วักกลิ (บาลีวันละคำ 4,123)
วักกลิ
ผู้เป็นต้นเหตุวรรคทอง “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา”
อ่านว่า วัก-กะ-ลิ
“วักกลิ” เขียนแบบบาลีเป็น “วกฺกลิ” อ่านว่า วัก-กะ-ลิ เป็นชื่อของพระอรหันต์องค์หนึ่งในสมัยพุทธกาล
คัมภีร์วิสุทธชนวิลาสินี ภาค 2 หน้า 359 อรรถกถาอปทาน ตอนวักกลิเถราปทานวัณณนา แสดงที่มาของชื่อ “วกฺกลิ” ไว้ว่า
กลีติ อปราธติลกาฬกาทิโทสสฺส อธิวจนํ ฯ
คำว่า กลิ เป็นชื่อของโทษมีมลทินและตกกระเป็นต้น
นิทฺธนฺตสุวณฺณปิณฺฑสทิสตาย อปคโต พฺยปคโต กลิ โทโส …
กลิคือโทษของผู้นั้นไปปราศแล้ว จากไปแล้ว เพราะรูปร่างเป็นเช่นกับก้อนทองคำที่ไล่มลทินแล้ว
… อสฺสาติ วการาคมํ กตฺวา วกฺกลีติ วุจฺจติ ฯ
เหตุนั้น ผู้นั้นท่านจึงเรียกว่า วักกลิ เพราะลง ว อาคม
ขยายความดังนี้
คำว่า “วกฺกลิ” รากศัพท์มาจาก อ + กลิ
(๑) “อ” (อะ) แทนศัพทว่า “อปคต” แปลว่า ออกไป, หายไป
(๒) “กลิ” (กะ-ลิ) รากศัพท์มาจาก กล (ธาตุ = นับ, คำนวณ) + อิ ปัจจัย
: กลฺ + อิ = กลิ แปลามศัพท์ว่า “ภาวะอันเขานับ”
หนังสือ ศัพท์วิเคราะห์ ของ พระมหาโพธิวงศาจารย์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙, ราชบัณฑิต) แปล “กลิ” ว่า โทษ, ความชั่ว, บาป, ความปราชัย, ความพ่ายแพ้
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ บอกความหมายของ “กลิ” ว่า –
(1) ลูกสกาที่อับโชค (the unlucky die)
(2) การทอดลูกสกาที่อับโชค, โชคร้าย, เป็นเครื่องหมายแห่งโชคร้าย, ข้อเสีย, บาป (an unlucky throw at dice, bad luck, symbolically as a piece of bad luck in a general worldly sense or bad quality, demerit, sin)
(3) ยุคสุดท้ายในยุคทั้ง 4 ของโลก (the last of the 4 ages of the world)
(4) บาป, คนบาป (sinful, a sinner)
(5) น้ำลาย, ฟอง (น้ำลายที่ปาก) (saliva, spittle, froth)
กระบวนการประกอบรูป :
๑ อ + กลิ ซ้อน กฺ
: อ + กฺ + กลิ = อกฺกลิ
๒ ลง ว อาคมที่ต้นศัพท์
: ว + อกฺกลิ = วกฺกลิ
“วกฺกลิ” แปลว่า “ผู้ไม่มีโทษ” คือ รูปร่างหน้าสะอาดราวกับแท่งทอง จะหาไฝฝีขี้แมลงวันแต่สักน้อยหนึ่งก็บมิได้มี
ขยายความ :
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต ขยายความไว้ดังนี้ –
…………..
วักกลิ : พระมหาสาวกองค์หนึ่ง เป็นบุตรพราหมณ์ชาวพระนครสาวัตถี เรียนจบไตรเพทตามลัทธิพราหมณ์ บวชในพระพุทธศาสนา ด้วยความอยากเห็นพระรูปพระโฉมของพระศาสดา ครั้นบวชแล้วก็คอยติดตามดูพระองค์ตลอดเวลาจนไม่เป็นอันเจริญภาวนา พระพุทธเจ้าทรงรอเวลาให้ญาณของเธอสุกงอม ครั้นแล้วก็ตรัสเตือนเธอว่า “จะมีประโยชน์อะไรที่ได้เห็นกายเปื่อยเน่านี้ ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา” ดังนี้เป็นต้น และทรงสอนต่อไปด้วยอุบายวิธีจนในที่สุดพระวักกลิก็ได้สำเร็จพระอรหัต และต่อมาได้รับยกย่องจากพระศาสดาว่าเป็นเอตทัคคะในบรรดาศรัทธาธิมุต คือ ผู้มีศรัทธาสนิทแน่ว
…………..
พระพุทธพจน์ที่ตรัสแก่พระวักกลิที่รู้จักกันดีและนิยมนำไปอ้างอิงกันอยู่เสมอ ประดุจ “วรรคทอง” ในประวัติของท่าน ต้นฉบับคำบาลีเต็มๆ มีดังนี้ –
…………..
อลํ วกฺกลิ
อย่าเลย วักกลิ (อย่าตามดูเราอยู่เลย)
กึ เต อิมินา ปูติกาเยน ทิฏฺเฐน ฯ
จะมีประโยชน์อะไรที่ได้เห็นกายเปื่อยเน่านี้
โย โข วกฺกลิ ธมฺมํ ปสฺสติ โส มํ ปสฺสติ
วักกลิ ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา
โย มํ ปสฺสติ โส ธมฺมํ ปสฺสติ ฯ
ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นเห็นธรรม
ธมฺมํ หิ วกฺกลิ ปสฺสนฺโต มํ ปสฺสติ
เป็นความจริง วักกลิ ผู้เห็นธรรมก็ย่อมเห็นเรา
มํ ปสฺสนฺโต ธมฺมํ ปสฺสติ ฯ
ผู้เห็นเราก็ย่อมเห็นธรรม
ที่มา: วักกลิสูตร สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค พระไตรปิฎกเล่ม 17 ข้อ 216
…………..
ดูก่อนภราดา!
: พระธรรมมีอยู่ให้เห็นได้ตลอด
: แต่บางคนตาบอดมองไม่เห็นพระธรรม
#บาลีวันละคำ (4,123)
26-9-66
…………………………….
…………………………….