อบาย (บาลีวันละคำ 3,999)
อบาย
1 ในภพภูมิของคนทุศีล
…………..
ภพภูมิที่คนทุศีลจะเข้าถึง คือไปอุบัติ มี 4 ภูมิ คือ –
(1) อปาย = ภูมิที่ไม่มีความเจริญ
(2) ทุคฺคติ = ภูมิที่มีแต่ความลำบาก
(3) วินิปาต = ภูมิที่มีแต่ความพินาศ
(4) นิรย = ภูมิที่มีแต่ความเร่าร้อน
…………..
“อบาย” ภาษาไทยอ่านว่า อะ-บาย
บาลีเป็น “อปาย” อ่านว่า อะ-ปา-ยะ รากศัพท์มาจาก –
(1) อป (คำอุปสรรค = ปราศจาก, ไม่มี) + อิ (ธาตุ = ไป, เป็นไป) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, แปลง อิ เป็น ย, ทีฆะ อะ ที่ อ-(ย) เป็น อา (อย > อาย)
: อป + อิ > อย + ณ = อปย > อปาย แปลตามศัพท์ว่า “ภาวะเป็นเหตุให้ไปปราศจากความสุข”
(2) อป (คำอุปสรรค = ปราศจาก, ไม่มี) + อย (ความสุข, ความเจริญ, ความดี, บุญ), ทีฆะ อะ ที่ อ-(ย) เป็น อา (อย > อาย)
: อป + อย = อปย > อปาย แปลตามศัพท์ว่า “ภาวะหรือภพภูมิที่ปราศจากความสุข” “ภาวะหรือภพภูมิที่ปราศจากความเจริญ” “ภาวะหรือภพภูมิที่ปราศจากความดี” “ภาวะหรือภพภูมิที่ปราศจากบุญ”
(3) น (ไม่, ไม่มี) + ปาย (ความเจริญ), แปลง น เป็น อ
: น + ปาย = นปาย > อปาย แปลตามศัพท์ว่า “ภพที่ไม่มีความเจริญ”
“อปาย” (ปุงลิงค์) ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) การแยกออกจากกัน, ความสูญเสีย (separation, loss)
(2) การสูญหาย (เกี่ยวกับทรัพย์สมบัติ) (loss [of property])
(3) การรั่วไหล, การไหลออกไป (เกี่ยวกับน้ำ) (leakage, out flow [of water])
(4) การกระทำพลั้งพลาด, การพลาดพลั้งในเรื่องความประพฤติ (lapse, falling away in conduct)
(5) ภูมิชั่วคราวของความสูญเสีย และความทุกข์ร้อนภายหลังจากตายไป [คือ อบายภูมิที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานอันคนผู้ก่อกรรมชั่วจะต้องไปภายหลังจากตายไป] (a transient state of loss and woe after death)
ความหมายในทางธรรมที่เข้าใจกัน คือ ความเสื่อม, ความฉิบหาย, ภพภูมิหรือกำเนิดที่ไม่มีโอกาสเจริญบุญกุศล
“อปาย” ภาษาไทยใช้ทับศัพท์ว่า “อบาย” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“อบาย, อบาย– : (คำนาม) ที่ที่ปราศจากความเจริญ; ความฉิบหาย. (ป.).”
ขยายความ :
คำที่อยู่ในชุดเดียวกับ “อบาย” มี 4 คำ คือ “อปาย ทุคฺคติ วินิปาต นิรย” เป็นภพภูมิที่คนย่ำยีศีลธรรมจะไปบังเกิด อันเป็น 1 ในโทษ 5 ประการที่จะเกิดแก่ผู้ย่ำยีศีลธรรม (ทุสฺสีโล = ผู้ทุศีล, สีลวิปนฺโน = ผู้มีศีลวิบัติ) ทั้งนี้ ไม่ใช่เพราะคำสอนของศาสนาสาปแช่งให้เป็นเช่นนั้น หากแต่เพราะการกระทำของเขาชักนำให้เป็นไปเอง
…………..
พระผู้มีพระภาคตรัสเทศนาโปรดอุบาสกอุบาสิกาชาวตำบลบ้านปาฏลิในแคว้นมคธว่า คนทุศีล มีศีลวิบัติ ย่อมมีโทษ 5 ประการ คือ –
(1) ปมาทาธิกรณํ มหตึ โภคชานึ นิคจฺฉติ ฯ
โภคทรัพย์เสื่อมสิ้นไปเพราะเหตุที่ประมาทมัวเมาละเมิดศีล
(2) ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ ฯ
ชื่อเสียงอันอันชั่วร้ายย่อมระบือไป
(3) ยญฺญเทว ปริสํ อุปสงฺกมติ ยทิ ขตฺติยปริสํ ยทิ พฺราหฺมณปริสํ ยทิ คหปติปริสํ ยทิ สมณปริสํ อวิสารโท อุปสงฺกมติ มงฺกุภูโต ฯ
อยู่ในที่ประชุมใดๆ ก็หาความสง่างามบมิได้ (ความตามพระบาลีว่า เข้าไปหาบริษัทใดๆ เช่น ขัตติยบริษัท พราหมณบริษัท คหดีบริษัท สมณบริษัท ย่อมเป็นผู้ครั่นคร้าม ขวยเขิน)
(4) สมฺมูโฬฺห กาลํ กโรติ ฯ
เป็นผู้หลงทำกาลกิริยา คือเวลาตายก็หลงเลอะ
(5) กายสฺส เภทา ปรมฺมรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ ฯ
แตกกายทำลายขันธ์แล้วย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
ที่มา: เภสัชชขันธกะ วินัยปิฎก มหาวรรค ภาค 2 พระไตรปิฎกเล่ม 5 ข้อ 68
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ถ้ายังไม่ได้เป็นโสดาบัน
: ก็ยังมีวันที่จะได้ไปอบายภูมิ
#บาลีวันละคำ (3,999)
25-5-66
…………………………….
…………………………….