บาลีวันละคำ

มณฑารพ (บาลีวันละคำ 1,616)

มณฑารพ

อ่านว่า มน-ทา-รบ

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

มณฑารพ : (คำนาม) ชื่อต้นไม้ในเมืองสวรรค์, มณฑา ก็ใช้. (ป. มณฺฑารว).

พจนานุกรมฯ บอกว่าคำนี้บาลีเป็น “มณฺฑารว” (อ่านว่า มัน-ดา-ระ-วะ)

ในคัมภีร์บาลีฉบับของไทย พบว่าศัพท์นี้สะกดเป็น “มณฺฑารว” ( เณร มณโฑ) ก็มี “มนฺทารว” (มัน-ทา-ระ-วะ) ( หนู ทหาร) ก็มี ใช้เป็น “มนฺทาร” (มัน-ทา-ระ) ก็มี

หนังสือ ศัพท์วิเคราะห์ ของ พระมหาโพธิวงศาจารย์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙, ราชบัณฑิต) แสดงรากศัพท์ของ “มนฺทาร” ว่ามาจาก มนฺทฺ (ธาตุ = ยินดี) + อาร ปัจจัย

: มนฺทฺ + อาร = มนฺทาร (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “ต้นไม้เป็นเครื่องยินดีแห่งพวกเทวดา

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน มีศัพท์ว่า “มนฺทาร” บอกไว้ว่า

มนฺทาร : (คำนาม) ‘มันทาร, มนทาร์,’ ต้นไม้เมืองสวรรค์ต้นหนึ่งในจำนวนห้า; ประวาลพฤกษ์; one of the five trees of Svarga; the coral-tree.”

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ มีศัพท์ว่า mandārava คือ “มนฺทารว” (ถ้า “มณฺฑารว” อักษรโรมันจะเป็น maṇḍārava (มีจุดใต้ nd) พจนานุกรมบาลี-อังกฤษไม่ได้เก็บรูปศัพท์ maṇḍārava ไว้) แปลไว้ว่า –

the coral tree, Erythrina fulgens (considered also as one of the 5 celestial trees). The blossoms mentioned D ii.137 fall from the next world. (ต้นทองหลาง, ต้นมณฑารพ [ถือด้วยว่าเป็นหนึ่งในบรรดาต้นไม้บนสวรรค์ 5 ชนิด] ดอกไม้ที่กล่าวไว้ในคัมภีร์ทีฆนิกายว่าตกมาจากอากาศ)

พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต บอกไว้ว่า –

มณฑารพ : ดอกไม้ทิพย์ คือ ดอกไม้ในเมืองสวรรค์ที่ตกลงมาบูชาพระพุทธเจ้า ในวันปรินิพพาน ดาดาษทั่วเมืองกุสินารา และพระมหากัสสปได้เห็นอาชีวกคนหนึ่งถืออยู่ขณะเดินทางระหว่างเมืองกุสินารา กับเมืองปาวา จึงได้ถามข่าวเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า และทราบการปรินิพพานจากอาชีวกนั้น เมื่อ ๗ วันหลังพุทธปรินิพพาน

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกว่า “มณฑารพ” นี้ “มณฑา ก็ใช้”

ที่คำว่า “มณฑา” บอกไว้ว่า

มณฑา : (คำนาม) ชื่อไม้พุ่มชนิด Talauma candollei Blume ในวงศ์ Magnoliaceae ใบใหญ่ ดอกสีเหลืองนวล กลิ่นหอม; มณฑารพ.”

อภิปราย :

มีปัญหาว่า ดอก “มณฑารพ” ลักษณะเป็นอย่างไร?

มณฑารพ” เท่าที่พบคำอธิบายในภาษาไทยล้วนแต่อธิบายเป็น “มณฑา” ทั้งนั้น แต่เมื่อตรวจดูในคัมภีร์ พบว่าคำอธิบายในคัมภีร์ไม่ตรงกับลักษณะของ “มณฑา” หรือ “มณฑารพ” ที่รู้กันในภาษาไทย

ขอเสนอหลักฐานดังต่อไปนี้

(๑) มณฺฑารวปุปฺผํ  คเหตฺวาติ  มหาปาติปฺปมาณํ  ปุปฺผํ  อาคนฺตุกทณฺฑเก  ฐเปตฺวา  ฉตฺตํ  วิย  คเหตฺวา ฯ (สุมังคลวิลาสินี ภาค 2 หน้า 336 อรรถกถามหาปรินิพพานสูตร)

แปล : คำว่า มณฺฑารวปุปฺผํ  คเหตฺวา (ถือดอกมณฑารพ) หมายถึง เอาไม้เสียบดอกมณฑารพขนาดถาดใหญ่ถือมาดังร่ม.

คำว่า “มหาปาติปฺปมาณํ” แปลว่า “ขนาดถาดใหญ่

ศัพท์ว่า “ปาติ” พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปลว่า a bowl, vessel, dish (ถาด, ภาชนะ, ชาม) เป็นการยืนยันลักษณะของดอกมณฑารพว่าแผ่เป็นแผ่นแบนกลม

คำว่า “ฉตฺตํ  วิย  คเหตฺวา” แปลว่า ถือมาเหมือนร่ม ก็ชัดเจนว่าเมื่อเอาไม้เสียบที่กลางดอกแล้วยกขึ้น ดอกมณฑารพก็มีลักษณะเหมือนร่มนั่นเอง

(๒) ตทา  โพธิสตฺโต  สุสิโม  นาม  มหิทฺธิโก  ตาปโส หุตฺวา  เทวโลกโต  มณฺฑารวปุปฺผจฺฉตฺตํ  อาหริตฺวา  สตฺถารํ  ปูชยิ ฯ (อัฏฐสาลินี อรรถกถาคัมภีร์ธัมมสังคณี หน้า 103)

แปล : ครั้งนั้นพระโพธิสัตว์เป็นดาบสมีฤทธิ์มากนามว่า สุสิมะ ได้นำร่มดอกมณฑารพจากเทวโลกมาบูชาพระศาสดา.

“มณฺฑารวปุปฺผจฺฉตฺตํ” แปลว่า “ร่มดอกมณฑารพ” หมายความว่า ดอกมณฑารพนั่นเองมีลักษณะเป็นดังร่มอยู่ในตัว

(๓) ตานิ  โหนฺติ  สุวณฺณวณฺณานิ  ปณฺณจฺฉตฺตปฺปมาณปตฺตานิ ฯ (สุมังคลวิลาสินี ภาค 2 หน้า 295 อรรถกถามหาปรินิพพานสูตร)

แปล : ดอกมณฑารพเหล่านั้นมีสีดั่งทอง มีใบประมาณเท่าฉัตรใบไม้

ความข้อนี้นอกจากบอกสีของดอกมณฑารพว่ามีสีเหลืองแล้ว ยังบอกลักษณะของใบว่ามีขนาดเท่าร่มใบไม้

โปรดดูภาพดอกมณฑารพที่นำมาประกอบเรื่อง แล้วเปรียบเทียบกับข้อความในคัมภีร์ดังที่ยกมาเสนอ ก็จะเกิดคำถามว่า ดอกมณฑารพที่เรารู้กันในภาษาไทยเป็นดอกไม้ชนิดเดียวกันกับที่กล่าวไว้ในคัมภีร์-แน่หรือ?

………….

ในคัมภีร์แสดงไว้ว่า เมื่อพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานนั้นได้เกิด “ปฐวีกัมปนาการ” กล่าวคือแผ่นดินไหวไปในหมื่นโลกธาตุ

ผู้หนักในศรัทธาพากันสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นเพราะความสะเทือนเลื่อนลั่นดังนี้เองเป็นเหตุให้ดอกมณฑารพร่วงหล่นโปรยปรายลงมาจากสวรรค์เป็นพุทธบูชา

………….

ดูก่อนภราดา! 

อันว่าการดับขันธ์ของท่านผู้มีบุญบริสุทธิ์

: ไม่เพียงแต่โลกมนุษย์จะสะท้าน

: แม้โลกสวรรค์ก็ยังสะเทือน

———–

(ตามคำขอของท่านอาจารย์ Pa Ritta อดีตผู้ประกาศข่าววิทยุ BBC ภาคภาษาไทย-ที่ผู้เขียนบาลีวันละคำเป็นแฟนทางอากาศในอดีตกาล)

6-11-59