โกหก (บาลีวันละคำ 684)
โกหก
ภาษาไทยอ่านว่า โก-หก
มีคำถามว่า-เนื่องจากวันนี้ (1 เมษายน) เป็นวัน april fool’s day ซึ่งผู้คนจะโกหกกันเพื่อให้ขำขัน จึงอยากถามว่า
1. โกหก มาจากภาษาอะไร รากศัพท์คืออะไร
2.การโกหกเช่นนี้ถือว่าเป็นมุสาวาทหรือไม่
ข้อ ๑ :
ในคัมภีร์ มีคำว่า “กุหก” (กุ-หะ-กะ) รากศัพท์มาจาก กุหฺ (ธาตุ = โกง, ลวง) + ณฺวุ (ปัจจัย = ผู้-) แปลง ณฺวุ เป็น อก (อะ-กะ) = กุหก แปลตามศัพท์ว่า “ผู้หลอกลวง” ใช้เป็นคุณศัพท์ หมายถึง โกหก, โกง, หลอกลวง, ฉ้อฉล, ปลอม, เก๊ (deceitful, fraudulent, false)
ตามกระบวนการไวยากรณ์ “กุหก” สามารถกลายเป็น “โกหก” ได้ โดยการแผลง อุ (ที่ กุ-) เป็น โอ (ภาษาบาลีไวยากรณ์พูดว่า “พฤทธิ์ อุ เป็น โอ”) : กุหก > โกหก อ่านตามบาลีว่า โก-หะ-กะ
ในคัมภีร์ไม่พบศัพท์ “โกหก” นอกจาก “กุหก” ก็มี “กุหนา” (กุ-หะ-นา) และ “โกหญฺญ” (โก-หัน-ยะ) เป็นอาการนาม แปลว่า ความหลอกลวง, มารยา (hypocrisy, deceit)
ในภาษาไทย พจน.54 บอกไว้ว่า –
“โกหก : (คำกริยา) จงใจกล่าวคําที่ไม่จริง, พูดปด, พูดเท็จ, (มักใช้ในที่ไม่สุภาพ). (บาลี., สันสกฤต. กุหก)”
ในภาษาไทยมีคำว่า “กุ” หมายถึง “สร้างให้เป็นเรื่องเป็นข่าวขึ้นโดยไม่มีมูล” อาจมีมูลมาจาก “กุหก” “กุหนา” ก็ได้
ข้อ ๒ :
การพูดโกหก เรียกเป็นศัพท์ว่า “มุสาวาท” ท่านกำหนดเกณฑ์ตัดสินความเป็นมุสาวาท หรือเกณฑ์ที่จะนับว่าศีลขาดไว้ว่า ต้องครบองค์ประกอบ ๔ ข้อ คือ –
1. อตถํ วตฺถุํ = เรื่องไม่จริง
2. วิสํวาทนจิตฺตํ = มีเจตนาจะโกหก
3. ตชฺโช วายาโม = พูดสำเร็จ
4. ปรสฺส ตทตฺถวิชานนํ = ผู้อื่นเข้าใจตามเจตนา
ข้อควรระวัง :
1. การโกหกเป็นมุสาวาทหรือศีลขาดแน่นอนถ้าครบองค์ประกอบ โกหกจริงหรือโกหกเล่นไม่เป็นประมาณ
2. โทษหรือน้ำหนักแห่งความผิด แตกต่างกันไป (1) ตามลักษณะแห่งความเสียหายที่จะเกิดขึ้น (2) ตามฐานะของผู้ถูกทำให้เสียหาย (เช่น โกหกพระเจ้าแผ่นดิน มีโทษมากกว่าโกหกคนธรรมดา) และ (3) ตามความรุนแรงของเจตนา (เช่น โกหกด้วยความเคียดแค้นตั้งใจจะให้เขาฉิบหายวายป่วง มีโทษมาก โกหกเล่นสนุกๆ มีโทษน้อย)
: คำจริงจากปากคนคด
: ร้ายกว่าคำปดจากปากคนตรง
————–
(ข้อเสนอแนะและคำถามของ Suriya Thammalungga)
1-4-57