สัมปรายิกภพ (บาลีวันละคำ 4,156)
สัมปรายิกภพ
คู่แฝดของ “สัมปรายภพ”
อ่านว่า สำ-ปะ-รา-ยิ-กะ-พบ
แยกศัพท์เป็น สัมปรายิก + ภพ
(๑) “สัมปรายิก”
เขียนแบบบาลีเป็น “สมฺปรายิก” อ่านว่า สำ-ปะ-รา-ยิ-กะ ประกอบด้วย สมฺปราย + อิก ปัจจัย
(ก) “สมฺปราย” อ่านว่า สำ-ปะ-รา-ยะ รากศัพท์มาจาก สํ (คำอุปสรรค = พร้อมกัน, ร่วมกัน) + ปร (เบื้องหน้า, ข้างหน้า, อื่นอีก) + อิ (แผลงเป็น อยฺ) หรือ อยฺ (ธาตุ = ไป, ถึง, เป็นไป) + อ (อะ) ปัจจัย, แปลงนิคหิตที่ สํ เป็น ม, ทีฆะ อะ ที่ อ-(ยฺ) เป็น อา (อย > อาย)
: สํ + ปร + อิ > อยฺ = สํปรยฺ + อ = สํปรย > สมฺปรย > สมฺปราย แปลตามศัพท์ว่า “-อันบุคคลพึงถึงพร้อมในเบื้องหน้า (ตามอำนาจของกรรม)” หรือ “-เป็นที่ไปในเบื้องหน้า” หมายถึง ปรโลก, โลกหน้า (future state, the next world)
(ข) สมฺปราย + อิก = สมฺปรายิก (สำ-ปะ-รา-ยิ-กะ) แปลว่า “-อันมีในเบื้องหน้า” หมายถึง เป็นของโลกหน้า (belonging to the next world) คือมีอยู่ในโลกหน้าหรือภพหน้า
“สมฺปรายิก” เขียนแบบไทยเป็น “สัมปรายิก” แต่ในภาษาไทยไม่มีคำที่ใช้เดี่ยวๆ แบบนี้
(๒) “ภพ”
บาลีเป็น “ภว” อ่านว่า พะ-วะ รากศัพท์มาจาก ภู (ธาตุ = มี, เป็น) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, แผลง อู ที่ ภู เป็น โอ แล้วแปลง โอ เป็น อว (ภู > โภ > ภว)
: ภู + ณ = ภูณ > ภู > โภ > ภว (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า (1) “ภาวะที่เจริญ” (2) “เหตุเป็นเครื่องเจริญแห่งเหล่าสัตว์” (3) “ที่เป็นที่เกิดขึ้น” (4) “เหตุที่ทำให้มีการเกิดขึ้น” หมายถึง ความเกิดใหม่, ภพ, รูปกำเนิด, ความมี, ชีวิต (becoming, form of rebirth, state of existence, a life)
บาลี “ภว” ในภาษาไทย แผลง ว เป็น พ จึงเป็น “ภพ”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ภพ : (คำนาม) โลก, แผ่นดิน; วัฏสงสาร. (ป. ภว).”
สมฺปรายิก + ภว = สมฺปรายิกภว (สำ-ปะ-รา-ยิ-กะ-พะ-วะ) แปลตามศัพท์ว่า “ภพอันมีในเบื้องหน้า” หมายถึง โลกหน้า (belonging to the next world)
“สมฺปรายิกภว” ใช้ในภาษาไทยเป็น “สัมปรายิกภพ” อ่านว่า สำ-ปะ-รา-ยิ-กะ-พบ
ขยายความ :
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บคำที่มาจาก “สัมปราย” ไว้ 2 คำ คือ “สัมปรายภพ” และ “สัมปรายิกภพ” บอกไว้ว่า –
“สัมปรายภพ, สัมปรายิกภพ : (คำนาม) ภพหน้า. (ป., ส.).”
ข้อสังเกต :
“สัมปรายภพ” อ่านว่า สำ-ปะ-รา-ยะ-พบ
“สัมปรายิกภพ” อ่านว่า สำ-ปะ-รา-ยิ-กะ-พบ
เฉพาะคำ “สัมปราย-” มักมีผู้อ่านหรือพูดเป็น สำ-ปฺราย คือออกเสียง “-ปราย” เหมือนคำไทยว่า ประปราย หรือ โปรยปราย และคำว่า “สัมปรายภพ” ก็ออกเสียงว่า สำ-ปฺราย-พบ (ไม่มี -ยะ-) ซึ่งเป็นการออกเสียงผิด อันเนื่องมาจากไม่เข้าใจการออกเสียงคำที่มาจากบาลีสันสกฤต (และที่ไม่เข้าใจก็เพราะขาดการศึกษาสังเกตสำเหนียก!)
จึงขอย้ำว่า –
“สัมปราย-” อ่านว่า สำ-ปะ-ราย ไม่ใช่ สำ-ปฺราย
“สัมปรายภพ” อ่านว่า สำ-ปะ-รา-ยะ-พบ ไม่ใช่ สำ-ปฺราย-พบ
ในภาษาไทย เราคุ้นกับคำว่า “สัมปรายภพ” มากกว่า “สัมปรายิกภพ”
เวลาพูดแสดงความปรารถนาดีถึงผู้ล่วงลับไปแล้ว เรามักพูดว่า “ขอจงไปสู่สุคติในสัมปรายภพ” แทบไม่มีใครพูดว่า “ขอจงไปสู่สุคติในสัมปรายิกภพ”
“สัมปรายิกภพ” กับ “สัมปรายภพ” เป็นเสมือนคำคู่แฝด รู้จักคำหนึ่ง ก็ควรรู้จักอีกคำหนึ่งด้วย
แถม :
เวลาพระที่นับถือกันว่าเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบถึงแก่มรณภาพ จะมีท่านจำพวกหนึ่งแสดงความปรารถนาดีด้วยการพูดว่า “ขอให้ท่านไปสู่นิพพานในสัมปรายภพเทอญ”
การพูดเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่?
“นิพพานในสัมปรายภพ” ที่พูดนี้ ผู้พูดเข้าใจว่าคืออะไร? คือ ภพหน้าหรือโลกหน้าชนิดหนึ่งที่มีไว้รองรับผู้บรรลุนิพพานให้ไปเกิด ใช่หรือไม่?
ถ้าเป็นเช่นนี้ นิพพานในพระพุทธศาสนาก็ไม่ใช่การตัดเสียได้ซึ่งสังสารวัฏคือการเวียนเกิดเวียนตายไม่จบสิ้น (destruction of the cycle of rebirths) ทั้งนี้เพราะแม้บรรลุนิพพานแล้วก็ยังต้องไปเกิดในสัมปรายภพอีก แบบนั้นคือนิพพานที่พระพุทธองค์ทรงเห็นแจ้งและบรรลุแล้วกระนั้นหรือ?
…………..
ดูก่อนภราดา!
: นิพพานเพี้ยน
: เพราะไม่เรียน-แต่พูดกันเพลิน
#บาลีวันละคำ (4,156)
29-10-66
…………………………….
…………………………….