บาลีวันละคำ

อธิกสุรทิน (บาลีวันละคำ 1,370)

อธิกสุรทิน

อ่านว่า อะ-ทิ-กะ-สุ-ระ-ทิน

ประกอบด้วย อธิก + สุรทิ

(๑) “อธิก

บาลีอ่านว่า อะ-ทิ-กะ รากศัพท์มาจาก อธิ (คำอุปสรรค = ยิ่ง, ใหญ่, ทับ) + อิ (ธาตุ = เป็นไป) + ปัจจัย

: อธิ + อิ = อธิ + = อธิก แปลตามศัพท์ว่า “เป็นไปยิ่ง” หมายถึง ยิ่ง, พิเศษ, ทับ, เหนือกว่า (exceeding, extra-ordinary, superior)

อธิก” ถ้าใช้นำหน้าคำที่นับเป็นจำนวนได้ มีความหมายว่า เพิ่มขึ้นอีก, รวมด้วย, บวก (in addition, with an additional, plus)

(๒) “สุรทิน” ประกอบด้วย สุร + ทิน

๑) “สุร” บาลีเป็น “สูร” (สู-ระ) รากศัพท์มาจาก –

(1) สูร (กล้า) + ปัจจัย

: สูร + = สูร แปลตามศัพท์ว่า “ดวงไฟที่ยังความกล้าหาญให้เกิดขึ้นแก่ชาวโลก

(2) สุ (ธาตุ = หลั่งไหล) + ปัจจัย, ทีฆะ อุ ที่ สุ เป็น อู

: สุ + = สุร > สูร แปลตามศัพท์ว่า “ดวงไฟที่หลั่งความกล้าหาญให้แก่มนุษย์ในปฐมกัป

(3) สุ (ธาตุ = เบียดเบียน) + อูร ปัจจัย

: สุ + อูร = สูร แปลตามศัพท์ว่า “ดวงไฟที่เบียดเบียนความกลัวของสัตวโลกด้วยการกำจัดความมืดไป

สูร” หมายถึง ดวงอาทิตย์ (the sun)

๒) “ทิน” (ทิ-นะ) รากศัพท์มาจาก –

(1) ทา (ธาตุ = ให้) + อิน ปัจจัย, ลบ อา (ที่ ทา)

: ทา > + อิน = ทิน แปลตามศัพท์ว่า “ช่วงเวลาที่ให้ความพยายามและความยืนหยัด” ความหมายนี้หมายถึง “กลางวัน” อันเป็นช่วงเวลาที่คนทั้งหลายลุกขึ้นมาทำการงาน

(2) ทิวุ (ธาตุ = รื่นเริง, สนุกสนาน) + ปัจจัย, แปลง วุ (ที่ ทิวุ) เป็น นฺ

: ทิวุ > ทิน + = ทิน แปลตามศัพท์ว่า “ช่วงเวลาเป็นที่รื่นเริง” ความหมายนี้ก็หมายถึง “กลางวัน” อันเป็นช่วงเวลาที่มีแสงสว่าง พ้นจากเวลาที่มืดมิด ทำให้เกิดอาการกระปรี้กระเปร่า

(3) ที (ธาตุ = สิ้นไป) + อิน ปัจจัย, ลบ อี (ที่ ที)

: ที > + อิน = ทิน แปลตามศัพท์ว่า “ช่วงเวลาเป็นเหตุสิ้นไปแห่งอายุ” ความหมายนี้หมายถึงทั้งกลางวันและกลางคืน คือที่เรียกรวมว่า “วัน” เมื่อวันล่วงไปๆ อายุ คือช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่ ก็หมดไป

ทิน” หมายถึง วัน, กลางวัน (day)

สูร + ทิน = สูรทิน > สุรทิน (อ่านแบบบาลี สุ-ระ-ทิ-นะ อ่านแบบไทย สุ-ระ-ทิน) แปลว่า “วันตามระบบสุริยคติ” หมายถึง “วันที่” ในเดือนสุริยคติ (คือเดือนมกรา กุมภา ฯลฯ)

 อธิก + สุรทิน = อธิกสุรทิน แปลว่า “วันที่ (ในเดือนทางสุริยคติ) ที่เพิ่มขึ้น

อธิกสุรทิน” หมายถึง ปีที่มี “วันที่” เพิ่มขึ้นอีก 1 วัน ทางโหราศาสตร์กำหนดให้เพิ่มในเดือนกุมภาพันธ์ คือเพิ่มวันที่ 29 กุมภาพันธ์ อีกวันหนึ่ง (ปกติเดือนกุมภาพันธ์หมดเพียงวันที่ 28)

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

อธิกสุรทิน : (คำนาม) วันที่เพิ่มขึ้นในปีสุริยคติ คือ ในปีนั้นเพิ่มวันเข้าในเดือนกุมภาพันธ์อีก ๑ วัน เป็น ๒๙ วัน.”

ความรู้:

ในทางโหราศาสตร์ มีคำที่ขึ้นต้นด้วย อธิก– 3 คำ คือ –

(๑) อธิกมาส : “เดือนเกิน” หมายถึง ปีที่มีเดือน 8 สอง 8

(๒) อธิกวาร : “วันเกิน” หมายถึง ปีที่เดือน 7 มีแรม 15 ค่ำ

(๓) อธิกสุรทิน : “วันที่เกิน” หมายถึง ปีที่มีวันที่ 29 กุมภาพันธ์

การที่ต้องกำหนดให้มีวันเกินเดือนเกินนั้นเป็นเหตุผลทางโหราศาสตร์ คือเพื่อทำให้วันเดือนปีทางสุริยคติกับจันทรคติให้สมดุลกัน และเพื่อทำให้วันเดือนปีสมดุลกับฤดูกาลตามธรรมชาติ

อธิกสุรทินจะมีในปีใด เป็นไปตามหลักการคำนวณทางโหราศาสตร์ ตามปกติตกอยู่ในรอบ 4 ปีมีหนึ่งครั้ง

: ไม่มีอะไรเกินหรือขาด ถ้ารู้จักฉลาดทำให้พอดี

29-2-59

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย