นิ้วทั้งห้า (บาลีวันละคำ 2,169)
นิ้วทั้งห้า
ภาษาบาลีว่าอย่างไร
นิ้วทั้ง 5 นิ้ว ภาษาไทยเรียกว่า นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง และ นิ้วก้อย แต่ละนิ้วเรียกเป็นคำบาลีดังนี้ –
(๑) นิ้วหัวแม่มือ ใช้คำบาลีว่า “องฺคุฏฺฐ” (อัง-คุด-ถะ)
“องฺคุฏฺฐ” รากศัพท์มาจาก –
(1) องฺคฺ (ธาตุ = ไป, เป็นไป) ฐ ปัจจัย, แปลง อะ ที่ (องฺ)-คฺ เป็น อุ (องฺคฺ > องฺคุ), ซ้อน ฏฺ ระหว่างธาตุกับปัจจัย (องฺค > องฺคุ + ฏฺ + ฐ)
: องฺค > องฺคุ + ฏฺ + ฐ = องฺคุฏฺฐ แปลตามศัพท์ว่า “นิ้วที่เป็นไปปกติ”
(2) อคฺคฺ (เลิศ, อันดับต้น) + ฐา (ธาตุ = ตั้งอยู่) + อ ปัจจัย, ลบ คฺ ตัวหนึ่งที่ อคฺค (อคฺค > อค), ลงนิคหิตอาคมที่ อ-(ค) แล้วแปลงนิคหิตเป็น งฺ (อค > อํค > องฺค), แปลง อะ ที่ (องฺ)-คฺ เป็น อุ (องฺคฺ > องฺคุ), ซ้อน ฏฺ ระหว่างศัพท์หน้ากับธาตุ (องฺคุ + ฏฺ + ฐา), ลบ อา ที่ ฐา (ฐา > ฐ)
: อคฺค > อค > อํค > องฺค > องฺคุ + ฏฺ + ฐา = องฺคุฏฺฐา > องฺคุฏฺฐ + อ = องฺคุฏฺฐ แปลตามศัพท์ว่า “นิ้วที่อยู่ต้น”
“องฺคุฏฺฐ” (ปุงลิงค์) ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) หัวแม่มือ (the thumb)
(2) หัวแม่เท้า (the great toe)
“องฺคุฏฺฐ” ในภาษาไทยใช้เป็น “อังคุฐ” (อัง-คุด) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“อังคุฐ : (คำนาม) นิ้วหัวแม่มือ. (ป. องฺคุฏฺฐ; ส. องฺคุษฺฐ).”
(๒) นิ้วชี้ ใช้คำบาลีว่า “ตชฺชนี” (ตัด-ชะ-นี)
“ตชฺชนี” รากศัพท์มาจาก ตชฺช (ธาตุ = เบียดเบียน, คุกคาม) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน, ลง อี เครื่องหมายอิตถีลิงค์
: ตชฺช + ยุ > อน = ตชฺชน + อี = ตชฺชนี แปลตามศัพท์ว่า “เครื่องเบียดเบียน” คือใช้ชี้หน้าคนอื่น ความหมายตามศัพท์คือ การขู่, การคุกคาม (threat, menace)
“ตชฺชนี” ใช้ในภาษาไทยเป็น “ดัชนี” และ “ดรรชนี” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ดัชนี ๑ : (คำนาม) นิ้วชี้, นิ้วที่อยู่ระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วกลาง, ราชาศัพท์ใช้ว่า พระดัชนี, ดรรชนี ก็ใช้. (ป. ตชฺชนี; ส. ตรฺชนี).”
(๓) นิ้วกลาง ใช้คำบาลีว่า “มชฺฌิมา” (มัด-ชิ-มา)
“มชฺฌิมา” ศัพท์เดิมมาจาก มชฺฌ + อิม ปัจจัย + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์
(ก) “มชฺฌ” รากศัพท์มาจาก มชฺ (ธาตุ = บริสุทธิ์, สะอาด) + ฌ ปัจจัย
: มชฺ + ฌ = มชฺฌ แปลตามศัพท์ว่า “จุดที่หมดจด”
“มชฺฌ” ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) (นปุงสกลิงค์) ตรงกลาง, กลาง ๆ, สามัญ, มัธยม, สายกลาง (middle, medium, mediocre, secondary, moderate)
(2) (ปุงลิงค์) สะเอว (the waist)
(ข) มชฺฌ + อิม = มชฺฌิม + อา = มชฺฌิมา ใช้เป็นคุณศัพท์ขยายศัพท์ที่เป็นอิตถีลิงค์ แปลตามศัพท์ว่า “-อันตั้งอยู่ในท่ามกลาง” หรือ “-อันเป็นไปในท่ามกลาง” ความหมายอย่างเดียวกับ “มชฺฌ”
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“มัชฌิมา : (คำวิเศษณ์) ปานกลาง, ไม่ยิ่งไม่หย่อน, เช่น พอเป็นมัชฌิมา.(ราชาศัพท์) (คำนาม) นิ้วกลาง เรียกว่า พระมัชฌิมา. (ป.; ส. มธฺยมา).”
(๔) นิ้วนาง ใช้คำบาลีว่า “อนามิกา” (อะ-นา-มิ-กา)
“อนามิกา” รากศัพท์มาจาก น (คำนิบาต ไม่, ไม่ใช่)+ นาม (ชื่อ) + อิก ปัจจัย + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์, แปลง น เป็น อ ตามกฎ: ถ้าพยางค์แรกของคำที่ “น” ไปประสมด้วย ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ ให้แปลง น เป็น อ)
: น + นาม = นนาม > อนาม + อิก = อนามิก + อา อนามิกา แปลตามศัพท์ว่า “นิ้วที่ไม่มีชื่อ” หมายถึง นิ้วนาง
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“อนามิกา : (ราชาศัพท์) (คำนาม) นิ้วนาง, ใช้ว่า พระอนามิกา หรือ อนามิกา.”
(๕) นิ้วก้อย ใช้คำบาลีว่า “กนิฏฺฐา” (กะ-นิด-ถา)
“กนิฏฺฐา” รากศัพท์มาจาก อปฺป (น้อย, เล็กน้อย) + อิฏฺฐ ปัจจัย, แปลง อปฺป เป็น กน + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์
: อปฺป > กน + อิฏฺฐ = กนิฏฺฐ + อา = กนิฏฺฐา แปลตามศัพท์ว่า “นิ้วที่เล็กที่สุด”
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“กนิษฐา : (คำที่ใช้ในบทร้อยกรอง) (คำนาม) น้องสาว; (ราชาศัพท์) น้องสาว; นิ้วก้อย; ใช้ว่า พระกนิษฐา. (ส.).”
ข้อสังเกต :
ชื่อนิ้วทั้ง 5 นิ้วที่เป็นคำบาลีเป็นคำที่ทางไวยากรณ์เรียกว่า “อิตถีลิงค์” (คำเพศหญิง) 4 ชื่อ คือ
ตชฺชนี = นิ้วชี้
มชฺฌิมา = นิ้วกลาง
อนามิกา = นิ้วนาง
กนิฏฺฐา = นิ้วก้อย
มีเพียง องฺคุฏฺฐ = นิ้วหัวแม่มือคำเดียวที่เป็น “ปุงลิงค์” (คำเพศชาย)
เพียงแค่ + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์ = องฺคุฏฺฐา (อัง-คุด-ถา) ก็เป็นอิตถีลิงค์ได้แล้ว แต่ทำไมท่านจึงไม่ทำเช่นนั้น ควรหาเหตุผลต่อไป
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกคำราชาศัพท์ของนิ้ว 4 นิ้ว คือ –
นิ้วชี้ = พระดัชนี
นิ้วกลาง = พระมัชฌิมา
นิ้วนาง = พระอนามิกา หรือ อนามิกา
นิ้วก้อย = พระกนิษฐา
ที่คำว่า “อังคุฐ” พจนานุกรมฯ บอกคำแปลว่า “นิ้วหัวแม่มือ” แต่ไม่ได้บอกว่าคำนี้เป็นราชาศัพท์ และไม่ได้บอกว่าคำราชาศัพท์ใช้ว่าอย่างไร
…………..
นิ้วทั้งห้านี้ ผู้รู้ท่านให้คติคือแง่คิดบางประการที่น่าสนใจ เช่น
– นิ้วมือ 5 นิ้วยังยาวไม่เท่ากัน พี่น้องคลานตามกันมาจะให้เหมือนกันทุกคนไม่ได้
– เวลาชี้คนอื่น นิ้วชี้ชี้ไปนิ้วเดียว อีก 3 นิ้วชี้เข้าตัวเอง เป็นคติว่า สอนคนอื่นมากเท่าไร ก็ให้สอนตัวเองมากเป็น 3 เท่า
…………..
ดูก่อนภราดา!
: อย่าใช้รูปร่างหน้าตาเป็นตัวชี้วัด
: อย่าใช้ทรัพย์สมบัติเป็นตัวชี้ขาด
: อย่าใช้ความรู้ความสามารถเป็นตัวชี้นำ
: แต่จงใช้คุณธรรมเป็นตัวชี้ชะตากรรมของตนเอง
#บาลีวันละคำ (2,169)
21-5-61