วจนักขมะ (บาลีวันละคำ 4,235)
วจนักขมะ
คุณสมบัติข้อหนึ่งของครู
อ่านว่า วะ-จะ-นัก-ขะ-มะ
“วจนักขมะ” เขียนแบบบาลีเป็น “วจนกฺขม” อ่านว่า วะ-จะ-นัก-ขะ-มะ แยกศัพท์เป็น วจน + ขม
(๑) “วจน”
อ่านว่า วะ-จะ-นะ รากศัพท์มาจาก วจฺ (ธาตุ = พูด) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ)
: วจฺ + ยุ > อน = วจน แปลตามศัพท์ว่า “คำอันเขาพูด” “คำเป็นเครื่องพูด” หมายถึง คำพูด การกล่าว, การพูด, วาจา (word, saying, speech)
(๒) “ขม”
อ่านว่า ขะ-มะ รากศัพท์มาจาก ขมฺ (ธาตุ = อดทน, อดกลั้น) + อ (อะ) ปัจจัย
: ขมฺ + อ = ขม แปลตามศัพท์ว่า “ความอดทน” “ความอดกลั้น”
“ขม” ในบาลี ใช้เป็นคุณศัพท์ มีความหมายดังนี้ –
(1) อดทน, อภัยให้ (patient, forgiving)
(2) อดกลั้น, ทนได้, แข็งแกร่งต่อ [ความหนาวและความร้อน], เหมาะแก่ (enduring, bearing, hardened to [frost & heat], fit for)
วจน + ขม ซ้อน กฺ ระหว่างศัพท์
: วจน + กฺ + ขม = วจนกฺขม (วะ-จะ-นัก-ขะ-มะ) แปลว่า “ผู้อดทนต่อถ้อยคำ” (a meek words)
“วจนกฺขม” เขียนแบบไทยเป็น “วจนักขมะ”
ขยายความ :
“วจนักขมะ” เป็นคุณสมบัติข้อหนึ่งของครู ดังข้อความแสดงคุณสมบัติของกัลยาณมิตรในพระไตรปิฎกดังนี้ –
…………..
ปิโย ครุ ภาวนีโย
วตฺตา จ วจนกฺขโม
คมฺภีรญฺจ กถํ กตฺตา
โน จฏฺฐาเน นิโยชเย.
(ปิโย คะรุ ภาวะนีโย
วัตตา จะ วะจะนักขะโม
คัมภีรัญจะ กะถัง กัตตา
โน จัฏฐาเน นิโยชะเย.)
ที่มา: อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต พระไตรปิฎกเล่ม 23 ข้อ 34
…………..
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต ข้อ [278] อธิบายขยายความไว้ดังนี้ –
…………..
1. ปิโย (น่ารัก ในฐานเป็นที่สบายใจและสนิทสนม ชวนให้อยากเข้าไปปรึกษา ไต่ถาม — lovable; endearing)
2. ครุ (น่าเคารพ ในฐานประพฤติสมควรแก่ฐานะ ให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นใจ เป็นที่พึ่งใจ และปลอดภัย — estimable; respectable; venerable)
3. ภาวนีโย (น่าเจริญใจ หรือน่ายกย่อง ในฐานทรงคุณคือความรู้และภูมิปัญญาแท้จริง ทั้งเป็นผู้ฝึกอบรมและปรับปรุงตนอยู่เสมอ ควรเอาอย่าง ทำให้ระลึกและเอ่ยอ้างด้วยซาบซึ้งภูมิใจ — adorable; cultured; emulable)
4. วตฺตา จ (รู้จักพูดให้ได้ผล รู้จักชี้แจงให้เข้าใจ รู้ว่าเมื่อไรควรพูดอะไรอย่างไร คอยให้คำแนะนำว่ากล่าวตักเตือน เป็นที่ปรึกษาที่ดี — being a counsellor)
5. วจนกฺขโม (อดทนต่อถ้อยคำ คือ พร้อมที่จะรับฟังคำปรึกษาซักถามคำเสนอแนะวิพากษ์วิจารณ์ อดทน ฟังได้ไม่เบื่อ ไม่ฉุนเฉียว — being a patient listener)
6. คมฺภีรญฺจ กถํ กตฺตา (แถลงเรื่องล้ำลึกได้ สามารถอธิบายเรื่องยุ่งยากซับซ้อน ให้เข้าใจ และให้เรียนรู้เรื่องราวที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไป — able to deliver deep discourses or to treat profound subjects)
7. โน จฏฺฐาเน นิโยชเย (ไม่ชักนำในอฐาน คือ ไม่แนะนำในเรื่องเหลวไหล หรือชักจูงไปในทางเสื่อมเสีย — never exhorting groundlessly; not leading or spurring on to a useless end)
…………..
ถ้าไม่รังเกียจคำบาลี ขอฝาก “วจนักขมะ” คำนี้ ไปพูดกันในภาษาไทยอีกสักคำ
…………..
ดูก่อนภราดา!
ค ครู – ค คน – ค ควาย :
: ถ้าเห็นว่า “ไหว้ครู” เป็นความงมงาย
: ก็ควรเป็นควายดีกว่าเป็นคน
#บาลีวันละคำ (4,235)
16-1-67
…………………………….
…………………………….