สมานฉันท์ (บาลีวันละคำ 796)
สมานฉันท์
อ่านว่า สะ-มา-นะ-ฉัน ก็ได้ สะ-หฺมาน-นะ-ฉัน ก็ได้
(ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554)
โปรดสังเกต :
(1) จะอ่านว่า สะ-มา หรือ สะ-หฺมาน ก็ต้องตามด้วย –นะ-ฉัน
(2) คำนี้มีผู้อ่านหรือพูดว่า สะ-หฺมาน-ฉัน (ไม่มี -นะ-) อยู่บ่อยๆ เป็นคำอ่านที่ไม่ถูกต้อง
“สมานฉันท์” ประกอบด้วยคำว่า สมาน + ฉันท์
บาลีเป็น สมาน + ฉนฺท
“สมาน” (สะ-มา-นะ) แปลว่า เหมือนกัน, เสมอกัน, เท่ากัน, อย่างเดียวกัน (similar, equal, even, same)
“ฉนฺท” (ฉัน-ทะ) มีความหมาย 3 อย่าง คือ –
(1) ความพอใจ, ความรักใคร่, ความชอบใจ, ความยินดี, ความต้องการ, ความปรารถนา, ความอยาก, ความประสงค์, สิ่งกระตุ้นใจ, แรงดลใจ, ความมีใจรักในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง (impulse, excitement; intention, resolution, will; desire for, wish for, delight in)
(2) ความยินยอม, ความยอมให้ที่ประชุมทำกิจนั้น ๆ ในเมื่อตนมิได้ร่วมอยู่ด้วย (consent, declaration of consent) ความหมายนี้คือที่เราพูดว่า “มอบฉันทะ”
(3) เป็นชื่อเรียกข้อความที่แต่งเป็นร้อยกรอง ที่ภาษาไทยพูดว่า “กาพย์กลอนโคลงฉันท์” บาลีไม่ได้เรียกแยกชนิดเหมือนไทย คงเรียกรวมทุกอย่างว่า “ฉนฺท” แต่มีชื่อเฉพาะสำหรับฉันท์แต่ละชนิด เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “คาถา” (verse, poetry)
ในที่นี้ “ฉนฺท” มีความหมายตามข้อ (1)
สมาน + ฉนฺท = สมานจฺฉนฺท (ซ้อน จฺ ระหว่าง –น– กับ –ฉนฺ-) อ่านว่า สะ-มา-นัด-ฉัน-ทะ ใช้ในภาษาไทยว่า “สมานฉันท์”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“สมานฉันท์ : (คำนาม) ความพอใจร่วมกัน, ความเห็นพ้องกัน, เช่น มีความเห็นเป็นสมานฉันท์. (ป. สมาน + ฉนฺท)”
คำว่า “สมานฉันท์” มักมีผู้เข้าใจว่า หมายถึงเคยโกรธเคืองขุ่นข้องหมองใจกันมาก็กลับมาปรองดองคืนดีกันเหมือนเดิม
ความหมายตามรากศัพท์จะเห็นได้ว่า “สมานฉันท์” ไม่ต้องอ้างอิงพาดพิงถึงความโกรธเคืองขุ่นข้องหมองใจกันมาแต่ก่อนเลย
คนไม่ถูกกัน ถ้าเห็นพ้องกันในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ก็เรียกได้ว่ามีสมานฉันท์กัน ทั้งๆ ที่ยังโกรธกันอยู่
เพื่อนกัน ถ้าเห็นต่างกันในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ก็เรียกว่าไม่สมานฉันท์กัน ทั้งๆ ที่ยังรักใคร่กันเป็นปกติ
ส่วนการที่เคยโกรธเคืองขัดแย้งกันมาก่อนแล้วกลับมาปรองดองคืนดีกันเหมือนเดิม ภาษาบาลีใช้คำว่า “สามคฺคี”
แต่ในภาษาไทย คำว่า “สามัคคี” หมายถึงความพร้อมเพรียงกัน ร่วมมือร่วมใจกัน โดยไม่จำเป็นว่าจะเคยโกรธเคืองกันมาก่อนหรือไม่
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต บอกความหมายของคำว่า “สมานฉันท์” ไว้น่าสนใจ ขอยกมาเสนอไว้ในที่นี้ ดังนี้ –
สมานฉันท์ : มีฉันทะเสมอกัน, มีความพอใจร่วมกัน, พร้อมใจกัน, มีความต้องการที่จะทำการอย่างใดอย่างหนึ่งตรงกันหรือเสมอเหมือนกัน ในทางที่ร้ายหรือดีก็ได้, ในทางร้าย เช่น หญิงและชายที่มีสมานฉันท์ในการประกอบกาเมสุมิจฉาจาร และหมู่คนร้ายที่มีสมานฉันท์ในการทำโจรกรรม ส่วนในทางดี เช่น หมู่คนดีมีสมานฉันท์ที่จะไปทำบุญร่วมกัน เช่น ไปจัดปรับถนนหนทาง สร้างสะพาน ขุดสระ ปลูกสวน สร้างศาลาพักร้อน ให้ทาน รักษาศีล เด็กกลุ่มหนึ่งมีสมานฉันท์ที่จะบรรพชา ภิกษุหลายรูปมีสมานฉันท์ที่จะถือปฏิบัติธุดงค์ข้อนั้นข้อนี้, คนผู้มีสมานฉันท์ในทางร้ายนั้นไม่ต้องใช้ปัญญาไตร่ตรองพิจารณา เพียงชอบใจอยากทำก็ประกอบกรรมไปตามอำนาจของราคะ หรือโลภะ โทสะ และโมหะ ส่วนคนที่จะมีสมานฉันท์ในทางดี เบื้องแรกมองเห็นด้วยปัญญาแล้วว่า กรรมนั้นดีงามเป็นประโยชน์มีเหตุผลควรทำ จึงเกิดฉันทะคือความพอใจใฝ่ปรารถนาที่จะทำ โดยเข้าใจตรงกัน และพอใจเหมือนกัน ร่วมด้วยกัน
: อย่าเอาดีแค่สมานฉันท์
: แต่จงสมานฉันท์กันในทางดี
#บาลีวันละคำ (796)
23-7-57