บาลีวันละคำ

พรหมจรรย์ (บาลีวันละคำ 1,003)

พรหมจรรย์

อ่านว่า พฺรม-มะ-จัน

บาลีเป็น “พฺรหฺมจริย

ประกอบด้วย พฺรหฺม + จริย

(๑) “พฺรหฺม” รากศัพท์คือ พฺรหฺ (ธาตุ = เจริญ, ประเสริฐ) + ปัจจัย

พฺรหฺม ออกเสียงอย่างไร ?

ลองออกเสียงว่า พะ-ระ-หะ-มะ ช้าๆ แล้วค่อยๆ เร่งให้เร็วขึ้น จะได้เสียงที่ถูกต้องของคำว่า “พฺรหฺม” ในบาลี

แต่โดยทั่วไป นักเรียนบาลีในเมืองไทยออกเสียงว่า พรม-มะ หรือ พรำ-มะ

พฺรหฺม” แปลตามศัพท์ว่า “ผู้เจริญด้วยคุณ” ใช้ในความหมายดังนี้ :

(1) ความดีประเสริฐสุด

(2) คัมภีร์พระเวท, สูตรลึกลับ, คาถา, คำสวดมนต์

(3) เทพผู้ยิ่งใหญ่ในศาสนาพราหมณ์ ถือกันว่าเป็นผู้สร้างจักรวาล

(4) เทวดาพวกหนึ่งที่อยู่บนสรวงสวรรค์ชั้นสูงที่เรียกว่า พรหมโลก

(5) สิ่งศักดิ์สิทธิ์, คนศักดิ์สิทธิ์

ในแง่ตัวบุคคล คำว่า “พรหม” หมายถึง :

(1) เทพสูงสุดหรือพระผู้เป็นเจ้าในศาสนาพราหมณ์

(2) เทพในพรหมโลก เป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องด้วยกาม มี 2 พวกคือ รูปพรหม มี 16 ชั้น อรูปพรหม มี 4 ชั้น

(3) ผู้ประเสริฐด้วยคุณธรรม 4 ประการ คือ เมตตา (ปรารถนาให้อยู่เป็นปกติสุข) กรุณา (ตั้งใจช่วยเพื่อให้พ้นจากปัญหา) มุทิตา (ยินดีด้วยเมื่อมีสุขสมหวัง) อุเบกขา (วางอารมณ์เป็นกลางเมื่อได้ทำหน้าที่ถูกต้องครบถ้วนแล้ว)

(๒) “จริย” (จะ-ริ-ยะ)

รากศัพท์มาจาก จรฺ (ธาตุ = ประพฤติ, ดำเนินไป) + อิย ปัจจัย (บางท่านว่าลง ณฺย ปัจจัย ลบ ลง อิ อาคม ไม่ทีฆะต้นธาตุตามอำนาจของปัจจัยเนื่องด้วย )

(1) : จรฺ + อิย = จริย

(2): จรฺ + อิ = จริ + ณฺย > = จริย

จริย” เป็นคำนามแปลว่า “การประพฤติ” เป็นคุณศัพท์แปลว่า “-ที่ควรประพฤติ

พฺรหฺม + จริย = พฺรหฺมจริย > พรหมจรรย์

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า –

(1) พฺรหฺมจรฺย : (คำนาม) ‘พรหมจรรย์,’ ภาวะของพรหมจาริน; the condition of the religious student.

(2) พฺรหฺมจารินฺ : (คำนาม) ‘พรหมจาริน,’ ผู้ประพฤติพรหมจรรย์; the religious student.

ขอสรุปความหมายของ “พรหมจรรย์” จากพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต มาเสนอไว้ในที่นี้ดังนี้ :

(๑) พรหมจรรย์ ความหมายตามศัพท์คือ “จริยะอันประเสริฐ”, “การครองชีวิตประเสริฐ

(๒) ตามที่เข้าใจกันทั่วไป หมายถึงความประพฤติเว้นเมถุน หรือการครองชีวิตดังเช่นการบวชที่ละเว้นเมถุน กล่าวคือไม่ร่วมประเวณีเป็นหลักสำคัญ และตั้งหน้าขัดเกลาจิตให้บริสุทธิ์

(๓) พรหมจรรย์ ยังมีความหมายอีกมากหลาย ดังที่อรรถกถาแห่งหนึ่งประมวลไว้ 10 นัย คือหมายถึง (1) ทาน (2) ไวยาวัจจะ (คือการขวนขวายช่วยเหลือรับใช้ทำประโยชน์) (3) เบญจศีล (4) พรหมวิหารสี่ (5) เมถุนวิรัติ (คือการเว้นเมถุน) (6) สทารสันโดษ (คือความพอใจเฉพาะภรรยาหรือคู่ครองของตน) (7) ความเพียร (8) การรักษาอุโบสถ (9) อริยมรรค (10) พระศาสนา (อันรวมไตรสิกขาทั้งหมด)

(๔) “พรหมจรรย์” เป็นคำที่พระพุทธเจ้าตรัสเรียกหลักคำสอนของพระองค์เมื่อทรงเริ่มประกาศพระศาสนา พรหมจรรย์จึงหมายถึงตัวพระพุทธศาสนาทั้งหมดนั่นเอง

(๕) ในศาสนาพราหมณ์ พรหมจรรย์ หมายถึงการครองชีวิตเว้นเมถุนและประพฤติปฏิบัติตนเคร่งครัดต่างๆ ที่จะควบคุมตนให้มุ่งมั่นในการศึกษาได้เต็มที่ อันหมายถึงการศึกษาพระเวท และหมายถึงช่วงเวลาหรือขั้นตอนของชีวิตที่พึงอุทิศเพื่อการศึกษาอย่างนั้น

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

พรหมจรรย์ : (คำนาม) การศึกษาปรมัตถ์, การศึกษาพระเวท; การถือพรตบางอย่าง เช่นเว้นเมถุนเป็นต้น, การบวชซึ่งเว้นเมถุนเป็นต้น. (ส.).”

คำว่า “พรหมจรรย์” ในภาษาไทยมักมีผู้ใช้ในความหมายว่า ความบริสุทธิ์ของสตรีซึ่งไม่เคยร่วมประเวณีมาก่อน

: ถ้าใจไม่บริสุทธิ์ พรหมจรรย์ก็อุตลุดอลเวง

: ขัดเกลาจิตใจให้บริสุทธิ์ พรหมจรรย์ก็ผุดขึ้นมาเอง

15-2-58

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย