บาลีวันละคำ

กาสาวพัสตร์ [2] (บาลีวันละคำ 4,485)

กาสาวพัสตร์ [2]

ก็ยังมีคนวัดสะกดผิดไม่เลิก

อ่านว่า กา-สา-วะ-พัด

คำที่อ่านว่า -พัด ในคำว่า กา-สา-วะ-พัด ภาษาไทยสะกดเป็น “-พัสตร์

“-พัสตร์” พอ-ไม้หันอากาศ-สอ-ตอ-รอ การันต์

ไม่ใช่ “-พัตร

กาสาวพัสตร์” ไม่ใช่ “กาสาวพัตร

กาสาวพัสตร์” ไม่ใช่ “กาสาวพัตร

กาสาวพัสตร์” ไม่ใช่ “กาสาวพัตร

คำนี้ต้องตั้งหลักกันให้ดี อย่าให้หลงกลพจนานุกรมฯ

กาสาวพัสตร์” ประกอบด้วยคำว่า กาสาว + พัสตร์ 

(๑) “กาสาว” 

อ่านว่า กา-สา-วะ รูปศัพท์เดิมมาจาก กสาว + ปัจจัย

(ก) “กสาว” (กะ-สา-วะ) รากศัพท์มาจาก –

(1) (น้ำ) + สิ (ธาตุ = เสพ, กิน) + อว ปัจจัย, แปลง อิ (ที่ สิ) เป็น อา

: + สิ = กสิ > กสา + อว = กสาว แปลตามศัพท์ว่า “รสเป็นเหตุให้ดื่มน้ำ” (เมื่อรสชนิดนี้ไปกลั้วที่คอ ก็จะเกิดอาการอยากดื่มน้ำ)

(2) (น้ำ) + สุ (ธาตุ = ฟัง) + (อะ) ปัจจัย, แปลง อุ (ที่ สุ) เป็น โอ, แปลง โอ เป็น อาว

: + สุ = กสุ > กโส > กสาว + = กสาว แปลตามศัพท์ว่า “รสที่ยังน้ำให้ได้ยิน” (คือทำให้เรียกหาน้ำ)

กสาว” มีความหมายหลายอย่าง คือ :

(1) ดินเปียก หรือยางชนิดหนึ่งที่ใช้เป็นสีทาฝาผนัง (a kind of paste or gum used in colouring walls)

(2) น้ำยาห้ามเลือดที่ต้มกลั่นจากพันธุ์ไม้ (an astringent decoction extracted from plants)

(3) (น้ำ) มีรสฝาด (astringent)

(4) (ผ้า) มีสีเหลืองปนแดง, มีสีส้ม (reddish-yellow, orange coloured)

(5) (ความหมายทางธรรม) อกุศลมูล, กิเลสที่ย้อมดุจน้ำฝาด (the fundamental faults)

(ข) กสาว + ปัจจัย, ลบ , ทีฆะ อะ (ที่ -) เป็น อา (ตามสูตรบาลีไวยากรณ์ว่า “ด้วยอำนาจปัจจัยที่เนื่องด้วย ”)

: กสาว + = กสาว > กาสาว แปลตามศัพท์ว่า “-ที่ย้อมด้วยนำฝาด

โปรดสังเกตว่า คำเดิมคือ “กสาว” (กะ–) = น้ำฝาด

เมื่อใช้เป็นคุณศัพท์ จึงเป็น “กาสาว” (กา–) = “-ที่ย้อมด้วยนำฝาด

อนึ่ง “กสาว” ใช้เป็น “กสาย” (กะ-สา-ยะ) ก็มี 

และ “กาสาว” ใช้เป็น “กาสาย” (กา-สา-ยะ) ก็มี

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

กาสาว-, กาสาวะ : (คำนาม) ผ้าย้อมฝาด, เขียนเป็น กาสาว์ ก็มี. (ป.).”

(๒) “พัสตร์” 

บาลีเป็น “วตฺถ” อ่านว่า วัด-ถะ รากศัพท์มาจาก –

(1) วสฺ (ธาตุ = ปกปิด) + ปัจจัย, แปลง สฺ (ที่ วสฺ) เป็น ตฺ

: วสฺ + = วสฺถ > วตฺถ แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งอันเขาปกปิดร่างกาย

(2) วุ (ธาตุ = ปิด, กั้น) + ปัจจัย, ซ้อน ตฺ ระหว่างธาตุกับปัจจัย (วุ + ตฺ + ถ), แปลง อุ ที่ วุ เป็น อะ (วุ > )

: วุ + ตฺ + = วุตฺถ > วตฺถ แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งเป็นเครื่องป้องกันร่างกาย” 

วตฺถ” (นปุงสกลิงค์) หมายถึง ผ้า; เสื้อผ้า, เครื่องนุ่งห่ม, เครื่องแต่งตัว (cloth; clothing, garment, raiment)

บาลี “วตฺถ” สันสกฤตเป็น “วสฺตฺร

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –

วสฺตฺร : (คำนาม) ‘วัสตร์, พัสตร์,’ ผ้า, เสื้อผ้า, เครื่องนุ่งห่มหรือแต่งตัว; cloth, clothes, raiment, covering for the body.”

บาลี “วตฺถ” ภาษาไทยใช้เป็น “วัตถ์” และเขียนอิงรูปคำสันสกฤต “วสฺตฺร” แปลง เป็น : วสฺ– > พสฺ– = พัสตร > พัสตร์ 

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ดังนี้ –

(1) วัตถ์ : (คำนาม) ผ้า, เสื้อผ้า, เครื่องนุ่งห่ม. (ป.; ส. วสฺตฺร).

(2) พัสตร์ : (คำนาม) ผ้า, เขียนเป็น พัตร ก็มี. (ส. วสฺตฺร; ป. วตฺถ).

(3) พัตร : (คำนาม) พัสตร์, ผ้า. (ส. วสฺตฺร; ป. วตฺถ).

กาสาว + วตฺถ = กาสาววตฺถ (กา-สา-วะ-วัด-ถะ) แปลว่า “ผ้าที่ย้อมด้วยนำฝาด” หมายถึง เครื่องนุ่งห่มของบรรพชิต โดยเฉพาะนักบวชในพระพุทธศาสนา (cloth dyed with astringent decoction; the yellow robe; ochre robes) 

กาสาววตฺถ” ในภาษาไทยใช้เป็น “กาสาวพัสตร์” (กาสาววตฺถ > กาสาววสฺตฺร > กาสาวพัสตร์

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

กาสาวพัสตร์ : ผ้าย้อมฝาด คือผ้าเหลืองพระ. (ป. กาสาว + ส. วสฺตร ว่า ผ้า).”

ข้อควรระวัง :

(๑) คำว่า “กาสาวพัสตร์” –พัตร์ ส เสือ สะกด แล้วจึงตามด้วย –ตร์ ไม่ใช่ “กาสาวพัตร์” หรือ “กาสาวพัตร

(๒) คำว่า “พัสตร์” แม้พจนานุกรมฯ จะบอกว่า “เขียนเป็น พัตร ก็มี” (คือ พัต- ต สะกด ไม่มี ส, และ ตร ไม่มีการันต์) แต่ คำว่า “กาสาวพัสตร์” พจนานุกรมฯ ไม่ได้บอกว่า “เขียนเป็น กาสาวพัตร ก็มี”

เพราะฉะนั้น ถ้าเขียน “พัสตร์” คำเดียว จะสะกดเป็น “พัตร” ก็ได้ แต่ถ้ามีคำว่า “กาสาว-” นำหน้า ต้องสะกดเป็น “กาสาวพัสตร์” ไม่ใช่ “กาสาวพัตร

ถ้าพิจารณาดูให้ดี จะเห็นว่าที่สะกดเป็น “พัตร” นั้น เป็นการเขียนผิดโดยแท้ ทั้งนี้เพราะคนเขียนเข้าใจผิด ได้ยินเสียง -พัด ก็สะกดตามใจนึกเป็น “พัตร” หาได้เฉลียวใจคิดไม่ว่าคำเดิมเป็น วตฺถ > วสฺตฺร >พัสตร > พัสตร์

ถ้าพูดอย่างไม่เกรงใจพจนานุกรมฯ ก็ต้องบอกว่า คำนิยามที่คำว่า “พัสตร์” ที่ว่า “เขียนเป็น พัตร ก็มี” นั้น เท่ากับไปยอมรับคำผิดว่าเป็นถูก สมควรตัดออก

คำเทียบที่เป็นตัวอย่างการยอมรับว่าผิดเป็นถูก เช่นคำว่า “ดูกร”

คำว่า “ดูก่อน” อักขรวิธีของคนเก่าเขียนเป็น “ดูกร” ต้องอ่าน ดู-ก่อน

แต่คนที่ไม่เข้าใจอักขรวิธีของคนเก่า ไปหลงอ่านตามที่ตาเห็นว่า ดู-กะ-ระ แล้วก็พากันยอมรับว่า “ดูกร” อ่านว่า ดู-กะ-ระ ถูกต้อง ทั้ง ๆ ที่ผิดเต็ม ๆ

“ดูกร” อ่านว่า ดู-ก่อน 

ไม่ใช่ ดู-กะ-ระ

แทนที่จะบอกกันว่า “ดูกร” อ่านว่า ดู-กะ-ระ เป็นการอ่านผิด กลับบอกกันว่า “ดูกร” อ่านว่า ดู-กะ-ระ ก็ได้ อ่านว่า ดู-กะ-ระ ก็ถูก

ผิดจึงกลายเป็นถูกมาจนทุกวันนี้

มิหนำซ้ำยังช่วยกันตั้งทฤษฎี “ภาษาเป็นสิ่งสมมุติ” อธิบายว่า ไม่มีผิดไม่ถูกในตัวเอง แล้วแต่จะตกลงกัน

ปิดโอกาสที่จะช่วยกันแก้ไขผิดให้กลับเป็นถูก

แต่เปิดโอกาสให้ช่วยกันทำผิดให้กลายเป็นถูกได้เรื่อยไป

…………..

ดูก่อนภราดา!

: การเข้าใจผิด เป็นเรื่องธรรมดา

: แต่การยอมรับว่าผิดเป็นถูก เป็นเรื่องผิดธรรมดา

#บาลีวันละคำ (4,485)

22-9-67 

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *