อาณานิคม (บาลีวันละคำ 1,933)
อาณานิคม
ยังล่าไม่เลิก
อ่านว่า อา-นา-นิ-คม
แยกคำเป็น อาณา + นิคม
(๑) “อาณา”
อ่านว่า อา-นา รากศัพท์มาจาก อาณฺ (ธาตุ = ส่งไป) + อ ปัจจัย + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์
: อาณฺ + อ = อาณ + อา = อาณา แปลตามศัพท์ว่า “เครื่องส่งไป” ขยายความว่า “ส่งคำสั่งไปประกาศให้รู้และให้ปฏิบัติตาม” หมายถึง คำสั่ง, ข้อบังคับ, การบังคับบัญชา, การสั่ง, อำนาจ (order, command, authority)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“อาณา : (คำนาม) อํานาจปกครอง เช่น อาณาบริเวณ. (ป.; ส. อาชฺญา).”
“อาณา” สันสกฤตเป็น “อาชฺญา” อ่านว่า อาด-ยา (เสียงที่น่าจะใกล้เคียงที่สุดคือ อาด-เชีย) เอามาใช้ในภาษาไทยจึงมักออกเสียงตามสะดวกลิ้นไทยว่า อาด-ชะ-ยา
นอกจากปรับเสียงแล้วเรายังปรับรูปเป็น “อาญา” อีกรูปหนึ่ง ในภาษาไทยจึงมีใช้ทั้ง อาณา อาญา และ อาชญา
(๒) “นิคม”
บาลีอ่านว่า นิ-คะ-มะ รากศัพท์มาจาก นิ (แทนศัพท์ว่า “นิพนฺธ” = ผูกพัน, ต่อเนื่อง, ขยาย) + คาม (หมู่บ้าน) + อ ปัจจัย, รัสสะ อา ที่ คา-(ม) เป็น อะ (คาม > คม)
: นิ + คาม = นิคาม + อ = นิคาม > นิคม (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “หมู่บ้านที่เกินหนึ่ง คือที่ปรากฏด้วยโภคะและผู้คนเป็นต้น” (2) “หมู่บ้านที่เจริญยิ่ง” (3) “หมู่บ้านอันเป็นที่มาแห่งรายได้ไพบูลย์ต่อเนื่อง” หมายถึง หมู่บ้าน (คาม) หลายๆ แห่งรวมกัน ตรงกับที่คำไทยเรียกว่า “ตำบล” คือเมืองเล็กๆ, เมืองที่ติดตลาด (a small town, market town)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“นิคม ๑ : (คำนาม) หมู่บ้านขนาดใหญ่, ถิ่นฐานหรือชุมชนที่เกิดขึ้นจากการตั้งหลักแหล่ง, หมู่บ้านใหญ่หรือตำบลที่ประชาชนเข้าไปตั้งถิ่นฐานอยู่เพื่อประกอบอาชีพเป็นหลักฐาน เช่น นิคมสร้างตนเอง นิคมอุตสาหกรรม. (ป.; อ. settlement).”
พจนานุกรมฯ บอกว่า “นิคม” บัญญัติจากคำอังกฤษว่า settlement
พจนานุกรมอังกฤษ-บาลี แปล settlement เป็นบาลีดังนี้ –
(1) sannivesa สนฺนิเวส (สัน-นิ-เว-สะ) = การตั้งถิ่นฐาน
(2) gharabandhana ฆรพนฺธน (คะ-ระ-พัน-ทะ-นะ) = การตั้งบ้านเรือนขยายออกไป
(3) niviṭṭhaṭṭhāna นิวิฏฺฐฏฺฐาน (นิ-วิด-ถัด-ถา-นะ) = การลงหลักปักฐาน, การตั้งถิ่นฐาน
(4) janapada ชนปท (ชะ-นะ-ปะ-ทะ) = “ชนบท” > ถิ่นฐานที่อยู่นอกเมืองหลวง (บางทีหมายถึงรัฐ)
อาณา + นิคม = อาณานิคม แปลตามศัพท์ว่า “ถิ่นฐานที่เป็นไปในอำนาจ”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“อาณานิคม : (คำนาม) เมืองขึ้น, ประเทศที่อยู่ใต้อํานาจอธิปไตยของประเทศอื่น.”
พจนานุกรม สอ เสถบุตร บอกว่า “อาณานิคม” คำอังกฤษว่า a dependency, a colony
พจนานุกรมอังกฤษ-บาลี แปล dependency เป็นบาลีว่า –
parādhīnadesa ปราธีนเทส (ปะ-รา-ที-นะ-เท-สะ) = เมืองที่ต้องพึ่งพาเมืองอื่น
และแปล colony เป็นบาลีว่า –
videsīya-janapada วิเทสีย-ชนปท (วิ-เท-สี-ยะ-ชะ-นะ-ปะ-ทะ) = เมืองของรัฐหนึ่งที่ตั้งอยู่ในต่างถิ่น
…………..
ขยายความ :
อาณานิคมสามารถเกิดขึ้นได้จาก 2 กรณี คือ
กรณีแรก คือการจัดตั้งอาณานิคม ในอดีต เจ้าอาณานิคมมักส่งคณะบุกเบิกไปตั้งอาณานิคมในดินแดนที่ไม่มีเจ้าของ
กรณีที่สอง คือการเข้ายึดครองดินแดนซึ่งเดิมอาจเคยเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ของตนเองมาก่อน หรืออาจมีชนพื้นเมืองอาศัยอยู่ก่อน
อย่างไรก็ตาม วัตถุประสงค์หลักของการมีอาณานิคม คือการแสวงหาทรัพยากรและผลประโยชน์ป้อนแก่แผ่นดินบ้านเกิดของเจ้าอาณานิคมที่เรียกว่า “แผ่นดินแม่”
(จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี อ่านเมื่อ 24 กันยายน 2560)
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ถ้าใจยังตกเป็นทาสของกิเลส
: ก็ช่างน่าสังเวชที่ยังมีหน้ามาบอกว่าเราไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร
#บาลีวันละคำ (1,933)
24-9-60