเขตชุมนุมสงฆ์ที่สงฆ์ไม่ได้กำหนดขึ้นเอง แต่ถือเอาตามเขตที่เขาได้กำหนดไว้ตามปรกติของบ้านเมือง หรือมีบัญญัติอย่างอื่นเป็นเครื่องกำหนด แบ่งเป็น ๓ ประเภท คือ ๑. คามสีมา หรือ นิคมสีมา ๒. สัตตัพภันตรสีมา ๓. อุทกุกเขป.

(4) คามสีมา : “แดนบ้าน” คือเขตที่กำหนดด้วยบ้าน, สีมาที่ถือกำหนดตามเขตบ้าน เป็นอพัทธสีมาอย่างหนึ่ง.

(5) นิคมสีมา : แดนนิคม, อพัทธสีมาที่สงฆ์กำหนดด้วยเขตนิคมที่ตนอาศัยอยู่.

(6) สัตตัพภันตรสีมา : อพัทธสีมาชนิดที่กำหนดเขตแห่งสามัคคีขึ้นในป่า อันหาคนตั้งบ้านเรือนมิได้ โดยวัดจากที่สุดแนวแห่งสงฆ์ออกไปด้านละ ๗ อัพภันดรโดยรอบ.

(7) อุทกุกเขป : เขตสามัคคีชั่ววักน้ำสาดแห่งคนมีอายุและกำลังปานกลาง หมายถึง เขตชุมนุมทำสังฆกรรมที่กำหนดลงในแม่น้ำหรือทะเล ชาตสระ (ที่ขังน้ำเกิดเองตามธรรมชาติ เช่น บึง หนอง ทะเลสาบ) โดยพระภิกษุประชุมกันบนเรือ หรือบนแพ ซึ่งผูกกับหลักในน้ำ หรือทอดสมออยู่ห่างจากตลิ่งกว่าชั่ววิดน้ำสาด (ห้ามผูกโยงเรือหรือแพนั้น กับหลักหรือต้นไม้ริมตลิ่ง และห้ามทำในเรือหรือแพที่กำลังลอยหรือเดิน); อุทกุกเขปนี้ จัดเป็นอพัทธสีมาอย่างหนึ่ง. 

…………..

ดูก่อนภราดา!

: มีเขตแดนเป็นเรื่องดี

: แต่ทำดีอย่าติดที่เขตแดน

——————————

ภาพและคำบรรยายภาพของ Pakorn Pukkahuta 

——————————

#บาลีวันละคำ (3,628)

19-5-65 

……………………………………………..

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

……………………………………………..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *