Month: มิถุนายน 2014

บาลีวันละคำ

อินทรีย์ (บาลีวันละคำ 753)

อินทรีย์
ภาษาไทยอ่านว่า อิน-ซี
บาลีเป็น “อินฺทฺริย” อ่านว่า อิน-ทฺริ-ยะ
“อินฺทฺริย” รากศัพท์ประกอบด้วย อินฺท + ร อาคม + อิย ปัจจัย
“อินฺท” รากศัพท์มาจาก อิทิ (ธาตุ = เป็นใหญ่ยิ่ง) + นิคหิตอาคม + อ ปัจจัย, แปลงนิคหิตเป็น น, ลบสระที่สุดธาตุ
: อิทิ > อึทิ (อิง-ทิ) > อินฺทิ > อินฺท + อ = อินฺท แปลว่า “ผู้กระทำความเป็นใหญ่ยิ่ง” หมายถึง พระอินทร์, ผู้เป็นเจ้า, ผู้เป็นหัวหน้า, พระราชา, ผู้ปกครอง
: อินฺท + ร = อินฺทร + อิย = อินฺทริย > อินฺทฺริย (มีจุดใต้ ทฺ) แปลตามศัพท์ว่า (1) “เป็นของพระอินทร์” (belonging to Indra) (2) “เป็นของผู้ปกครอง” (belonging to the ruler)
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ ไขความคำว่า “อินฺทฺริย” (ตามความเข้าใจของฝรั่ง) ไว้ดังนี้ –
(1) faculty, function (สมรรถพล = กำลังแห่งความสามารถ, การทำงาน)
(2) kind, characteristic, determinating principle, sign, mark (ชนิด, ลักษณะ, หลักที่เป็นตัวกำหนด, เครื่องแสดง, เครื่องหมาย)
(3) principle, controlling force (หลักการ, กำลังที่ควบคุม)
(4) category (ประเภท)
อินฺทฺริย ภาษาไทยใช้ว่า “อินทรีย์” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายไว้ดังนี้ –
(1) ร่างกายและจิตใจ เช่น สํารวมอินทรีย์
(2) สติปัญญา เช่น อินทรีย์แก่กล้า
(3) สิ่งมีชีวิต

Read More
บาลีวันละคำ

สัญญาบัตร (บาลีวันละคำ 752)

สัญญาบัตร
อ่านว่า สัญญาบัตร
ประกอบด้วย สัญญา + บัตร
“สัญญา” บาลีเขียน “สญฺญา” ประกอบด้วย สํ 😊 พร้อมกัน) + ญา (ธาตุ = รู้) แปลงนิคหิตที่ สํ เป็น ญ
: สํ > สญฺ + ญา = สญฺญา มีความหมายหลายอย่าง คือ –
(1) ความรู้สึก, ความรับรู้, ความจำได้, ความหมายรู้ (sense, consciousness, perception)
(2) ความสังเกตจดจำ, ความสุขุม, ความตระหนัก (sense, perception, discernment, recognition)
(3) แนวความคิด, ความคิด, ความเข้าใจ (conception, idea, notion)
(4) สัญญาณ, กิริยาท่าทาง, เครื่องแสดง, เครื่องหมาย (sign, gesture, token, mark)
(5) ความประทับใจที่เกิดจากความรู้สึกและการจำได้, ความรู้สึกว่ามีบางสิ่งที่เหมือนกัน (เช่นเห็นคนหนึ่งแล้วนึกถึงอีกคนหนึ่ง) (sense impression and recognition)
“บัตร” บาลีเป็น “ปตฺต” (ปัด-ตะ) สันสกฤตเป็น “ปตฺร” แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่จะร่วงหล่นโดยไม่นาน” หมายถึง ใบไม้, ใบ, แผ่น, ใบหนังสือ, จดหมาย, ลายลักษณ์อักษรทั่วไป
ปตฺต > ปตฺร ภาษาไทยเขียนอิงสันสกฤตเป็น “บัตร”
เดิมเราขีดเขียนอักษรลงบนใบไม้เพื่อใช้ส่งสารติดต่อถึงกัน ต่อมาเมื่อพัฒนาขึ้นเป็นแผ่นกระดาษ จึงเรียกกระดาษหรือสิ่งที่เป็นแผ่นใช้เขียนลายลักษณ์อักษรว่า “ปตฺต – ปตฺร – บัตร”
ในภาษาไทย คำว่า “บัตร” ใช้ต่อท้ายคำศัพท์ที่เป็นบาลีสันสกฤตด้วยกัน เช่น นามบัตร สิทธิบัตร ประกาศนียบัตร มรณบัตร อนุโมทนาบัตร
สัญญา + บัตร = สัญญาบัตร แปลตามศัพท์ว่า “หนังสือ (ที่ประกาศ) เพื่อให้จำได้”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

Read More
บาลีวันละคำ

กิตติมศักดิ์ (บาลีวันละคำ 751)

กิตติมศักดิ์
อ่านว่า กิด-ติ-มะ-สัก
ประกอบด้วย กิตติม + ศักดิ์
“กิตติม” คำเดิมในบาลีเป็น “กิตฺติมา” ส่วนประกอบมาจาก กิตฺติ + มนฺตุ (ปัจจัย แทนความหมายว่า “มี”)
“กิตฺติ” แปลตามศัพท์ว่า “ความดีอันเขากล่าวถึง” หมายถึง คําเล่าลือ, คําสรรเสริญ, ชื่อเสียง, เกียรติยศ, ความรุ่งโรจน์ (fame, renown, glory, honour)
กิตฺติ + มนฺตุ แปลง -นฺตุ เป็น อา : ม + อา = มา : กิตฺติ + มา = กิตฺติมา แปลว่า ผู้มีเกียรติ, ผู้มีชื่อเสียง, ผู้ควรแก่การยกย่อง
“ศักดิ์” บาลีเป็น “สตฺติ” (สัด-ติ) สันสกฤตเป็น “ศกฺติ” แปลว่า ความสามารถ, กำลัง, อำนาจ (ability, power) ภาษาไทยเขียนอิงสันสกฤตเป็น “ศักดิ” และนิยมออกเสียงว่า “สัก” จึงสะกดเป็น “ศักดิ์”
พจน.54 บอกไว้ว่า –
“ศักดิ์ : (คำนาม) อํานาจ, ความสามารถ, เช่น มีศักดิ์สูง ถือศักดิ์; กำลัง; ฐานะ เช่นมีศักดิ์และสิทธิแห่งปริญญานี้ทุกประการ.”
กิตติมา + ศักดิ์ ลบสระ อา ที่ -มา (ภาษาไวยากรณ์ว่า “รัสสะ อา เป็น อะ”)

Read More
บาลีวันละคำ

ลาสิกขาบท (บาลีวันละคำ 750)

ลาสิกขาบท
(คำที่วิปริต)
อ่านว่า ลา-สิก-ขา-บด
“สิกขาบท” บาลีเป็น “สิกฺขาปท” อ่านว่า สิก-ขา-ปะ-ทะ
ประกอบด้วย สิกฺขา + ปท
“สิกฺขา” มีรากศัพท์ คือ สิกฺข (ธาตุ = ศึกษา, เรียนรู้) + อ ปัจจัย + อา (ปัจจัยศัพท์ให้เป็นอิตถีลิงค์)
: สิกฺข + อ + อา = สิกฺขา
“สิกฺขา” แปลตามศัพท์ว่า “ข้อปฏิบัติอันบุคคลพึงศึกษา” หมายถึง การศึกษา, การฝึก, สิกขาหรือวินัย (study, training, discipline)
ในภาษาไทย “สิกฺขา” นิยมใช้ตามรูปสันสกฤต คือ “ศิกฺษา” แล้วเสียงกลายเป็น “ศึกษา” และพูดทับศัพท์ว่า “ศึกษา” จนเข้าใจกันทั่วไป
“ศึกษา” ในความเข้าใจทั่วไป มักหมายความเพียงแค่ “เรียนวิชาความรู้”
แต่ “สิกฺขา” ในภาษาบาลีหมายถึง การฝึกฝนปฏิบัติ, การเล่าเรียนให้รู้เข้าใจและฝึกหัดปฏิบัติให้เป็นคุณสมบัติที่เกิดมีขึ้นในตนหรือให้ทำได้ทำเป็น ตลอดจนแก้ไขปรับปรุงหรือพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปจนถึงความสมบูรณ์
สำหรับบรรพชิต “สิกฺขา” หมายถึงระบบวิถีชีวิตทั้งชีวิต เช่น คฤหัสถ์บวชเป็นภิกษุ นั่นคือการเข้าสู่ระบบสิกขา คือใช้ชีวิตเยี่ยงบรรพชิตตามที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้
“ปท” แปลว่า เท้า, รอยเท้า, ทาง, ตำแหน่ง, สถานที่, กรณี, หลักการ, ส่วนประกอบ (foot, footstep, track, position, place, case, principle, ingredient)
“ปท” ในภาษาไทยมักใช้ทับศัพท์ว่า “บท”
สิกฺขา + ปท = สิกฺขาปท > สิกขาบท

Read More
บาลีวันละคำ

บริบท (บาลีวันละคำ 749)

บริบท
อ่านว่า บอ-ริ-บด
บาลีเป็น “ปริปท” อ่านว่า ปะ-ริ-ปะ-ทะ
“ปริปท” ประกอบด้วยคำว่า ปริ + ปท
“ปริ” เป็นคำอุปสรรค มีความหมายว่า รอบ, เวียน, ทั่วไป, เต็มไปหมด, รวมหมด
ในภาษาไทย “ปริ” คงใช้เป็น ปริ- (อ่านว่า ปะ-ริ-) ก็มี ใช้เป็น บริ- (อ่านว่า บอ-ริ-)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ปริ- ๑ : เป็นอุปสรรคในภาษาบาลีและสันสกฤต, ใช้นําหน้าศัพท์อื่นแปลว่า รอบ เช่น ปริมณฑล”
“ปท” โดยทั่วไปแปลว่า เท้า, รอยเท้า, ทาง (foot, footstep, track) ในภาษาไทยมักใช้ทับศัพท์ว่า “บท”
คำว่า ปท-บท ยังมีความหมายอื่นๆ อีก เช่น ตำแหน่ง, สถานที่, กรณี, หลักการ, ส่วนประกอบ (position, place, case, principle, ingredient)
ปริ + ปท = ปริปท > บริบท เป็นการประสมกับแบบบาลีไทย
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“บริบท : (คำที่ใช้ในไวยากรณ์) คํา ข้อความ หรือสถานการณ์แวดล้อมเพื่อช่วยให้เข้าใจความหมายของภาษาหรือของถ้อยคำ, ปริบท ก็ว่า”
ศ. ดร.กาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิต สำนักศิลปกรรม ราชบัณฑิตยสถาน เขียนไว้ว่า –
“ในการใช้ภาษา บางครั้งข้อความที่กล่าวจะไม่กระจ่างชัดเจน, ต้องอาศัยข้อความข้างเคียง หรือในบางครั้งต้องอาศัยสถานการณ์แวดล้อม หรือความรู้เกี่ยวกับตัวผู้พูดผู้ฟังทำให้เข้าใจความหมายของถ้อยคำที่พูดนั้น. คำหรือข้อความแวดล้อม รวมทั้งสถานการณ์แวดล้อมนั้น เรียกรวมกันว่า context หรือ context of situation. ในภาษาไทยใช้คำว่า บริบท หรือ ปริบท. ปัจจุบันมีการใช้คำว่า บริบท กับสิ่งอื่นด้วย เช่น บริบททางการเมือง บริบททางสังคม”
พจนานุกรม สอ เสถบุตร แปล context เป็นไทยว่า
1. คำอธิบายซึ่งอยู่หลังคำอรรถในเทศน์, ท้องเรื่อง, อรรถาธิบาย
2. สิ่งแวดล้อม

Read More
บาลีวันละคำ

สุวรรณภูมิ (บาลีวันละคำ 748)

สุวรรณภูมิ
ภาษาไทยอ่านว่า สุ-วัน-นะ-พูม
บาลีเป็น “สุวณฺณภูมิ” อ่านว่า สุ-วัน-นะ-พู-มิ
ประกอบด้วย สุวณฺณ + ภูมิ
“สุวณฺณ” มาจาก สุ ดี, งาม) + วณฺณ สี) = สุวณฺณ แปลตามศัพท์ว่า “สีดี” หรือ “สีงาม” หมายถึง ทองคำ (gold)
“สุวณฺณ” สันสกฤตเป็น “สุวรฺณ” ภาษาไทยใช้อิงสันสกฤตเป็น “สุวรรณ”
“ภูมิ” บาลีอ่านว่า พู-มิ แปลตามรากศัพท์ว่า “สถานที่มีอยู่เป็นอยู่แห่งสัตว์โลก” มีความหมายหลายอย่าง กล่าวคือ พื้นดิน, ดิน, แผ่นดิน, สถานที่, ถิ่น, แคว้น, แถบ, ภูมิภาค, พื้น, พื้นราบ, ขั้นตอน, ระดับ (ground, soil, earth, place, quarter, district, region, plane, stage, level)
สุวณฺณ + ภูมิ = สุวณฺณภูมิ แปลความได้หลายนัย เช่น –
(1) ดินแดนแห่งทองคำ = แดนทอง, ถิ่นทอง
(2) แผ่นดินอันมีค่าดุจทองคำ = แผ่นดินทอง
(3) ดินแดนที่สวยงาม = ถิ่นงาม

Read More
บาลีวันละคำ

ศาสตราจารย์ (บาลีวันละคำ 747)

ศาสตราจารย์
(บาลีไทย)
อ่านว่า สาด-ตฺรา-จาน ก็ได้ สาด-สะ-ตฺรา-จาน ก็ได้
(ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554)
ประกอบด้วย ศาสตรา + อาจารย์
เทียบบาลีเป็น สตฺถ + อาจริย
“สตฺถ” ในบาลีมีคำแปลดังนี้ –
(1) “วัตถุเป็นเครื่องเบียดเบียนสัตว์” คำเดิมหมายถึง “ของมีคม” ความหมายนี้ตรงกับสันสกฤตว่า “ศสฺตฺร” แปลว่า ดาบ, มีด, อาวุธ ใช้ในภาษาไทยว่า ศัสตรา หรือ ศาสตรา บางทีก็พูดควบกันว่า ศาสตราวุธ หรือ ศาสตราอาวุธ (weapon, sword, knife)
(2) “หมู่เป็นที่เป็นไปแห่งส่วนย่อยทั้งหลาย” ความหมายนี้ตรงกับสันสกฤตว่า “สารฺถ” หมายถึง กองเกวียนของพ่อค้า, กองคาราวาน, ขบวนยานพาหนะ (caravan)
(3) “สิ่งเป็นเครื่องสอนเนื้อความ” ความหมายนี้ตรงกับสันสกฤตว่า “ศาสฺตฺร” หมายถึง คัมภีร์, ตำรา, ศิลปะ, วิชา หรือ ระบบวิชาความรู้. ใช้ในภาษาไทยว่า “ศาสตร์” (science, art, lore)
ในคำว่า “ศาสตราจารย์” นี้ สตฺถ มีความหมายตามข้อ (3) คือ “ศาสตร์”
“อาจริย” รากศัพท์ประกอบด้วย อา + จรฺ + อิย = อาจริย
อา – เป็นคำอุปสรรค = ทั่ว, ยิ่ง และเป็นคำแทนคำว่า “อาทิ” = แต่เดิม, เริ่มแรก และ “อาทร” (อา-ทะ-ระ) = เอาใจใส่, ให้ความสำคัญ
จรฺ – เป็นธาตุ (รากศัพท์) = ประพฤติ, บำเพ็ญ, ศึกษา
อิย – เป็นปัจจัย = พึง, ควร

Read More
บาลีวันละคำ

บริหาร (บาลีวันละคำ 746)

บริหาร
อ่านว่า บอ-ริ-หาน
บาลีเป็น “ปริหาร” อ่านว่า ปะ-ริ-หา-ระ
“ปริหาร” รากศัพท์มาจาก ปริ รอบ) + หรฺ (ธาตุ = นำไป) + ณ ปัจจัย ทีฆะ อะ ต้นธาตุ เป็น อา, ลบ ณ
: ปริ + หร = ปริหร > ปริหาร + ณ = ปริหาร แปลว่า “นำไปรอบ”
“ปริหาร” ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) ความเอาใจใส่, การดูแลระมัดระวัง, การป้องกัน (attention, care, protection)
(2) เกียรติยศ, สิทธิพิเศษ, ภูมิฐาน (honour, privilege, dignity)
(3) บริเวณรอบๆ, เส้นหรือแนวรอบที่ดิน (surrounding, circuit of land)
(4) ลงมือปฏิบัติการ (attack)
(5) การละเว้นหรือหลีก, การหลีกให้พ้น (avoidance, keeping away from)

Read More
บาลีวันละคำ

บูรพาพยัคฆ์ (บาลีวันละคำ 745)

บูรพาพยัคฆ์
(บาลีไทย)
อ่านว่า บู-ระ-พา-พะ-ยัก
เทียบบาลีเป็น “ปุพฺพพฺยคฺฆ” อ่านว่า ปุบ-พะ-พฺยัก-คะ
(พฺยัก- ออกเสียงเหมือน เพียก-)
ประกอบด้วย ปุพฺพ + พฺยคฺฆ
“ปุพฺพ” แปลว่า อดีต, เคยมีมาก่อน, แต่ก่อน, เบื้องหน้า, ตะวันออก
“ปุพฺพ” สันสกฤตเป็น “ปูรฺว” ในภาษาไทยใช้ตามบาลีก็มี เช่น –
(1) เป็น บุพ- เช่น บุพการี = “ผู้ที่ทําอุปการะมาก่อน”
(2) เป็น บุพพ- เช่น บุพพาจารย์ = “อาจารย์ในเบื้องต้น”
ใช้อิงสันสกฤต โดย –
(1) แผลง ปู เป็น บุ แผลง ว เป็น พ : ปูรฺว > บุรว > บุรพ ก็มี เช่น บุรพทิศ = “ทิศตะวันออก”
(2) แผลง ปู เป็น บู แผลง ว เป็น พ = บูรพ ก็มี เช่น บูรพาจารย์ = “อาจารย์ในเบื้องต้น”
(3) แผลง ปูรฺว เป็น บรรพ ก็มี เช่น บรรพบุรุษ = “คนผู้มีมาก่อน” แต่ปางบรรพ์ = แต่ปางก่อน

Read More
บาลีวันละคำ

บรรพบุรุษ (บาลีวันละคำ 744)

บรรพบุรุษ
อ่านว่า บัน-พะ-บุ-หฺรุด
บาลีเป็น “ปุพฺพปุริส” อ่านว่า ปุบ-พะ-ปุ-ริ-สะ
ประกอบด้วย ปุพฺพ + ปุริส
“ปุพฺพ” แปลว่า อดีต, เคยมีมาก่อน, แต่ก่อน, ก่อน (previous, former, before)
“ปุพฺพ” สันสกฤตเป็น “ปูรฺว” ในภาษาไทยใช้ตามบาลีเป็น บุพ- หรือ บุพพ- ก็มี ใช้อิงสันสกฤตโดยแผลงเป็น บรรพ- และเขียนเป็น บรรพ์ (การันต์ที่ พ) ก็มี
“ปุริส” มีรากศัพท์ ดังนี้ –

Read More