วจีกรรม [2] (บาลีวันละคำ 2,140)
วจีกรรม [2]
ไม่ต้องเปิดปากก็ทำได้
อ่านว่า วะ-จี-กำ
แยกคำเป็น วจี + กรรม
(๑) “วจี”
บาลีอ่านว่า วะ-จี รากศัพท์มาจาก วจฺ (ธาตุ = พูด) + อ ปัจจัย + อี ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์
: วจฺ + อ = วจ + อี = วจี แปลตามศัพท์ว่า “คำอันเขาพูด” หมายถึง คำพูด, ถ้อยคำ (speech, words)
อีกคำหนึ่งที่มีความหมายอย่างเดียวกับ “วจี” คือ “วาจา” รากศัพท์มาจาก วจฺ (ธาตุ = พูด) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, ทีฆะ อะ ที่ ว-(จฺ) เป็น อา ตามสูตร “ด้วยอำนาจปัจจัยเนื่องด้วย ณ” (วจฺ > วาจ) + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตฺถีลิงค์
: วจฺ + ณ = วจณ > วจ > วาจ + อา = วาจา แปลตามศัพท์ว่า “คำอันเขาพูด” หมายถึง คำพูด การกล่าว, การพูด, วาจา (word, saying, speech)
(๒) “กรรม”
บาลีเป็น “กมฺม” (กำ-มะ) สันสกฤตเป็น “กรฺม” ไทยเขียนอิงสันสกฤตและนิยมพูดทับศัพท์ว่า “กรรม”
“กรรม” ในแง่ภาษา –
1- รากศัพท์คือ กรฺ (ธาตุ = กระทำ) + รมฺม (รำ-มะ, ปัจจัย)
2- ลบ รฺ ที่ธาตุ : กรฺ = ก- และ ร ที่ปัจจัย : รมฺม = -มฺม
3- กร > ก + รมฺม > มฺม : ก + มฺม = กมฺม
4- แปลตามศัพท์ว่า “การกระทำ” “สิ่งที่ทำ” (the doing, deed, work)
“กรรม” ในแง่ความหมาย –
1- การกระทำทั้งปวง เรียกว่า กรรม
2- การถูกทำ, สิ่งที่ถูกทำ, ผลของการกระทำ ก็เรียกว่า กรรม
3- การทำกิจการงาน, การประกอบอาชีพ ก็เรียกว่า กรรม
4- พิธีกรรม, พิธีการต่างๆ ก็เรียกว่า กรรม
“กรรม” ในแง่ความเข้าใจ –
1- กฎแห่งกรรม คือ “ทำดี-ดี ทำชั่ว-ชั่ว ดุจปลูกพืชชนิดใด ต้องเกิดผลดอกใบของพืชชนิดนั้น”
2- กรรมมี 2 ส่วน คือส่วนที่เป็นผล คือสภาพทั้งปวงที่เรากำลังเผชิญหรือประสบอยู่ และส่วนที่เป็นเหตุ คือสิ่งที่เรากำลังกระทำอยู่ในบัดนี้ ซึ่งจะก่อให้เกิดส่วนที่เป็นผลในลำดับต่อไป (ผู้ที่ไม่เข้าใจ เมื่อมอง “กรรม” มักเห็นแต่ส่วนที่เป็นผล แต่ไม่เห็นส่วนที่เป็นเหตุ)
3- กรรม เป็นสัจธรรม ไม่ขึ้นกับความเชื่อหรือความเข้าใจของใคร ไม่ว่าใครจะเชื่ออย่างไรหรือไม่เชื่ออย่างไร กรรมก็เป็นจริงอย่างที่กรรมเป็น
วจี + กมฺม = วจีกมฺม แปลตามศัพท์ว่า “การกระทำทางวาจา” (verbal action) หมายถึง การกระทำด้วยคำพูด ในทางตรงข้ามกับการกระทำด้วยกายและใจ (deed performed by speech in contradistinction to deeds by the body or thought)
“วจีกมฺม” ในภาษาไทยใช้เป็น “วจีกรรม” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายไว้ว่า –
“วจีกรรม : (คำนาม) การพูด, การกระทําทางวาจา, เช่น การกล่าวเท็จเป็นการทำผิดทางวจีกรรม. (ป. วจีกมฺม).”
คำในชุดนี้มี ๓ คำ คือ –
(1) กายกรรม = กรรมที่ทำด้วย “การกระทำ” (bodily action)
(2) วจีกรรม = กรรมที่ทำด้วย “คำพูด” (verbal action)
(3) มโนกรรม = กรรมที่ทำด้วย “การคิด” (mental action)
ดูเพิ่มเติม : “วจีกรรม [1]” บาลีวันละคำ (1,934) 25-9-60
ขยายความ :
คนทั่วไปมักเข้าใจแต่เพียงว่า วจีกรรมก็คือการพูด คือใช้ปากเปล่งเสียงออกมาเป็นภาษา
แต่ความจริงวจีกรรมสามารถทำได้ 2 ทาง คือ –
(1) ทางวจีทวาร (speech as a door of action; speech-door) คือใช้ปากเปล่งเสียงออกมาเป็นภาษา
(2) ทางกายทวาร (the body-door; the channel of bodily action) คือใช้กิริยาอาการแทนคำพูด ที่เรียกกันว่า “ภาษาท่าทาง” เช่น พยักหน้า = รับ สั่นศีรษะ = ปฏิเสธ ชี้มือ โบกมือ ฯลฯ
แม้แต่การนิ่งเฉยไม่แสดงกิริยาอาการใดๆ เลย ก็อาจตีความได้ว่าเป็นการยอมรับ = นิ่งคือยอมรับ ก็จัดเป็น “วจีกรรม” แบบหนึ่ง
หรืออย่างที่รู้จักกันดีในปัจจุบัน คือ “ภาษามือ” นี่ก็เป็น “วจีกรรม” ที่ทำทางกายทวาร
การเขียนหนังสือ การทำเครื่องหมายลายลักษณ์ต่างๆ แม้กระทั่งการวาดรูปก็จัดเป็น “วจีกรรม” ชนิดหนึ่งด้วยเช่นกัน
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อเรื่องสวรรค์นรก
: ก็ไม่เป็นเหตุให้การพูดโกหกกลายเป็นความดี
#บาลีวันละคำ (2,140)
22-4-61