บาลีวันละคำ

เหลือขอ (บาลีวันละคำ 4,336)

เหลือขอ

เรียนรู้คำไทย ก้าวไปถึงคำบาลี

ผู้เขียนบาลีวันละคำได้อ่านข้อความในโพสต์ของญาติมิตรท่านหนึ่งกล่าวถึงการบำเพ็ญจิตอาสา รวบรวมสิ่งของช่วยผู้ขัดสน ท่านใช้คำว่า “เหลือขอ

เห็นคำและวิธีเขียนก็เข้าใจได้ว่า หมายถึง ใครมีสิ่งของเหลือเฟือ คือมีมาก “เหลือ” จากที่ใช้อยู่ ก็ “ขอ” คือขอรับบริจาคเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ขัดสนจนยากต่อไป

คำว่า “เหลือขอ” ที่เขียนแบบนี้ ก็คือเขียนล้อคำว่า “เหลือขอ” ที่มีใช้อยู่ในภาษาไทย

คำว่า “เหลือขอ” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า – 

เหลือขอ : (คำวิเศษณ์) ดื้อมาก, เอาไว้ไม่อยู่.”

เท่าที่ทราบมา “ขอ” ในคำว่า “เหลือขอ” หมายถึง เครื่องมือสำหรับบังคับช้าง

ดูที่คำว่า “ขอ” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า – 

ขอ ๑ : (คำนาม) ไม้หรือเหล็กที่งอ ๆ สำหรับชัก เกี่ยว แขวน หรือสับ, ตะขอ หรือ ตาขอ ก็เรียก.”

ตามคำนิยามในพจนานุกรมฯ ไม่ได้ระบุชัดว่า “ขอ” ใช้สำหรับบังคับช้าง

ดูคำอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 มีดังนี้ –

(1) ตาขอ : (คำนาม) ไม้หรือเหล็กที่งอ ๆ สำหรับชัก เกี่ยว แขวน หรือสับ, ขอ หรือ ตะขอ ก็ว่า.

(2) ของ้าว : (คำนาม) อาวุธด้ามยาวมีง้าวอยู่ตรงปลาย ใต้คอของด้ามมีขอสำหรับสับบังคับช้างได้, ราชาศัพท์ว่า พระแสงของ้าว.

(3) ง้าว ๑ : (คำนาม) อาวุธชนิดหนึ่ง คล้ายดาบ มีด้ามยาว, ถ้าใต้คอของด้ามมีขอสำหรับสับบังคับช้างได้ เรียกว่า ของ้าว.

เป็นอันยืนยันว่า เครื่องมือสำหรับบังคับช้างเรียกว่า “ขอ

เมื่อจะบังคับช้างให้ทำตามที่ต้องการ ผู้บังคับซึ่งมีคำเรียกเฉพาะว่า “ควาญ” หรือ “ควาญช้าง” จะใช้ขอสับที่อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งบริเวณกกหูหรือคอช้างซึ่งคงได้เรียนรู้กันแล้วว่าเป็นจุดที่ช้างจะรู้สึกเจ็บมาก และจะยอมทำตามโดยง่าย

แต่ช้างบางเชือก หรือบางเวลา เช่นเวลาตกมัน จะดื้อและดุมาก ไม่ยอมทำตาม ใช้ขอสับท่าไหนก็เอาไม่อยู่ มีคำเรียกว่า “ช้างเหลือขอ” เอาลักษณะอย่างนี้มาใช้เรียกคนที่ดื้อด้าน สอนไม่ฟังสั่งไม่รับ ตัดคำลงเป็น “เหลือขอ” หมายถึง ดื้อมาก, เอาไว้ไม่อยู่

ขยายความ :

คำว่า “ขอ” “ตาขอของ้าว” “ง้าว” ที่ใช้กับช้าง ภาษาบาลีว่าอย่างไร?

อุปกรณ์ที่ใช้บังคับช้าง คัมภีร์สุมังคลวิลาสินี (อรรถกถาพระสูตรส่วนที่เป็นทีฆนิกาย) ภาค 2 หน้า 515 ขยายความในสักกปัญหสูตร บอกไว้ว่ามี 3 อย่าง คือ –

(1) “ตุตฺต” อ่านว่า ตุด-ตะ เขียนแบบไทยเป็น “ตุตตะ” อ่านว่า ตุด-ตะ

(2) “โตมร” อ่านว่า โต-มะ-ระ เขียนแบบไทยเป็น “โตมร” อ่านว่า โต-มอน

(3) “องฺกุส” อ่านว่า อัง-กุ-สะ เขียนแบบไทยเป็น “อังกุส” อ่านว่า อัง-กุด

แสดงลักษณะไว้ดังนี้ –

(1) ตุตฺตํ  วุจฺจติ  กณฺณมูเล  วิชฺฌนอยกณฺฏโก.

เหล็กแหลมที่ใช้แทงกกหูเรียกว่า “ตุตตะ” (ปฏัก) 

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “ตุตฺต” ว่า a pike for guiding elephants, a goad for driving cattle (ปฏักที่ควาญช้างใช้, ปฏักใช้กับวัวควาย) 

(2) โตมรนฺติ  ปาทาทีสุ  วิชฺฌนทณฺฑโตมรํ.

หอกมีด้ามใช้แทงเท้าเป็นต้น เรียกว่า “โตมร” (หอก) 

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “โตมร” ว่า a pike, spear, lance, esp. the lance of an elephant-driver (โตมร, หอก, หลาว, โดยเฉพาะคือตาขอสับของควาญช้าง)

(3) องฺกุโสติ  มตฺถเก  วิชฺฌนกกุฏิลกณฺฏโก.

เหล็กแหลมงอใช้สับตะพองช้าง เรียกว่า “อังกุส” (ขอ) 

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “องฺกุส” ว่า a hook, a pole with a hook (ตาขอ, ไม้ตาขอ) ขยายความว่า for driving an elephant, a goad (สำหรับบังคับช้าง, ปฏัก) 

…………..

ดูก่อนภราดา!

: รู้จักคำ ใช้คำให้ชอบกล

: รู้จักคน ใช้คนให้ชอบการณ์

#บาลีวันละคำ (4,336)

26-4-67

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *